ในปัจจุบัน การเดินทางไปต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นเพื่อ ท่องเที่ยว ทำงาน ศึกษาต่อ หรือพำนักถาวร ล้วนต้องมี วีซ่า (Visa) เป็นเอกสารสำคัญที่ได้รับการอนุมัติจากประเทศปลายทาง เพื่ออนุญาตให้บุคคลสามารถเข้าประเทศได้ตามระยะเวลาที่กำหนด อย่างไรก็ตาม กฎหมายวีซ่า และเงื่อนไขในการขอวีซ่าแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน ดังนั้นผู้ที่ต้องการเดินทางควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับประเภทของวีซ่า ข้อกำหนดและเอกสารที่ต้องใช้ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง
วีซ่า (Visa) คือ เอกสารที่รัฐบาลของประเทศปลายทางออกให้กับผู้เดินทางเพื่ออนุญาตให้เข้าประเทศ และพำนักในระยะเวลาที่กำหนด กฎหมายวีซ่าในแต่ละประเทศจะมีเงื่อนไขแตกต่างกัน โดยทั่วไป วีซ่าจะติดอยู่ใน หนังสือเดินทาง (Passport) ของผู้เดินทาง และมีเงื่อนไขเกี่ยวกับ ระยะเวลาพำนัก จุดประสงค์การเดินทาง และข้อจำกัดอื่น ๆ
ทำไมต้องขอวีซ่า ?
- ควบคุมการเข้าเมืองของชาวต่างชาติ
- ป้องกันการพำนักเกินกำหนด (Overstay) ซึ่งอาจถูกขึ้นบัญชีดำ (Blacklist)
- ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เดินทาง เช่น ความสามารถในการใช้จ่าย และวัตถุประสงค์การเดินทาง
วีซ่าเป็นเอกสารที่มีความสำคัญต่อการเดินทางต่างประเทศในหลายด้าน ดังนี้
- กฎหมายวีซ่าช่วยให้รัฐบาลสามารถตรวจสอบผู้เดินทางได้ล่วงหน้า ก่อนอนุญาตให้เข้าประเทศ
- ป้องกันการเดินทางของบุคคลที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคง เช่น อาชญากรหรือผู้ลี้ภัยที่ไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง
- แต่ละประเทศกำหนดระยะเวลาพำนักสูงสุดตามประเภทของวีซ่า เช่น วีซ่าท่องเที่ยวอาจอนุญาตให้พำนักได้ 30-90 วัน
- ป้องกันปัญหาการอยู่เกินกำหนด (Overstay) ซึ่งอาจส่งผลต่อการเดินทางในอนาคต
- ผู้ที่ต้องการเดินทางต้องผ่านกระบวนการคัดกรอง เช่น พิสูจน์แหล่งที่มาของรายได้ และเหตุผลการเดินทาง
- ในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร อาจต้องมีการสัมภาษณ์เพื่อพิจารณาว่าผู้เดินทางมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข หรือไม่
- วีซ่าช่วยเปิดโอกาสให้บุคคลสามารถเดินทางไปศึกษา ทำงาน หรือพำนักในต่างประเทศได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
- สนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศปลายทาง โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยวและแรงงานข้ามชาติ
วีซ่ามีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการเดินทาง ซึ่งแบ่งออกเป็นหมวดหมู่หลัก ๆ ได้แก่
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวหรือเยี่ยมเยียนญาติ
- อนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศเพื่อการท่องเที่ยวหรือเยี่ยมญาติ
- ไม่มีสิทธิ์ทำงาน
- ส่วนใหญ่อนุญาตให้พำนักได้ 30-90 วัน
ตัวอย่างประเทศที่ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยว
สหรัฐอเมริกา (B2 Visa), ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, วีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) สำหรับเดินทางในยุโรป
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่เดินทางเพื่อประชุม เจรจาธุรกิจ หรือเข้าร่วมงานแสดงสินค้า
- อนุญาตให้เดินทางเพื่อการประชุมทางธุรกิจ หรือเจรจาทางการค้า
- ไม่มีสิทธิ์ทำงานแบบรับเงินเดือน
ตัวอย่างวีซ่าธุรกิจ
วีซ่าธุรกิจสหรัฐฯ (B1 Visa), วีซ่าธุรกิจเชงเก้น
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในต่างประเทศ
- สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในต่างประเทศ
- อาจมีเงื่อนไขอนุญาตให้ทำงานพาร์ทไทม์
ตัวอย่างวีซ่านักเรียน
วีซ่านักเรียนสหรัฐฯ (F1 Visa), วีซ่านักเรียนอังกฤษ (Tier 4 Visa)
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการทำงานในต่างประเทศ โดยต้องมีนายจ้างเป็นผู้สนับสนุน
- สำหรับผู้ที่ได้รับการจ้างงานในต่างประเทศ
- ต้องมีนายจ้างเป็นผู้สนับสนุน (Sponsor)
ตัวอย่างวีซ่าทำงาน
วีซ่าทำงาน H-1B (สหรัฐฯ), วีซ่า Skilled Worker (อังกฤษ)
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานหรือพำนักถาวร เช่น วีซ่าอพยพ หรือวีซ่าครอบครัว
- อนุญาตให้พำนักระยะยาว และสามารถยื่นขอสัญชาติในอนาคต
- ต้องผ่านเงื่อนไข เช่น การอยู่ในประเทศตามระยะเวลาที่กำหนด
ตัวอย่างวีซ่าถาวร
กรีนการ์ด (Green Card) ของสหรัฐฯ, วีซ่า PR ของแคนาดาและออสเตรเลีย
การขอวีซ่าในแต่ละประเทศมีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน แต่โดยทั่วไปมีขั้นตอนดังนี้
ก่อนขอวีซ่า ต้องพิจารณาวัตถุประสงค์การเดินทาง และเลือกประเภทวีซ่าที่เหมาะสม
เอกสารสำคัญที่ต้องใช้ (อาจแตกต่างไปตามแต่ละประเทศ)
- หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- แบบฟอร์มขอวีซ่าของประเทศปลายทาง
- รูปถ่ายขนาดตามที่สถานทูตกำหนด
- หลักฐานทางการเงิน เช่น บัญชีเงินฝาก หรือสลิปเงินเดือน
- ตั๋วเครื่องบิน และแผนการเดินทาง
- หนังสือรับรองการทำงาน หรือหนังสือตอบรับจากสถานศึกษา (สำหรับวีซ่านักเรียน)
สามารถยื่นขอวีซ่าได้ที่ สถานทูตหรือศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (Visa Application Center – VAC) ของประเทศปลายทาง
เช่น วีซ่าสหรัฐฯ และแคนาดาต้องมีการสัมภาษณ์ เพื่อประเมินความเหมาะสมของผู้ขอวีซ่า
ระยะเวลาการพิจารณาขึ้นอยู่กับประเภทของวีซ่า โดยทั่วไปใช้เวลา 5-30 วันทำการ
แก้ไข : ตรวจสอบสาเหตุการถูกปฏิเสธ เช่น เอกสารไม่ครบถ้วน หรือข้อสงสัยด้านการเงิน และยื่นขอใหม่
แก้ไข : ติดต่อสถานทูตหรือหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองทันที
แก้ไข : ยื่นขอต่ออายุวีซ่าก่อนหมดอายุ และศึกษากฎหมายแพ่งที่เกี่ยวข้อง
กฎหมายวีซ่าในแต่ละประเทศอ้างอิงกับ กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง (Immigration Law) เช่น
- กฎหมายคนเข้าเมืองไทย : พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
- กฎหมายคนเข้าเมืองสหรัฐฯ : Immigration and Nationality Act (INA)
- กฎหมายวีซ่าเชงเก้น : Schengen Visa Code
- สหราชอาณาจักร : Immigration Rules UK
ข้อมูลอ้างอิง
กระทรวงการต่างประเทศ