การเดินทางไปต่างประเทศ เป็นโอกาสที่ดีในการเปิดโลกกว้าง แต่หลายคนอาจพบเจอ ปัญหากฎหมายระหว่างเดินทาง ซึ่งสร้างความยุ่งยากและทำให้ทริปที่วางแผนไว้อย่างดีต้องสะดุด ปัญหาที่พบบ่อย เช่น หนังสือเดินทางหาย วีซ่าหมดอายุ ปัญหาด้านภาษีศุลกากร ข้อพิพาททางแพ่ง หรือการถูกฉ้อโกง ดังนั้น การเรียนรู้เกี่ยวกับ กฎหมายการเดินทางระหว่างประเทศ และ แนวทางจัดการปัญหากฎหมายเมื่อเดินทางต่างประเทศ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเดินทางไปต่างประเทศเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น แต่ก็มีความเสี่ยงด้านกฎหมายที่นักเดินทางต้องระมัดระวัง หากละเลยข้อกำหนดของประเทศปลายทาง อาจส่งผลให้ถูกปรับ ปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ หรือแม้แต่ถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย
1.1 พาสปอร์ตหมดอายุหรือสูญหาย
-หลายประเทศกำหนดให้พาสปอร์ตต้องมีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน นับจากวันที่เดินทางเข้า
-หากพาสปอร์ตสูญหายในต่างประเทศ อาจทำให้ไม่สามารถเดินทางกลับได้
วิธีป้องกัน:
-ตรวจสอบอายุพาสปอร์ตล่วงหน้า และต่ออายุหากใกล้หมดอายุ
-ทำสำเนาพาสปอร์ตหรือถ่ายรูปเก็บไว้ในอีเมลหรือโทรศัพท์มือถือ
-หากพาสปอร์ตหาย ให้รีบแจ้งสถานทูตไทยประจำประเทศนั้นทันที
แนวทางจัดการ:
พาสปอร์ตหาย – แจ้งสถานทูตไทยหรือกงสุลประจำประเทศปลายทางทันที และแจ้งตำรวจเพื่อขอใบแจ้งความ
วีซ่าหมดอายุ – ติดต่อสถานทูตของประเทศปลายทางเพื่อขอขยายเวลาหรือชี้แจงเหตุผล
ตั๋วเครื่องบินสูญหาย – ติดต่อสายการบินที่ออกตั๋วเพื่อตรวจสอบข้อมูลการจองและออกตั๋วใหม่
2.1 การขอวีซ่าผิดประเภท วีซ่าแต่ละประเภทมีข้อกำหนดชัดเจน เช่น วีซ่าท่องเที่ยว ห้ามใช้เพื่อทำงาน หากฝ่าฝืนอาจถูกเนรเทศ (Overstay)
2.2 การพำนักเกินกำหนด (Overstay) หากอยู่เกินเวลาที่กำหนดในวีซ่า อาจถูกปรับหรือถูกขึ้นบัญชีห้ามเข้าประเทศอีก
2.3 การถูกปฏิเสธเข้าเมือง (Denied Entry) อาจเกิดจากเอกสารไม่ครบถ้วน ประวัติอาชญากรรม หรือไม่สามารถอธิบายจุดประสงค์ของการเดินทางได้
วิธีป้องกัน:
-ตรวจสอบประเภทวีซ่าที่ต้องใช้ให้ถูกต้อง
-อย่าพำนักเกินกำหนด ตรวจสอบวันหมดอายุของวีซ่าก่อนเดินทาง
-เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น หลักฐานที่พัก แผนการเดินทาง และหลักฐานการเงิน
แนวทางจัดการ:
-หากถูกปฏิเสธเข้าเมือง ให้ขอพบเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย เพื่อช่วยเจรจา
-หากพำนักเกินกำหนด ให้ติดต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของประเทศนั้น เพื่อขอขยายเวลาหรือชำระค่าปรับ
-หลีกเลี่ยงการใช้วีซ่าผิดประเภท หากต้องทำงานต้องขอวีซ่าทำงานที่ถูกต้อง
3.1 การนำสิ่งของต้องห้ามเข้าประเทศ บางประเทศมีข้อห้ามเกี่ยวกับการนำเข้า ยา อาหารสด เมล็ดพืช อาวุธ ของละเมิดลิขสิทธิ์
3.2 การนำเงินสดเข้าหรือออกเกินกำหนด หลายประเทศกำหนดให้ต้องแจ้งจำนวนเงินสดที่พกติดตัวเกิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
3.3 การลักลอบขนสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต การนำเข้าสินค้าปลอดภาษี (Duty-Free) ในปริมาณเกินกำหนด อาจทำให้ถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมหรือถูกยึดของ
วิธีป้องกัน:
-ตรวจสอบรายการสินค้าที่ห้ามนำเข้าในประเทศปลายทาง
-หากพกเงินสดจำนวนมาก ให้แจ้งศุลกากรล่วงหน้า
-ซื้อสินค้าปลอดภาษีในปริมาณที่กฎหมายกำหนด
แนวทางจัดการ:
-ตรวจสอบข้อกำหนดศุลกากรของประเทศปลายทางก่อนเดินทาง
-หากถูกจับกุมเรื่องนำเข้าสิ่งของต้องห้าม ให้ขอพบทนายความหรือติดต่อสถานทูตไทยทันที
-หากถูกเรียกเก็บภาษีสินค้า ให้ขอใบเสร็จรับเงินและตรวจสอบอัตราภาษีของประเทศนั้น
4.1 การทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต หากใช้ วีซ่าท่องเที่ยว แล้วแอบทำงาน อาจถูกเนรเทศและห้ามเข้าประเทศนั้นอีก
4.2 การละเมิดกฎหมายแรงงานท้องถิ่น หากทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างหรือไม่ได้รับสวัสดิการตามกฎหมาย อาจเกิดข้อพิพาทกับนายจ้าง
วิธีป้องกัน:
-หากต้องการทำงานในต่างประเทศ ต้องขอ ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ให้ถูกต้อง
-ตรวจสอบกฎหมายแรงงานของประเทศนั้นก่อนสมัครงาน
แนวทางจัดการ:
-หากต้องการทำงานในต่างประเทศ ต้องขอใบอนุญาตทำงานตามกฎหมาย
-หากถูกนายจ้างเอาเปรียบ ติดต่อสำนักงานแรงงานของประเทศนั้น หรือขอความช่วยเหลือจากสถานทูตไทย
-หลีกเลี่ยงการทำธุรกิจหรือเซ็นสัญญาทางกฎหมายโดยไม่ศึกษาเงื่อนไขให้ละเอียด
5.1 การละเมิดกฎหมายท้องถิ่น บางประเทศมีกฎหมายที่แตกต่างจากไทย เช่น ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะ หรือห้ามถ่ายภาพสถานที่ราชการ
5.2 การแต่งกายไม่เหมาะสม ในบางประเทศมีกฎระเบียบเกี่ยวกับการแต่งกาย เช่น ห้ามใส่เสื้อแขนกุดหรือกางเกงขาสั้นในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
วิธีป้องกัน:
-ศึกษากฎหมายพื้นฐานของประเทศปลายทางก่อนเดินทาง
-เคารพวัฒนธรรมท้องถิ่น และปฏิบัติตามข้อกำหนดทางศาสนา
6.1 การตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ บางประเทศมีแก๊งมิจฉาชีพที่ใช้กลโกง เช่น ล้วงกระเป๋า ใช้แบงก์ปลอม หรือ ขายของปลอม
6.2 การถูกจับกุมโดยไม่รู้ตัว นักเดินทางบางคนอาจถูกล่อให้พกพาสิ่งผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัว เช่น ยาเสพติดหรือของต้องห้าม
วิธีป้องกัน:
-หลีกเลี่ยงการรับฝากของจากคนแปลกหน้า
-เก็บของมีค่าให้ปลอดภัย และใช้กระเป๋าที่มีซิปปิดสนิท
-หากพบเห็นพฤติกรรมต้องสงสัย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือสถานทูต
แนวทางจัดการ:
หากถูกหลอกลวงหรือขโมยของ – แจ้งตำรวจท้องถิ่นทันทีและขอใบแจ้งความ
หากถูกจับกุม – ขอใช้สิทธิ์ขอพบทนายความและติดต่อสถานทูตไทย
หากตกอยู่ในอันตราย – โทรขอความช่วยเหลือจากตำรวจท้องถิ่นหรือสายด่วนฉุกเฉิน
7.1 การใช้รถเช่าโดยไม่มีใบขับขี่สากล บางประเทศกำหนดให้ต้องใช้ ใบขับขี่สากล (International Driving Permit - IDP)
7.2 การถูกหลอกลวงจากที่พักหรือบริษัททัวร์ บางครั้งอาจพบว่าที่พักไม่ตรงกับที่โฆษณา หรือบริษัททัวร์โกงเงินค่ามัดจำ
วิธีป้องกัน:
-หากต้องการเช่ารถ ให้ตรวจสอบกฎหมายท้องถิ่นเกี่ยวกับใบขับขี่
-จองที่พักผ่านแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ และอ่านรีวิวก่อนตัดสินใจ
แนวทางจัดการ:
-จองที่พักผ่านแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ และอ่านรีวิวก่อนจอง
-หากเช่ารถต้องมีใบขับขี่สากล และศึกษากฎหมายจราจรของประเทศนั้น
-ใช้บริการขนส่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย และตรวจสอบอัตราค่าโดยสารล่วงหน้า
หากพบปัญหาทางกฎหมายในต่างประเทศ ควรติดต่อหน่วยงานต่อไปนี้เพื่อขอความช่วยเหลือ
สถานเอกอัครราชทูตไทยหรือสถานกงสุลไทยประจำประเทศนั้น
ตรวจสอบที่ตั้งและช่องทางติดต่อได้ที่เว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศ
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
สายด่วนกงสุลไทย โทร. +66 2-572-8442
เว็บไซต์: www.consular.go.th
ตำรวจท้องถิ่นของประเทศปลายทาง
หากพบปัญหาด้านอาชญากรรม ควรแจ้งความทันที
ทนายความท้องถิ่น
หากถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ควรหาทนายความที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของประเทศนั้น
ข้อมูลอ้างอิง
กระทรวงการต่างประเทศ
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
วารสารนวัตกรรมสังคม