ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีและข้อมูลเป็นหัวใจสำคัญ วิศวกรความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity Engineer) จึงกลายเป็นอาชีพที่มีบทบาทสำคัญในการปกป้องระบบเครือข่าย ข้อมูล และโครงสร้างพื้นฐานจากภัยคุกคามไซเบอร์ คนในสายงานนี้ต้องมีทักษะเชิงเทคนิค เช่น การเข้ารหัส การวิเคราะห์ภัยคุกคาม การบริหารจัดการความเสี่ยง และการตรวจสอบช่องโหว่ รวมถึงทักษะด้านการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันและตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาชีพนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัยทางไซเบอร์
ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และการเขียนโปรแกรมเป็นพื้นฐานสำคัญของวิศวกรความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เพราะต้องทำงานเกี่ยวกับระบบเครือข่าย ซอฟต์แวร์ และการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ การเข้าใจภาษาโปรแกรม เช่น Python, C++, JavaScript และการใช้เครื่องมือด้านความปลอดภัยจะช่วยให้สามารถตรวจสอบช่องโหว่และพัฒนามาตรการป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิศวกรความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ต้องสามารถมองหาจุดบอด ช่องโหว่ และข้อผิดพลาดของระบบ เพื่อคาดการณ์ภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น การมีแนวคิดแบบวิเคราะห์ (Analytical Thinking) และการใช้เครื่องมือทางไซเบอร์ซีเคียวริตี้ เช่น Intrusion Detection Systems (IDS) และ Penetration Testing จะช่วยให้สามารถป้องกันและรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ได้อย่างทันท่วงที
การอธิบายข้อมูลเชิงเทคนิคให้ผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญเข้าใจได้เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อต้องรายงานปัญหาด้านความปลอดภัย หรือให้คำแนะนำกับผู้บริหารและทีมงาน นอกจากนี้ ทักษะด้านการเจรจาต่อรองยังช่วยให้สามารถทำงานร่วมกับฝ่ายอื่น ๆ ในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การโน้มน้าวให้ทีมพัฒนาซอฟต์แวร์แก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
วิศวกรความมั่นคงปลอดภัยต้องจัดลำดับความสำคัญของงาน เช่น การรับมือกับภัยคุกคามแบบเร่งด่วน การวางแผนกลยุทธ์ด้านความปลอดภัย และการอัปเดตระบบอยู่เสมอ รวมถึงการบริหารเวลาให้เหมาะสม เพราะบางครั้งต้องทำงานภายใต้ความกดดันสูง เช่น ในกรณีที่เกิดเหตุโจมตีทางไซเบอร์
เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว วิศวกรในสายงานนี้ต้องมีความสามารถในการค้นคว้าหาข้อมูลใหม่ ๆ จากแหล่งข้อมูลออนไลน์ เช่น รายงานด้านความปลอดภัย ฟอรัมทางเทคนิค และการศึกษากรณีตัวอย่างจากเหตุการณ์จริง การเข้าใจภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญ เพราะข้อมูลและเอกสารทางไซเบอร์ซีเคียวริตี้ส่วนใหญ่อยู่ในภาษาอังกฤษ
แม้ว่าหลายคนมองว่างานด้านความปลอดภัยไซเบอร์เป็นงานเทคนิคที่ต้องทำงานคนเดียว แต่ความจริงแล้วต้องทำงานร่วมกับทีมไอที ทีมกฎหมาย และฝ่ายบริหารเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา การมีภาวะผู้นำช่วยให้สามารถประสานงานและผลักดันให้มาตรการด้านความปลอดภัยได้รับการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ