ขับขี่ปลอดภัย: ข้อควรปฏิบัติและกฎหมายจราจรที่ผู้ขับขี่ต้องรู้
การขับขี่ปลอดภัย เป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนต้องให้ความใส่ใจ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของทั้งผู้ขับขี่และผู้ใช้ทางร่วมกัน นอกจากการขับขี่ด้วยความระมัดระวังแล้ว การปฏิบัติตาม กฎหมายจราจร อย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ การเตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง และการมีสติสัมปชัญญะขณะขับขี่ ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้การเดินทางปลอดภัยและราบรื่น ผู้ขับขี่ควรทราบ ข้อควรปฏิบัติ ต่างๆ เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย
ขับขี่ปลอดภัย หมายถึง การขับรถโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง ผู้โดยสาร และผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ลดพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุ เช่น การใช้ความเร็วเกินกำหนด การขับขี่ขณะมึนเมา หรือการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ
การ ขับขี่ปลอดภัย ไม่ใช่เพียงแค่การปฏิบัติตามกฎหมายจราจรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเตรียมความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ การตรวจสอบสภาพรถ และการตัดสินใจที่รอบคอบเมื่ออยู่บนท้องถนน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ ข้อควรปฏิบัติในการขับขี่ปลอดภัย ที่ช่วยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุ และทำให้การเดินทางราบรื่นและปลอดภัย
1.1 ตรวจสอบสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ขับขี่
ก่อนออกเดินทาง ผู้ขับขี่ต้องมั่นใจว่าตนเองอยู่ในสภาพที่พร้อมขับรถ
- พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการขับรถขณะง่วงนอน
- ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือเสพสารเสพติด ก่อนและขณะขับรถ
- มีสมาธิ ไม่ใช้อารมณ์ร้อน เพราะการขับรถด้วยอารมณ์หงุดหงิดอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ
- ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ ยกเว้นกรณีใช้ระบบแฮนด์ฟรี
1.2 ตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทาง
รถที่อยู่ในสภาพดีช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้มาก ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้เป็นประจำ
- เช็คลมยางและดอกยาง ควรมีแรงดันลมที่เหมาะสมและไม่สึกหรอเกินไป
- ตรวจสอบเบรก หากมีเสียงดังผิดปกติควรรีบตรวจเช็ก
- ตรวจระดับน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก และน้ำในหม้อน้ำ
- ทดสอบไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเลี้ยว เพื่อให้แน่ใจว่าทำงานได้ปกติ
2.1 ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด
การใช้ความเร็วเกินกำหนดเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น
- เขตเมือง: ไม่เกิน 80 กม./ชม.
- ทางหลวง: ไม่เกิน 120 กม./ชม.
- เขตโรงเรียนหรือเขตชุมชน: ไม่เกิน 30 กม./ชม.
2.2 คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง เข็มขัดนิรภัย ช่วยลดความรุนแรงของการบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ควรคาดให้ถูกต้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
2.3 ไม่ฝ่าสัญญาณไฟจราจร การฝ่าสัญญาณไฟแดงเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
2.4 ใช้สัญญาณไฟอย่างเหมาะสม เช่น เปิดไฟเลี้ยวก่อนเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยว อย่างน้อย 30 เมตร, เปิดไฟฉุกเฉินเฉพาะเมื่อจอดรถฉุกเฉิน ห้ามเปิดขณะขับรถ
2.5 รักษาระยะห่างจากรถคันหน้า ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 วินาที และเพิ่มเป็น 4 วินาที เมื่อขับขี่ขณะฝนตก
3.1 ขับขี่ปลอดภัยบนทางหลวง
- ใช้เลนซ้ายสำหรับขับขี่ปกติ และเลนขวาสำหรับแซง
- ไม่ขับจี้ท้ายรถคันหน้า
- ไม่เปลี่ยนเลนบ่อยเกินไป
3.2 ขับขี่ปลอดภัยขณะฝนตก
- ลดความเร็วลง อย่างน้อย 20% จากปกติ
- ใช้ที่ปัดน้ำฝนและเปิดไฟหน้า
- หลีกเลี่ยงการเบรกกะทันหันเพราะอาจทำให้รถลื่น
3.3 ขับขี่ปลอดภัยในเวลากลางคืน
- เปิดไฟต่ำเมื่อมีรถสวนทาง
- เพิ่มความระมัดระวังในการมองทาง
- หลีกเลี่ยงการขับรถเร็วเกินไป
4.1 ขับรถเร็วเกินกำหนด เป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุร้ายแรง
4.2 ขับรถขณะมึนเมา แอลกอฮอล์ทำให้การตอบสนองช้าลงและเพิ่มโอกาสเกิดอุบัติเหตุ
4.3 ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ แม้การใช้แฮนด์ฟรีจะช่วยลดความเสี่ยง แต่ก็ยังอาจทำให้เสียสมาธิ
4.4 ขับรถขณะง่วงนอน หากรู้สึกง่วง ควรจอดพักหรือเปลี่ยนคนขับ
กฎหมายจราจรทางบก เป็นกฎหมายที่กำหนดข้อบังคับต่างๆ เพื่อควบคุมพฤติกรรมของผู้ขับขี่และผู้ใช้ถนน โดยมีกฎหมายสำคัญที่ควรรู้ เช่น
- การจำกัดความเร็ว ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น พื้นที่ในเขตเมือง ห้ามขับเกิน 80 กม./ชม.
- การสวมหมวกกันน็อค สำหรับผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์
- การคาดเข็มขัดนิรภัย ขณะขับขี่รถยนต์
- การใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ หากต้องการใช้งาน ควรใช้ระบบแฮนด์ฟรี
การจอดรถในที่ห้ามจอด เช่น บริเวณทางม้าลายหรือหน้าทางออกฉุกเฉิน
ใช้ช่องทางเดินรถให้ถูกต้อง และหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนเลนกะทันหัน
หลีกเลี่ยงการขับจี้ท้ายรถคันหน้า ควรเว้นระยะที่ปลอดภัย
ไม่ใช้ไฟสูงใส่รถคันหน้า เพราะอาจทำให้ผู้ขับขี่เสียการควบคุม
ลดความเร็วลงและใช้ไฟหน้าเพื่อให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น
หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกกะทันหัน เพราะอาจทำให้รถลื่นไถล
ใช้ที่ปัดน้ำฝนและตรวจสอบยางรถให้อยู่ในสภาพดี
- เปิดไฟหน้าเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน และใช้ไฟต่ำเมื่อมีรถสวนทาง
- ระวังคนเดินเท้าและรถจักรยานที่อาจไม่มีไฟส่องสว่าง
- หลีกเลี่ยงการขับรถในพื้นที่ที่ไม่มีไฟถนน
หากผู้ขับขี่ฝ่าฝืนกฎหมายจราจร อาจได้รับโทษปรับหรือโทษจำคุก เช่น
ขับรถเร็วเกินกำหนด: ปรับสูงสุด 1,000 บาท
ไม่สวมหมวกกันน็อค: ปรับสูงสุด 500 บาท
ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย: ปรับสูงสุด 2,000 บาท
ขับรถขณะเมาสุรา: โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท
ฝ่าสัญญาณไฟแดง: ปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ข้อมูลอ้างอิง
กรมการขนส่งทางบก