อย่ามองหาความปกติที่เราคุ้นชิน กรอบความคิด รูปแบบต่าง ๆ ที่เคยประสบผลสำเร็จจะไม่ใช่เข็มทิศในการวางกลยุทธ์อีกต่อไป โอกาสของแบรนด์ในปัจจุบันคือการมองหากรอบใหม่ ๆ ในการวางกลยุทธ์
ในเชิงเป้าหมายว่ากลยุทธ์ที่วางไว้สามารถบรรลุได้ ซึ่งต้องเกิดจากทั้งประสบการณ์ (Prediction) และข้อมูล (Data driven) มาประกอบการวางแผนซึ่งสามารถส่งผลได้ทั้งระยะสั้นที่เน้นที่ยอดขายและระยาวในการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง
ที่ต่อยอดมากจากข้อมูล หรือ Data ที่มากมาย แต่สิ่งที่สำคัญคือการแปลข้อมูลเหล่านั้นให้ออกมาเป็นเข็มทิศหรือ Solution ให้กับแบรนด์ที่ชัดเจน มิเช่นนั้นข้อมูลที่มีอยู่นั้นก็จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด
ซึ่งคือการมองข้ามปัจจุบันไปสู่กลยุทธ์สำหรับความเป็นไปได้ของการเติบโตของแบรนด์สู่อนาคต กาเรียนรู้จากอดีต การมองศักยภาพในปัจจุบัน และการมีวิสัยทัศน์ของอนาคต จะก่อให้เกิดการเติบโตที่ยั่งยืนกับแบรนด์ได้
การกล้าลงมือทำให้เร็ว เรียนรู้ผลลัพธ์ของการลงมือทำให้ไว เพื่อประเมินประสิทธิผลของงานนั้น ๆ และปรับแผนงาน หรือ Optimize ให้ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ
ทำในสิ่งที่ตอบสนองต่อสิ่งที่ผู้บริโภคกำลังรู้สึก ทั้งนี้ก็เพื่อแสดงถึงความใส่ใจ จริงใจ และเข้าใจความรู้สึกของผู้คนเป็นสำคัญ ซึ่งจะส่งผลให้อัตลักษณ์และบุคลิกของแบรนด์มีความเป็นมนุษย์ หรือ Humanize ชัดเจนขึ้น
ในเรื่องของการวางแผน ต้องคิดให้มากขึ้น มองความเป็นไปได้ให้มากขึ้น เพราะเวลามีการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ต่าง ๆ เราจะรู้ได้ทันทีว่าอะไรคือทางออกที่ดีที่สุด ที่จะทำให้เราสามารถลงมือทำได้ทันที