การเป็นนักเขียนนิทานสำหรับเด็กไม่ใช่แค่การเล่าเรื่องสนุก ๆ เท่านั้น แต่ต้องมีทักษะเฉพาะที่ช่วยสร้างสรรค์เรื่องราวให้ดึงดูดใจและส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก ทักษะสำคัญที่นักเขียนควรมี ได้แก่ ความคิดสร้างสรรค์เพื่อแต่งเรื่องราวที่น่าสนใจ ความเข้าใจจิตวิทยาเด็กเพื่อให้เหมาะสมกับวัย การใช้ภาษาที่เรียบง่ายและไพเราะ รวมถึงความสามารถในการถ่ายทอดบทเรียนหรือข้อคิดอย่างแนบเนียน นอกจากนี้ การทำงานร่วมกับนักวาดภาพประกอบและสำนักพิมพ์ก็เป็นอีกหนึ่งทักษะสำคัญที่ช่วยให้นิทานสมบูรณ์แบบและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น
นักเขียนนิทานต้องสามารถถ่ายทอดและเล่าเรื่องราวให้เหมาะสมกับเด็กในแต่ละช่วงวัย เด็กแต่ละวัยมีพัฒนาการและความสนใจที่แตกต่างกัน เช่น เด็กเล็กอาจต้องการเนื้อหาสั้น กระชับ และมีจังหวะไพเราะ ในขณะที่เด็กโตสามารถรับเนื้อหาที่ซับซ้อนขึ้นได้ นักเขียนต้องเลือกใช้คำที่เข้าใจง่าย สร้างบทสนทนาที่เป็นธรรมชาติ และทำให้เด็กสามารถเชื่อมโยงกับเรื่องราวได้ง่าย
การมีพื้นฐานทางภาษาที่ดี โดยเฉพาะในภาษาไทย ช่วยให้นักเขียนสามารถใช้คำได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ทั้งในแง่ของไวยากรณ์และความไพเราะของสำนวน นอกจากนี้ ยังต้องมีความสามารถในการเลือกใช้คำที่สื่อความหมายได้ดี ตรงกับอารมณ์และบรรยากาศของเรื่องราว ทำให้นิทานมีความไหลลื่นและดึงดูดใจเด็ก
ทักษะการเขียนเป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาอยู่เสมอ การเขียนนิทานสำหรับเด็กไม่ใช่แค่การเล่าเรื่องให้สนุก แต่ต้องทำให้เนื้อหามีความเป็นธรรมชาติ เข้าใจง่าย และกระตุ้นจินตนาการของเด็ก การฝึกฝนและศึกษางานเขียนของนักเขียนท่านอื่น รวมถึงรับฟังความคิดเห็นจากผู้อ่าน จะช่วยให้นักเขียนสามารถพัฒนางานของตนเองให้ดียิ่งขึ้น
นักเขียนนิทานควรมีความเข้าใจพื้นฐานด้านจิตวิทยาเด็ก เพื่อให้สามารถสร้างสรรค์เรื่องราวที่ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ การมีความเข้าอกเข้าใจและเห็นใจเพื่อนมนุษย์ยังช่วยให้นักเขียนสามารถสร้างตัวละครและสถานการณ์ที่สมจริง สะท้อนความรู้สึกและปัญหาที่เด็กอาจพบเจอในชีวิตจริง
การคิดวิเคราะห์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักเขียน เพราะช่วยให้สามารถกลั่นกรอง สังเคราะห์ และเลือกข้อมูลที่เหมาะสมกับเนื้อหาของนิทานได้ การวิเคราะห์แนวโน้มและความสนใจของเด็กในยุคปัจจุบัน รวมถึงศึกษาพฤติกรรมการอ่าน จะช่วยให้นักเขียนสามารถสร้างสรรค์งานที่ตอบโจทย์และได้รับความนิยม
แม้การเขียนจะเป็นทักษะหลัก แต่การใช้คอมพิวเตอร์ก็เป็นสิ่งจำเป็นในยุคดิจิทัล นักเขียนควรสามารถใช้โปรแกรมงานเอกสาร เช่น Microsoft Word หรือ Google Docs ได้อย่างคล่องแคล่ว รวมถึงเรียนรู้ทักษะด้านการจัดวางรูปเล่ม การส่งต้นฉบับ และการติดต่อสื่อสารกับสำนักพิมพ์ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและเป็นมืออาชีพมากขึ้น