Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

สิทธิและหน้าที่ของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

Posted By Kung_nadthanan | 02 มี.ค. 68
163 Views

  Favorite

 

 

สิทธิผู้ขับขี่คืออะไร?

สิทธิผู้ขับขี่ หมายถึง สิทธิทางกฎหมายที่บุคคลได้รับเมื่อได้รับใบอนุญาตขับขี่ ซึ่งครอบคลุมถึงการใช้ถนนอย่างปลอดภัย ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายจราจร และสามารถเรียกร้องสิทธิเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ สิทธิของผู้ขับขี่สามารถแบ่งออกเป็นหลายด้าน ดังนี้

1. สิทธิในการใช้ถนนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ผู้ขับขี่ที่มีใบอนุญาตขับขี่สามารถใช้ถนนสาธารณะได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยต้องปฏิบัติตามกฎจราจรและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง การได้รับอนุญาตให้ขับขี่หมายถึงการผ่านกระบวนการอบรมและทดสอบตามที่กฎหมายกำหนด

2. สิทธิในการได้รับความคุ้มครองจากประกันภัยรถยนต์

เมื่อผู้ขับขี่ทำประกันภัยรถยนต์ จะได้รับความคุ้มครองในกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่:

- ประกันภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ให้ความคุ้มครองเบื้องต้นในกรณีได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ

- ประกันภาคสมัครใจ ช่วยคุ้มครองเพิ่มเติมทั้งผู้ขับขี่ รถยนต์ และบุคคลที่สาม

3. สิทธิในการได้รับความเป็นธรรมทางกฎหมาย

ผู้ขับขี่มีสิทธิในการโต้แย้งค่าปรับ การดำเนินคดี หรือการถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนกฎหมายจราจรโดยไม่เป็นธรรม โดยสามารถยื่นอุทธรณ์หรือร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมขนส่งทางบก หรือศาลจราจร

4. สิทธิในการปกป้องตนเองเมื่อถูกละเมิดสิทธิ

หากผู้ขับขี่ถูกละเมิดสิทธิ เช่น ถูกเรียกเก็บค่าปรับโดยมิชอบ ถูกปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ หรือได้รับความเสียหายจากการกระทำของผู้อื่น สามารถใช้สิทธิตามกฎหมายในการดำเนินคดีหรือเรียกร้องค่าเสียหายได้

5. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลและการศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายจราจร

ผู้ขับขี่มีสิทธิได้รับข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายจราจร อัตราค่าปรับ มาตรฐานความปลอดภัย และแนวทางการขับขี่ที่ถูกต้อง รวมถึงสิทธิในการเข้ารับการอบรมหรือทดสอบทักษะเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงความสามารถในการขับขี่

 

หน้าที่ผู้ขับขี่ที่ต้องปฏิบัติ

หน้าที่ของผู้ขับขี่ เป็นข้อกำหนดที่ช่วยให้เกิดความปลอดภัยบนท้องถนนและลดอุบัติเหตุ โดยหน้าที่หลักของผู้ขับขี่มีดังนี้

1. ปฏิบัติตามกฎหมายจราจร

ผู้ขับขี่ต้องเคารพกฎหมายจราจรทุกข้อ เช่น ขับรถตามความเร็วที่กำหนด หยุดตามสัญญาณไฟจราจร ไม่ขับรถย้อนศร และปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจรอย่างเคร่งครัด

2. มีใบอนุญาตขับขี่ถูกต้อง

ผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องตามประเภทของยานพาหนะที่ใช้ และต้องต่ออายุใบขับขี่ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ห้ามขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาตเด็ดขาด

3. ขับขี่อย่างมีสติและไม่ประมาท

ผู้ขับขี่ต้องมีสมาธิในการขับขี่ หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ ห้ามขับขี่ขณะมึนเมา ง่วงนอน หรืออยู่ในภาวะที่อาจเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ

4. ให้ความเคารพต่อเพื่อนร่วมทาง

ต้องมีน้ำใจและเคารพสิทธิของผู้ใช้ถนนรายอื่น เช่น หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ให้ทางรถฉุกเฉิน และไม่ขับรถจี้ท้ายรถคันหน้า

5. ตรวจสอบสภาพรถก่อนขับขี่

ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทาง เช่น ตรวจสอบเบรก ยางรถ ไฟสัญญาณ และน้ำมันเครื่อง เพื่อให้แน่ใจว่ารถอยู่ในสภาพที่ปลอดภัย

6. ใช้อุปกรณ์นิรภัยและอุปกรณ์เสริมที่จำเป็น

คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งเมื่อขับขี่

ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกกันน็อก

หลีกเลี่ยงการบรรทุกเกินน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด

7. ห้ามขับรถเร็วเกินกำหนด

เขตเมือง: ไม่เกิน 60 กม./ชม.

ทางหลวง: ไม่เกิน 90 กม./ชม.

ทางด่วน: ไม่เกิน 120 กม./ชม.

8. ห้ามเมาแล้วขับ

ห้ามขับขี่ขณะมีระดับแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้ขับขี่ทั่วไป และ 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์สำหรับผู้ขับขี่ที่มีใบขับขี่ไม่เกิน 5 ปี

9. หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่

หากจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ ควรใช้อุปกรณ์เสริม เช่น ระบบแฮนด์ฟรี หรือจอดรถในที่ปลอดภัยก่อนใช้งาน

10. ให้ทางรถฉุกเฉิน

เมื่อพบรถพยาบาล รถดับเพลิง หรือรถฉุกเฉิน ต้องเปิดทางให้โดยทันที

 

 

กฎหมายจราจรที่สำคัญ

การปฏิบัติตามกฎหมายจราจรเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความปลอดภัยและป้องกันการถูกปรับหรือดำเนินคดี โดยกฎหมายจราจรที่สำคัญที่ผู้ขับขี่ต้องรู้ ได้แก่:

1. การใช้ความเร็ว

ถนนในเขตเมือง: ไม่เกิน 60 กม./ชม.

ทางหลวงแผ่นดิน: ไม่เกิน 90 กม./ชม.

ทางด่วนพิเศษ: ไม่เกิน 120 กม./ชม.

 

2. การเมาแล้วขับ

กฎหมายกำหนดว่าปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดต้องไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้ขับขี่ทั่วไป และ 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์สำหรับผู้ขับขี่ที่มีใบขับขี่ไม่เกิน 5 ปี

หากฝ่าฝืน อาจถูกปรับสูงสุด 200,000 บาท หรือจำคุกสูงสุด 10 ปี

 

3. การคาดเข็มขัดนิรภัย

ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัย หากฝ่าฝืน อาจถูกปรับสูงสุด 5,000 บาท

 

4. การใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่

ห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่ หากไม่มีอุปกรณ์เสริม เช่น หูฟังบลูทูธ หรือระบบแฮนด์ฟรี

หากฝ่าฝืน อาจถูกปรับสูงสุด 2,000 บาท

 

5. การให้ทางรถฉุกเฉิน

ต้องหลีกทางให้รถพยาบาล รถดับเพลิง และรถฉุกเฉิน หากฝ่าฝืน อาจถูกปรับสูงสุด 10,000 บาท

 

สิทธิและหน้าที่ของผู้ขับขี่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยบนท้องถนน การปฏิบัติตามกฎหมายจราจรไม่เพียงแต่ช่วยลดอุบัติเหตุ แต่ยังช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น การเรียนรู้เกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้คุณเป็นผู้ขับขี่ที่มีความรับผิดชอบ และสามารถปกป้องตนเองจากปัญหาทางกฎหมายและอุบัติเหตุได้

 

ข้อมูลอ้างอิง

กรมการขนส่งทางบก

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Kung_nadthanan
  • 0 Followers
  • Follow