การแต่งงานเป็นพันธะทางกฎหมายที่ให้ทั้ง สิทธิและหน้าที่ของคู่สมรส ซึ่งกำหนดไว้ใน กฎหมายแพ่งเกี่ยวกับการแต่งงาน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของไทย คู่สมรสมีสิทธิ์ในการตัดสินใจร่วมกันเกี่ยวกับทรัพย์สิน, การดำรงชีวิตคู่ และภาระหน้าที่ทางกฎหมาย เช่น การดูแลบุตรและการรับผิดชอบหนี้สิน เพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายและความขัดแย้งในอนาคต คู่สมรสควรทำความเข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตนเองให้ถ่องแท้
-การสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายต้องมีการจดทะเบียนสมรส
-คู่สมรสสามารถใช้สิทธิตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เช่น การแบ่งทรัพย์สินและการรับมรดก
-หากไม่มีการจดทะเบียนสมรส จะถือว่าไม่มีสิทธิ์ตามกฎหมาย
-คู่สมรสต้องอยู่ร่วมกันในฐานะสามีภรรยาและช่วยเหลือกันทั้งในด้านเศรษฐกิจและจิตใจ
-หากคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตาม อาจถูกฟ้องหย่าหรือเรียกร้องค่าเลี้ยงดูได้
-สินสมรส: ทรัพย์สินที่ได้มาหลังจากแต่งงาน ถือเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมกัน
-สินส่วนตัว: ทรัพย์สินที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีมาก่อนแต่งงาน ยังคงเป็นของฝ่ายนั้น
-หากต้องการขายหรือโอนทรัพย์สินสมรสต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรส
-หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียชีวิต คู่สมรสอีกฝ่ายมีสิทธิ์ได้รับมรดกตามลำดับชั้นของกฎหมาย
-สิทธิ์นี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้อง
-คู่สมรสมีสิทธิร่วมกันในการตัดสินใจเรื่องสำคัญของครอบครัว เช่น การเลี้ยงดูบุตรและการศึกษา
-หากมีข้อขัดแย้ง คู่สมรสสามารถยื่นคำร้องต่อศาลให้พิจารณาได้
-คู่สมรสสามารถเป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของอีกฝ่ายได้หากเกิดเหตุฉุกเฉิน
-สามารถใช้สิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่คู่สมรสมีสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐหรือบริษัท
-ภรรยาสามารถเลือกใช้นามสกุลของสามี หรือต้องการใช้ชื่อสกุลเดิมก็ได้
-หลังจากหย่าร้างสามารถเปลี่ยนกลับมาใช้นามสกุลเดิมได้
-คู่สมรสสามารถดำเนินคดีแทนกันได้ในกรณีที่อีกฝ่ายไม่สามารถทำได้ เช่น กรณีเจ็บป่วย หรือเป็นผู้ไร้ความสามารถ
-หากมีการหย่าร้าง ฝ่ายที่ไม่ได้เป็นผู้ผิดสามารถเรียกร้องค่าเลี้ยงดูจากอีกฝ่ายได้
-หากมีบุตร ศาลจะพิจารณาว่าฝ่ายใดควรได้รับสิทธิ์ในการปกครองบุตร
คู่สมรสสามารถฟ้องร้องคดีเพื่อรักษาสิทธิ์ของตนเอง เช่น ฟ้องหย่า ฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดู หรือฟ้องเรียกสินสมรส
-หากคู่สมรสเสียชีวิต อีกฝ่ายมีสิทธิ์ได้รับมรดกตามลำดับชั้นของกฎหมาย
คู่สมรสมีสิทธิ์และหน้าที่ร่วมกันในการดูแลบุตร ทั้งในด้านการเลี้ยงดูและการศึกษา
หน้าที่ของคู่สมรส หมายถึง ภาระผูกพันที่สามีและภรรยาต้องปฏิบัติต่อกันตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อให้ชีวิตคู่ดำเนินไปอย่างถูกต้องและมั่นคง หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเลยหน้าที่ อาจส่งผลให้เกิดการฟ้องร้องทางกฎหมาย เช่น ฟ้องหย่า หรือเรียกร้องค่าเลี้ยงดู หน้าที่ของคู่สมรสตามกฎหมาย ดังนี้
อ้างอิงกฎหมาย: ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1461
-คู่สมรสต้องอาศัยอยู่ร่วมกันและปฏิบัติต่อกันด้วยความรักและความเคารพ
-ต้องให้การช่วยเหลือกันทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
-หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเลย ไม่ยอมอยู่ร่วมกันโดยไม่มีเหตุผลอันควร อาจเป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้
อ้างอิงกฎหมาย: ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 (1)
-คู่สมรสต้องรักษาความซื่อสัตย์และไม่คบชู้กับบุคคลอื่น
-หากฝ่ายหนึ่งมีพฤติกรรมเป็นชู้ อีกฝ่ายสามารถฟ้องหย่าและเรียกร้องค่าทดแทนจากบุคคลที่เป็นชู้ได้
-สามารถใช้หลักฐาน เช่น ข้อความแชท ภาพถ่าย หรือพยานบุคคลในการฟ้องร้อง
อ้างอิงกฎหมาย: ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1476
-คู่สมรสต้องช่วยกันดูแลและจัดการทรัพย์สินสมรสร่วมกัน
-หากต้องการขาย โอน หรือจำนองทรัพย์สิน ต้องได้รับความยินยอมจากอีกฝ่าย
-การซื้อทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง เช่น บ้านหรือที่ดิน ต้องมีการลงชื่อร่วมกัน
อ้างอิงกฎหมาย: ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1461
-สามีและภรรยามีหน้าที่ต้องเลี้ยงดูและให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
-หากฝ่ายหนึ่งไม่สามารถหารายได้ อีกฝ่ายต้องให้การดูแลตามความสามารถ
-หากมีการหย่าร้าง ฝ่ายที่ไม่ได้เป็นผู้ผิดสามารถเรียกร้องค่าเลี้ยงดูได้
อ้างอิงกฎหมาย: ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1561
-คู่สมรสต้องร่วมกันเลี้ยงดู อบรม และให้การศึกษาบุตรตามสถานะของครอบครัว
-ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบในการดูแลบุตรได้
-หากมีการหย่าร้าง ศาลจะพิจารณาว่าฝ่ายใดควรได้รับสิทธิ์ในการปกครองบุตร
อ้างอิงกฎหมาย: ไม่มีระบุในมาตราโดยตรง แต่ถือเป็นหลักการพื้นฐานของชีวิตสมรส
-คู่สมรสต้องปฏิบัติต่อกันด้วยความเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน
-ไม่ควรใช้ความรุนแรงทางร่างกายหรือวาจาต่อคู่สมรส
-การละเมิดสิทธินี้อาจนำไปสู่การฟ้องร้องหรือฟ้องหย่าได้
อ้างอิงกฎหมาย: ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1477
-หนี้สินที่เกิดขึ้นระหว่างการสมรสถือเป็นหนี้ร่วมกัน
-หากเป็นหนี้ที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายในครอบครัว เช่น ค่าเล่าเรียนบุตร ค่ารักษาพยาบาล สามีและภรรยาต้องร่วมกันรับผิดชอบ
อ้างอิงกฎหมาย: ไม่มีระบุในมาตราโดยตรง แต่สามารถใช้เป็นเหตุฟ้องหย่าได้
-ไม่ควรประพฤติตัวในลักษณะที่ทำให้คู่สมรสได้รับความอับอาย
-เช่น การโพสต์เรื่องส่วนตัวลงโซเชียลมีเดียโดยไม่ยินยอม หรือการกล่าวร้ายต่อสาธารณะ
อ้างอิงกฎหมาย: ไม่มีระบุในมาตราโดยตรง แต่เป็นหลักจริยธรรมของชีวิตคู่
-หากคู่สมรสป่วยหนัก อีกฝ่ายต้องดูแลและตัดสินใจเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล
-หากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง คู่สมรสมีสิทธิ์ตัดสินใจแทนอีกฝ่ายได้
อ้างอิงกฎหมาย: ไม่มีระบุในมาตราโดยตรง แต่เป็นสิ่งที่ส่งผลต่อชีวิตคู่โดยตรง
-คู่สมรสต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับโรคติดต่อร้ายแรงที่อาจมีผลต่อชีวิตคู่
-หากมีภาระหนี้สิน ควรแจ้งให้อีกฝ่ายทราบเพื่อช่วยกันวางแผนการเงิน
เงื่อนไขการแต่งงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย
-ต้องมีอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
-ต้องไม่มีคู่สมรสอยู่ก่อนหน้า
-ต้องได้รับความยินยอมจากทั้งสองฝ่าย
-ต้องไม่มีภาวะวิกลจริต หรือเป็นญาติสายตรงกัน
การหย่าร้างตามกฎหมาย
-หากคู่สมรสต้องการหย่า ต้องมีเหตุผลตามกฎหมาย เช่น นอกใจ, ทอดทิ้งเกิน 1 ปี, หรือมีปัญหาทางสุขภาพจิตที่กระทบต่อชีวิตคู่
ข้อมูลอ้างอิง
สำนักงานกิจการยุติธรรม
สถาบันนิติธรรมาลัย