Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

กฎหมายจราจรเบื้องต้น: สิ่งที่ผู้ขับขี่ควรรู้

Posted By Kung_nadthanan | 28 ก.พ. 68
302 Views

  Favorite

การปฏิบัติตาม กฎหมายจราจร เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ขับขี่ทุกคน เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและผู้อื่นบนท้องถนน ข้อกำหนดจราจรที่ถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุและการกระทำผิดที่อาจนำไปสู่การถูกลงโทษตามกฎหมาย ในบทความนี้ เราจะพาผู้ขับขี่มาทำความเข้าใจ ข้อกำหนดจราจร ที่สำคัญ รวมถึงสิทธิและหน้าที่ที่ผู้ขับขี่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่

 

กฎหมายจราจรเบื้องต้น: ความสำคัญและข้อกำหนดที่ผู้ขับขี่ทุกคนต้องรู้

กฎหมายจราจร คือ กฎหมายที่ควบคุมการใช้ถนนและการขับขี่ในพื้นที่สาธารณะ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและความเป็นระเบียบในการเดินทาง โดยมีกฎและข้อบังคับที่ผู้ขับขี่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม กฎหมายจราจรมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ถนนทุกคน ตั้งแต่ผู้ขับขี่ รถยนต์, มอเตอร์ไซค์, จักรยาน, ไปจนถึงคนเดินถนน

ประเภทของกฎหมายจราจร

กฎหมายจราจรสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทหลักๆ ได้แก่:

1. กฎหมายที่เกี่ยวกับการขับขี่: กฎที่กำหนดวิธีการขับขี่ที่ถูกต้อง เช่น การเคารพสัญญาณไฟจราจร, การขับขี่ในช่องทางที่กำหนด, การหยุดรถที่เครื่องหมายจราจร หรือการขับขี่ตามความเร็วที่กำหนด

2. กฎหมายที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุ: กฎหมายที่กำหนดวิธีการรับผิดชอบเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เช่น การจ่ายค่าชดเชยหรือค่าปรับ, การฟ้องร้องทางแพ่งในกรณีที่มีผู้เสียหาย

3. กฎหมายที่เกี่ยวกับใบขับขี่: การตรวจสอบความสามารถในการขับขี่และการออกใบขับขี่แก่ผู้ขับขี่

4. กฎหมายที่เกี่ยวกับการจอดรถ: กฎหมายเกี่ยวกับการจอดรถในที่ที่ห้ามจอดหรือการจอดรถผิดกฎ

 

กฎหมายจราจรที่สำคัญที่ควรรู้

กฎหมายจราจรเป็นกฎระเบียบที่ถูกกำหนดขึ้นเพื่อควบคุมการใช้ถนน ลดอุบัติเหตุ และสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้ใช้ทางทุกคน การทำความเข้าใจ กฎหมายจราจรที่สำคัญ จะช่วยให้เราปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง ลดโอกาสถูกปรับและป้องกันอุบัติเหตุได้

1. พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522

พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 เป็นกฎหมายหลักที่ใช้ควบคุมการจราจรในประเทศไทย โดยมีข้อบังคับที่สำคัญ เช่น

1.1 การขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์

ต้องมีใบขับขี่ที่ถูกต้อง หากไม่มีใบขับขี่หรือใช้ใบขับขี่หมดอายุ อาจถูกปรับสูงสุด 10,000 บาท

ห้ามขับรถเร็วเกินกำหนด

-เขตเมือง: ไม่เกิน 60 กม./ชม.

- นอกเมือง: ไม่เกิน 90 กม./ชม.

- ทางด่วนหรือมอเตอร์เวย์: ไม่เกิน 120 กม./ชม. (เว้นแต่มีป้ายกำหนด)

ห้ามขับรถย้อนศร ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 1,000 บาท

ห้ามขับรถโดยประมาท เช่น แซงในที่คับขัน ไม่เปิดไฟเลี้ยว หรือขับปาดหน้า

 

1.2 การดื่มสุราและขับขี่ (เมาแล้วขับ)

หากมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถือว่าผิดกฎหมาย

หากเป็น ผู้ขับขี่อายุไม่เกิน 20 ปี หรือมีใบขับขี่ชั่วคราว ต้องไม่มีแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

โทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 10,000 - 200,000 บาท และถูกพักใช้ใบขับขี่

 

2. กฎหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนน

2.1 การใช้หมวกกันน็อกและเข็มขัดนิรภัย

ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ ต้องสวมหมวกกันน็อก ฝ่าฝืนปรับ 500 บาท

ผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ฝ่าฝืนปรับ 2,000 บาท

 

2.2 การใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ

ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ เว้นแต่มีอุปกรณ์ Hands-Free ฝ่าฝืนปรับ 400 - 1,000 บาท

 

3. กฎหมายเกี่ยวกับการจอดรถและใช้ช่องทางจราจร

3.1 ที่ห้ามจอดรถ

- บริเวณที่มีเครื่องหมายห้ามจอด

- บริเวณทางม้าลาย

- ทางโค้งและสะพาน

- หน้าทางเข้า-ออกอาคาร

- จอดรถกีดขวางการจราจร

ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 1,000 บาท หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับพื้นที่

 

3.2 การใช้ช่องทางเดินรถ

- รถช้าต้องอยู่เลนซ้าย รถเร็วอยู่เลนขวา

- ห้ามใช้ไหล่ทาง ยกเว้นในกรณีฉุกเฉิน

- ห้ามขับแทรกหรือเบียดซ้าย ฝ่าฝืนปรับ 500 - 1,000 บาท

 

4. กฎหมายเกี่ยวกับป้ายจราจรและสัญญาณไฟ

4.1 ไฟจราจร

ไฟแดง: ต้องหยุด ห้ามฝ่าฝืน

ไฟเหลือง: ให้ชะลอและเตรียมหยุด

ไฟเขียว: ไปได้ แต่ต้องให้สิทธิทางแก่ผู้ใช้ถนนอื่นที่มาก่อน

หากฝ่าสัญญาณไฟแดง ปรับสูงสุด 1,000 บาท

 

4.2 ป้ายจราจรที่สำคัญ

ป้ายหยุด (STOP): ต้องหยุดก่อนออกทางหลัก

ป้ายให้ทาง (YIELD): ต้องให้รถทางหลักผ่านก่อน

ป้ายจำกัดความเร็ว: ต้องขับตามที่กำหนด

 

5. บทลงโทษตามกฎหมายจราจรไทย

 

 

ข้อกำหนดจราจรที่สำคัญที่ควรรู้

ข้อกำหนดจราจร เป็นกฎหมายที่กำหนดหลักเกณฑ์ในการใช้รถใช้ถนน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อย หากผู้ขับขี่ปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้อย่างเคร่งครัด จะช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ และป้องกันการถูกปรับหรือถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย

1. ข้อกำหนดเกี่ยวกับใบขับขี่

ต้องมีใบขับขี่ที่ถูกต้องและตรงกับประเภทรถที่ขับ

ห้ามขับขี่ขณะใบขับขี่หมดอายุ

ผู้ที่ไม่มีใบขับขี่หรือถูกพักใช้ใบขับขี่แต่ยังขับรถ อาจได้รับโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท

 

2. ข้อกำหนดเกี่ยวกับความเร็วในการขับขี่

เขตเมือง: ไม่เกิน 60 กม./ชม.

เขตนอกเมือง: ไม่เกิน 90 กม./ชม.

ทางด่วนและมอเตอร์เวย์: ไม่เกิน 120 กม./ชม.

หากขับรถเร็วเกินกำหนด อาจถูกปรับสูงสุด 1,000 บาท

 

3. ข้อกำหนดเกี่ยวกับเครื่องหมายจราจร

ต้องปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจรทุกประเภท เช่น

- สัญญาณไฟจราจร

- ป้ายหยุด (STOP)

- ป้ายให้ทาง (YIELD)

ห้ามฝ่าฝืนไฟแดง ไม่เช่นนั้นอาจถูกปรับสูงสุด 1,000 บาท

 

4. ข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่

ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ ยกเว้นใช้ อุปกรณ์เสริมแบบ Hands-Free

หากฝ่าฝืนอาจถูกปรับ 400 - 1,000 บาท

 

5. ข้อกำหนดเกี่ยวกับการสวมหมวกกันน็อกและคาดเข็มขัดนิรภัย

ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ทุกคนต้องสวมหมวกกันน็อก

ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถยนต์ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย

หากฝ่าฝืน อาจถูกปรับสูงสุด 2,000 บาท

 

6. ข้อกำหนดเกี่ยวกับการเมาแล้วขับ

ผู้ขับขี่ต้องมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

สำหรับผู้ขับขี่ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี หรือมีใบขับขี่ชั่วคราว ห้ามมีแอลกอฮอล์ในร่างกายเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

หากฝ่าฝืน อาจได้รับโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 10,000 - 200,000 บาท และถูกพักใช้ใบขับขี่

 

7. ข้อกำหนดเกี่ยวกับการจอดรถ

ห้ามจอดรถในที่ห้ามจอด เช่น

- บริเวณที่มีป้าย ห้ามจอด

- บริเวณทางข้าม ทางม้าลาย

- หน้าทางเข้า-ออกอาคาร หรือหน้าสถานีดับเพลิง

หากฝ่าฝืน อาจถูกปรับสูงสุด 1,000 บาท และรถอาจถูกลากจอด

 

8. ข้อกำหนดเกี่ยวกับการให้ทาง

ผู้ขับขี่ต้องให้ทางแก่

- รถพยาบาล

- รถดับเพลิง

- รถตำรวจที่เปิดสัญญาณฉุกเฉิน

หากฝ่าฝืน อาจถูกปรับ 500 - 1,000 บาท

 

9. ข้อกำหนดเกี่ยวกับไฟสัญญาณรถ

ต้องเปิดไฟหน้าในช่วงเวลากลางคืนหรือในพื้นที่ที่มีแสงสว่างน้อย

ห้ามใช้ไฟสูงในขณะที่มีรถสวนทางมา

ห้ามติดไฟสีแดงหรือไฟกะพริบที่ด้านหน้ารถ

 

10. ข้อกำหนดเกี่ยวกับการบรรทุกสิ่งของ

การบรรทุกสิ่งของต้องไม่กีดขวางทัศนวิสัยของผู้ขับขี่

ห้ามบรรทุกเกินน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด

หากบรรทุกของเกินกำหนด อาจถูกปรับ สูงสุด 50,000 บาท

 

ข้อกำหนดจราจรที่ผู้ขับขี่ต้องรู้

กฎหมายจราจรไทยมีกฎระเบียบที่ครอบคลุมหลายด้าน ซึ่งผู้ขับขี่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม เช่น การหยุดรถที่สัญญาณไฟจราจร, การให้ทางรถฉุกเฉิน, และ การขับขี่ตามความเร็วที่กำหนด ที่สำคัญคือการ ไม่ฝ่าฝืนกฎจราจร ซึ่งอาจทำให้เกิดการเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ และในบางกรณีผู้ขับขี่อาจต้องรับผิดชอบทาง กฎหมายแพ่ง และ กฎหมายอาญา หากมีการทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายจากการขับขี่

1. การขับขี่ตามความเร็วที่กำหนด ผู้ขับขี่ต้องขับรถตามความเร็วที่กฎหมายกำหนดไว้ในแต่ละพื้นที่ เช่น ในเขตเมืองอาจจำกัดความเร็วที่ 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือบนทางหลวงอาจอนุญาตให้ขับขี่ได้ที่ 90-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง การฝ่าฝืนการจำกัดความเร็วอาจทำให้ถูกจับปรับหรือเสียคะแนนใบขับขี่

2. การใช้สัญญาณไฟจราจร สัญญาณไฟจราจรเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้การจราจรเป็นระเบียบ เช่น สัญญาณไฟสีเขียวให้ขับขี่ได้, สีเหลืองให้เตรียมหยุด, และสีแดงให้หยุด หากฝ่าฝืนอาจมีโทษปรับหรือถึงขั้นโดนจับกุมในบางกรณี

3. การให้ทางแก่ยานพาหนะฉุกเฉิน ผู้ขับขี่ต้องให้ทางแก่ยานพาหนะที่มีสัญญาณไฟฉุกเฉิน เช่น รถพยาบาล หรือรถดับเพลิง เพื่อให้การปฏิบัติงานของหน่วยงานฉุกเฉินไม่ถูกขัดขวาง

4. การหยุดรถที่ป้ายหยุด (STOP) การหยุดที่ป้ายหยุด (STOP) เป็นการบังคับให้ผู้ขับขี่ต้องหยุดรถและตรวจสอบเส้นทางก่อนที่จะขับขี่ต่อไป การไม่หยุดที่ป้ายหยุดถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย

5. การใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่ การใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่โดยไม่ใช้หูฟังหรืออุปกรณ์ที่ช่วยให้สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายและอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ผู้ขับขี่จะต้องใช้โทรศัพท์ในขณะที่หยุดรถหรือใช้เครื่องมือช่วยในการขับขี่

 

การฝ่าฝืนกฎหมายจราจรและบทลงโทษ

การฝ่าฝืนกฎหมายจราจร ไม่เพียงแต่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังทำให้ผู้ขับขี่ต้องรับโทษตามกฎหมายด้วย โดยโทษที่เกิดขึ้นอาจมีตั้งแต่ ค่าปรับ การ ยึดใบขับขี่ หรือ การจำคุก ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของการกระทำผิด ตัวอย่างของการกระทำผิดที่มีบทลงโทษเช่น:

1. การขับขี่เร็วเกินกว่ากำหนด: หากขับขี่เร็วเกินไปจะถูกปรับตามระยะทางและความเร็วที่เกินกฎหมายกำหนด

2. การขับขี่ขณะมึนเมา: การขับขี่ภายใต้ฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือสารเสพติดจะถูกลงโทษอย่างรุนแรง อาจถึงขั้นถูกจำคุกและเสียใบขับขี่

3. การขับขี่โดยประมาท: หากการขับขี่เกิดอุบัติเหตุหรือทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บจะต้องรับผิดชอบตาม กฎหมายแพ่ง โดยการชดใช้ค่าเสียหาย

 

โทษทางกฎหมายเมื่อฝ่าฝืนกฎหมายจราจร

การฝ่าฝืนกฎหมายจราจรอาจมีบทลงโทษแตกต่างกันไป ตั้งแต่การปรับเงินไปจนถึงการถูกตัดคะแนนใบขับขี่

ตัวอย่างบทลงโทษที่สำคัญ

ขับรถเร็วเกินกำหนด – ปรับสูงสุด 1,000 บาท
ขับรถฝ่าไฟแดง – ปรับสูงสุด 5,000 บาท
ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย – ปรับสูงสุด 500 บาท
ขับขี่ขณะเมาสุรา – จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับสูงสุด 20,000 บาท
ใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่โดยไม่มีอุปกรณ์เสริม – ปรับสูงสุด 2,000 บาท

 

วิธีปฏิบัติตัวให้ถูกต้องตามกฎหมายจราจร

ศึกษากฎหมายจราจรให้เข้าใจ
เคารพเครื่องหมายและสัญญาณจราจร
ขับขี่ด้วยความเร็วที่เหมาะสม
หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่
คาดเข็มขัดนิรภัยและสวมหมวกกันน็อกเสมอ
ไม่ขับรถเมื่อร่างกายไม่พร้อม เช่น ง่วง หรือเมา
เคารพสิทธิของผู้ใช้ถนนคนอื่น

 

การปฏิบัติตาม ข้อกำหนดจราจร เป็นเรื่องที่ผู้ขับขี่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และการฝ่าฝืนอาจทำให้เกิดผลทางกฎหมายที่รุนแรง หากไม่อยากตกเป็นผู้ถูกฟ้องร้องในเรื่องความเสียหายหรือค่าปรับ การเข้าใจและปฏิบัติตาม กฎหมายจราจร จะช่วยให้ทุกการเดินทางปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยชีวิตตนเองและผู้อื่น แต่ยังป้องกันไม่ให้คุณตกเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายในภายหลัง

การใช้ชีวิตบนท้องถนนอย่างปลอดภัยไม่ใช่แค่สิทธิของผู้ขับขี่เท่านั้น แต่ยังเป็นความรับผิดชอบที่ทุกคนต้องร่วมมือกันรักษา เพื่อให้การจราจรเป็นไปอย่างมีระเบียบและไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่จำเป็น

 

ข้อมูลอ้างอิง

กรมการขนส่งทางบก

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Kung_nadthanan
  • 0 Followers
  • Follow