การเดินเท้าเป็นวิธีการเดินทางที่ง่ายและประหยัด แต่เพื่อความปลอดภัย ผู้เดินเท้าควรปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด การเดินในพื้นที่ที่กำหนด เช่น ทางเท้าและทางเดินเท้า จะช่วยลดอุบัติเหตุและทำให้การสัญจรบนท้องถนนเป็นระเบียบมากขึ้น ตาม กฎหมายจราจรทางบก พ.ศ. 2522 กำหนดให้ผู้เดินเท้าต้องเดินบนทางเท้าหรือไหล่ทางด้านขวาของถนนหากไม่มีทางเท้า เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
การเดินเท้าเป็นวิธีการเดินทางที่สะดวก ประหยัด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม การเดินเท้าจำเป็นต้องมีการปฏิบัติที่ถูกต้องและปลอดภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายจราจร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด การรู้จักกฎระเบียบของกฎจราจรและปฎิบัติตามข้อแนะนำที่ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุและสร้างระเบียบในการสัญจร ที่จะช่วยให้เราสามารถเดินทางได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น
1. ช่วยลดมลพิษ - การเดินแทนการใช้ยานพาหนะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดมลพิษทางอากาศ
2. ดีต่อสุขภาพ - การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ง่ายและช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน
3. ช่วยลดค่าใช้จ่าย - การเดินเป็นวิธีที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับการเดินทางด้วยรถยนต์หรือขนส่งสาธารณะ
ทางเท้าเป็นพื้นที่ที่ออกแบบมาสำหรับผู้เดินเท้าโดยเฉพาะ ควรใช้ทางเท้าเสมอเมื่อมีให้ใช้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากยานพาหนะ
กฎหมายกำหนดให้ผู้เดินเท้าเดินชิดขอบทางด้านขวาของถนน ซึ่งเป็นทิศทางที่สวนกับการจราจร วิธีนี้ช่วยให้ผู้เดินเท้ามองเห็นยานพาหนะที่กำลังแล่นเข้ามา และสามารถหลบหลีกได้ทันทีหากจำเป็น
- ควรใช้ทางม้าลายหรือสะพานลอยในการข้ามถนนเสมอ เพราะเป็นจุดที่กำหนดให้ปลอดภัยที่สุด
- หลีกเลี่ยงการข้ามถนนในบริเวณที่ไม่มีทางม้าลายหรือจุดที่กำหนด เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
- ผู้เดินเท้าต้องข้ามถนนเมื่อสัญญาณไฟคนข้ามเป็นสีเขียวเท่านั้น
- หากไม่มีสัญญาณไฟ ให้ดูป้ายเตือนและแน่ใจว่ารถหยุดให้ก่อนข้าม
แม้ว่าจะข้ามที่ทางม้าลายหรือจุดที่กำหนด ควรมองซ้าย-ขวาให้แน่ใจก่อนเสมอ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากรถที่อาจฝ่าฝืนกฎจราจร
การเดินขณะใช้โทรศัพท์มือถือหรือใส่หูฟังอาจทำให้เสียสมาธิ ไม่ทันสังเกตรถที่กำลังแล่นมา ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
หากจำเป็นต้องเดินในเวลากลางคืน ควรสวมเสื้อผ้าสีสว่างหรือมีแถบสะท้อนแสงเพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ง่ายขึ้น
พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ได้กำหนดข้อบังคับเกี่ยวกับผู้เดินเท้าเพื่อให้เกิดความปลอดภัย โดยมีข้อกำหนดสำคัญดังนี้
พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 104 กำหนดว่า ผู้เดินเท้าต้องใช้ทางเท้าเมื่อมีทางเท้าให้ใช้ หากไม่มีทางเท้าต้องเดินชิดขอบทางด้านขวาของถนน หากฝ่าฝืนอาจถูกปรับไม่เกิน 200 บาท
ตามมาตรา 105 ผู้เดินเท้าต้องข้ามถนนในทางข้าม ทางม้าลาย หรือสะพานลอย หากฝ่าฝืนข้ามถนนในจุดที่ไม่ได้กำหนด อาจถูกปรับไม่เกิน 500 บาท
ตามมาตรา 106 ผู้เดินเท้าต้องปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรหรือเจ้าหน้าที่จราจร หากฝ่าฝืนอาจถูกปรับไม่เกิน 500 บาท
มาตรา 107 ระบุว่า ห้ามผู้เดินเท้าเดินบนถนนในลักษณะที่ก่อให้เกิดอันตรายหรือกีดขวางการจราจร เช่น การเดินบนถนนโดยไม่จำเป็น หรือเดินบนสะพานข้ามแยกที่ไม่มีทางเดิน หากฝ่าฝืนอาจมีโทษปรับ
มาตรา 108 กำหนดว่า การเดินขบวนหรือใช้ถนนเพื่อกิจกรรมพิเศษต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ หากไม่มีใบอนุญาต อาจถูกปรับหรือมีโทษทางกฎหมาย
มาตรา 78 และ 79 กำหนดว่า ผู้ขับขี่ยานพาหนะต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษต่อผู้เดินเท้า โดยเฉพาะในเขตโรงเรียน เขตชุมชน และบริเวณทางข้าม หากผู้ขับขี่ไม่หยุดให้คนข้ามถนนที่ทางม้าลาย อาจถูกปรับไม่เกิน 1,000 บาท
ข้อมูลอ้างอิง
สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก (สนภ.)