พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคนอาจจะสงสัยว่า Facebook Ads ที่เห็นทำไมมีให้เลือกมากมาย แล้วแต่ละประเภททำงานอย่างไร เหมาะกับธุรกิจแบบไหน บทความนี้เรามีข้อมูลมาอธิบาย

การจะเลือกใช้ Facebook Ads ให้เหมาะกับสินค้าและบริการของเรา สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงคือวัตถุประสงค์ในการยิงแอดแต่ละครั้งว่าเราต้องการยิงแอดออกไปเพื่อกระตุ้นการมองเห็น เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วม หรือเพื่อเพิ่มยอดขาย เมื่อเรามีวัตถุประสงค์ในการยิงแอดแต่ละครั้งชัดเจนแล้ว จึงมาทำความเข้าใจประเภทของ Facebook Ads ต่าง ๆ เพื่อให้การยิงแอดแต่ละครั้งคุ้มค่าคุ้มราคา และคุ้มกับเวลาที่เสียไปของเราให้มากที่สุด

ประเภทของ Facebook Ads

1. Image Ads

เป็นการโฆษณาโดยใช้รูปภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพ Page Post, Infographic หรือ Content Album เป็นต้น นับเป็นการโฆษณาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด รวดเร็วที่สุด และสร้างได้ง่ายที่สุด อีกทั้งยังเป็นวิธีการโฆษณาที่ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ ดึงดูดความสนใจกลุ่มเป้าหมาย และกระตุ้นการรับรู้ของแบรนด์เราได้ง่ายและไวที่สุดอีกด้วย โดยสกุลไฟล์ภาพที่แนะนำคือ JPG หรือ PNG ควรมีความละเอียดขั้นต่ำ 1080 x 1080 พิกเซล ความละเอียดไฟล์สูงสุด 30MB และควรมีจำนวนข้อความประมาณ 125 คำ

2. Video Ads

เป็นการลงโฆษณาด้วยภาพเคลื่อนไหวเพื่อสร้างความแปลกใหม่ น่าสนใจ น่าตื่นตาตื่นใจ และดึงดูดความสนใจอย่างรวดเร็วให้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยควรสร้างวิดีโอที่มีความยาวประมาณ 15 นาที หรือน้อยกว่านั้นเพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมด้วยข้อความที่เข้าใจง่าย ชัดเจน ตรงไปตรงมา แล้วจบที่ Call to Action เพื่อนำไปสู่การขายต่อไป ซึ่งการโฆษณาด้วยรูปแบบวิดีโอนี้จะปรากฎในหลาย ๆ ตำแหน่ง ทั้งใน Facebook, Messenger, Instagram และ Audience Network ซึ่งแต่ละตำแหน่งจำกัดความยาวและอัตราส่วนของวิดีโอแตกต่างกันออกไป ดังภาพอ้างอิงต่อไปนี้

ภาพจาก https://www.facebook.com/business

3. Carousel Ads

เป็นโฆษณาในรูปแบบของภาพสไลด์ เราสามารถอัพรูปภาพหรือวิดีโอลงไปได้สูงสุด 10 รายการในโฆษณาชิ้นเดียว โดยแต่ละรูปภาพหรือวิดีโอจะมีหัวข้อ คำอธิบาย และลิงก์แยกต่างหาก เพื่อกระตุ้นความสนใจของลูกค้าให้สูงขึ้น โดยโฆษณารูปแบบนี้เหมาะสำหรับการนำเสนอสินค้าหลายชิ้น หรือต้องการเพิ่มความโดดเด่นให้กับสินค้าที่มีคุณสมบัติหลายอย่าง ใช้บอกเล่าเรื่องราว บอกขั้นตอนวิธีการทำงาน รวมไปถึงสร้างประสบการณ์ร่วมของสินค้าและบริการของเราที่มีกับกลุ่มเป้าหมาย เป็นต้น

4. Collection Ads

เป็นรูปแบบโฆษณาที่ปรากฎเฉพาะบนโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนเท่านั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเลือกดูสินค้าที่หลากหลาย สะดวกและรวดเร็วผ่านสมาร์ทโฟน โดยเราสามารถอัพรูปภาพและวิดีโอของสินค้าหรือบริการอย่างน้อย 4 ชิ้นที่เกี่ยวข้องลงไป เมื่อกลุ่มเป้าหมายสนใจสินค้าชิ้นใด เพียงแตะที่รูปสินค้า รายละเอียดสินค้าเหล่านั้นก็จะปรากฎขึ้นมาแบบเต็มหน้าจอ เป็นการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้อีกรูปแบบหนึ่ง

5. Instant Experience Ads

คือรูปแบบการโฆษณาที่เมื่อกลุ่มเป้าหมายกดไปที่โฆษณา โฆษณาจะแสดงผลเป็นแบบเต็มหน้าจอ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงรายละเอียดของสินค้าและบริการได้ง่าย และเต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น โดยเราสามารถปรับเปลี่ยนเทมเพลตรูปภาพ คำอธิบาย ปุ่มกด และลิงก์ได้เอง เหมาะสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องการสร้างประสบการณ์การเลือกดูสินค้าแบบใหม่ที่เชื่อมต่อกับแค็ตตาล็อกสินค้าโดยตรง

6. Stories Ads

เนื่องจากพฤติกรรมผู้ใช้งาน Facebook ส่วนใหญ่ใช้งานฟังก์ชั่น Stories กันมากขึ้น การที่เราจัดทำวิดีโอส่งเสริมการขายแบบแนวตั้งเพื่ออัพบน Stories จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ยอดนิยม เพราะกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงได้ง่าย ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ เป็นกันเอง และช่วยให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกสนใจ สนุก และมีส่วนร่วมกับแบรนด์ของเรามากยิ่งขึ้น

7. Messenger Ads

Messenger เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ผู้คนใช้สื่อสารกัน การยิงแอดผ่านช่องทางนี้จึงเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็วกว่าช่องทางอื่น เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถกดเลือกสินค้าในแถบแชท และอ่านรายละเอียดที่อยากรู้ได้ด้วยตัวเอง นอกจากจะตอบโจทย์เรื่องความสะดวกและรวดเร็วแล้ว ยังช่วยให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้นอีกด้วย