กฎหมายจราจร เป็นกฎหมายที่กำหนดระเบียบการใช้รถใช้ถนน เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้ใช้ทางคนอื่นๆ หากผู้ขับขี่ละเลยหรือฝ่าฝืน อาจเข้าข่าย ความผิดจราจร และถูกลงโทษตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งบทลงโทษมีตั้งแต่การปรับเงิน พักใช้ใบขับขี่ ไปจนถึงจำคุก ทั้งนี้ การปฏิบัติตามกฎจราจรไม่เพียงช่วยหลีกเลี่ยงโทษทางกฎหมาย แต่ยังช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เขตเมือง: ไม่เกิน 60 กม./ชม.
- นอกเขตเมือง: ไม่เกิน 90 กม./ชม.
- ทางด่วนและมอเตอร์เวย์: ไม่เกิน 120 กม./ชม.
บทลงโทษ: ปรับสูงสุด 1,000 บาท
- การขับรถฝ่าไฟแดงเป็นความผิดร้ายแรงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
บทลงโทษ: ปรับสูงสุด 1,000 บาท และอาจถูกพักใช้ใบขับขี่
- ผู้ขับขี่ที่มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถือว่าผิดกฎหมาย
- ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือมีใบขับขี่ชั่วคราว ห้ามเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
บทลงโทษ: จำคุก สูงสุด 1 ปี ปรับ 10,000 - 200,000 บาท หรือถูกพักใช้ใบขับขี่
กฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ ยกเว้นใช้ อุปกรณ์ Hands-Free
บทลงโทษ: ปรับ 400 - 1,000 บาท
ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รถจักรยานยนต์ ต้องสวมหมวกกันน็อก
ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รถยนต์ ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง
บทลงโทษ: ปรับสูงสุด 2,000 บาท
ห้ามจอดรถในที่ห้ามจอด เช่น ทางข้าม ทางม้าลาย หน้าทางเข้า-ออกอาคาร
บทลงโทษ: ปรับสูงสุด 1,000 บาท และอาจถูกลากจอด
ผู้ขับขี่ต้องหลีกทางให้รถพยาบาล รถดับเพลิง และรถตำรวจที่เปิดสัญญาณฉุกเฉิน
บทลงโทษ: ปรับ 500 - 1,000 บาท
การขับขี่บนท้องถนนในประเทศไทยมีกฎหมายจราจรที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนกฎจราจร ผู้ขับขี่อาจได้รับบทลงโทษที่แตกต่างกันไปตามประเภทของความผิด บทลงโทษอาจเป็นโทษปรับ พักใช้ใบขับขี่ หรือแม้แต่โทษจำคุกสำหรับความผิดร้ายแรง ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจบทลงโทษความผิดจราจรแต่ละประเภท เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง
กฎหมายจราจรในประเทศไทยกำหนดบทลงโทษไว้ 3 ระดับ ได้แก่
โทษปรับ – สำหรับความผิดทั่วไป เช่น ขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
โทษจำคุก – สำหรับความผิดร้ายแรง เช่น เมาแล้วขับ ขับรถโดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ
โทษทางปกครอง – เช่น พักใช้ใบขับขี่ หรือเพิกถอนใบขับขี่
ขับรถเร็วเกินกำหนด
- โทษปรับ: ไม่เกิน 1,000 บาท
- มาตราที่เกี่ยวข้อง: พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 67
ขับรถช้าเกินไปในเลนขวา (กีดขวางการจราจร)
- โทษปรับ: ไม่เกิน 500 บาท
- มาตราที่เกี่ยวข้อง: มาตรา 64
ฝ่าไฟแดง
- โทษปรับ: ไม่เกิน 1,000 บาท
- มาตราที่เกี่ยวข้อง: มาตรา 22
ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย
- โทษปรับ: สูงสุด 4,000 บาท และอาจถูกพักใช้ใบขับขี่
- มาตราที่เกี่ยวข้อง: มาตรา 70
ไม่เปิดไฟเลี้ยวหรือสัญญาณไฟก่อนเปลี่ยนเลน
- โทษปรับ: ไม่เกิน 500 บาท
- มาตราที่เกี่ยวข้อง: มาตรา 52
เมาแล้วขับ
- โทษปรับ: 10,000 - 200,000 บาท
- โทษจำคุก: 1 ปี หรือมากกว่าหากก่อให้เกิดอุบัติเหตุ
- โทษเพิ่มเติม: พักใช้ใบขับขี่ 6 เดือน - เพิกถอนใบขับขี่ถาวร
- มาตราที่เกี่ยวข้อง: มาตรา 43
ขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
- โทษปรับ: 20,000 - 200,000 บาท
- โทษจำคุก: 3 เดือน - 10 ปี
- โทษเพิ่มเติม: เพิกถอนใบขับขี่
- มาตราที่เกี่ยวข้อง: มาตรา 157
ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถโดยไม่ใช้อุปกรณ์ Hands-Free
-โทษปรับ: 400 - 1,000 บาท
-มาตราที่เกี่ยวข้อง: มาตรา 43(9)
ขับรถโดยไม่มีใบขับขี่
- โทษปรับ: 10,000 บาท
- มาตราที่เกี่ยวข้อง: มาตรา 42
ขับรถโดยใบขับขี่หมดอายุ
- โทษปรับ: ไม่เกิน 2,000 บาท
- มาตราที่เกี่ยวข้อง: มาตรา 42
ไม่แสดงใบขับขี่เมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ
- โทษปรับ: ไม่เกิน 1,000 บาท
- มาตราที่เกี่ยวข้อง: มาตรา 140
จอดรถในที่ห้ามจอด
- โทษปรับ: สูงสุด 1,000 บาท
- มาตราที่เกี่ยวข้อง: มาตรา 57
จอดรถกีดขวางทางเดินรถหรือจอดซ้อนคัน
- โทษปรับ: ไม่เกิน 500 บาท
- มาตราที่เกี่ยวข้อง: มาตรา 55
จอดรถบนทางเท้า
- โทษปรับ: ไม่เกิน 5,000 บาท
- มาตราที่เกี่ยวข้อง: มาตรา 53
ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา ประเทศไทยใช้ ระบบตัดแต้มใบขับขี่ เพื่อควบคุมพฤติกรรมการขับขี่ที่ผิดกฎหมาย โดยมีรายละเอียดดังนี้
เริ่มต้นทุกคนมี 12 แต้ม
หากทำผิดกฎจราจร จะถูกหักแต้มตามความร้ายแรงของความผิด
หากถูกตัดแต้มจนครบ 12 แต้มภายใน 1 ปี จะถูกพักใช้ใบขับขี่ 90 วัน
หากถูกพักใช้ใบขับขี่หลายครั้ง อาจถูกเพิกถอนใบขับขี่ถาวร
ตัวอย่างการตัดแต้ม
- ขับรถเร็วเกินกำหนด: หัก 1 แต้ม
- ฝ่าไฟแดง: หัก 2 แต้ม
- เมาแล้วขับ: หัก 4 แต้ม และอาจถูกพักใช้ใบขับขี่
- ตรวจสอบกฎหมายจราจรให้เข้าใจก่อนขับรถ
- ปฏิบัติตามกฎจราจรทุกข้อ รวมถึงเครื่องหมายและสัญญาณไฟจราจร
- ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด
- หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่
- ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขับรถ
- ตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทาง
ข้อมูลอ้างอิง
กรมการขนส่งทางบก