Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

บทบาทของที่ปรึกษาทางการเงินในการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น

Posted By Kung_nadthanan | 30 ม.ค. 68
153 Views

  Favorite

 

​ที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor - FA) มีบทบาทสำคัญในการ นำบริษัทเข้าตลาดหุ้น โดยเฉพาะในกระบวนการ เสนอขายหุ้นครั้งแรก (IPO - Initial Public Offering) ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการจัดทำเอกสาร ยื่นขออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล และวางแผนกลยุทธ์เพื่อให้การระดมทุนเป็นไปอย่างราบรื่น บทความนี้จะอธิบายถึง บทบาทของที่ปรึกษาทางการเงิน ในกระบวนการ IPO และเหตุผลที่บริษัทต้องใช้บริการ FA เมื่อต้องการเข้าตลาดหลักทรัพย์

 

ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) คืออะไร?

ที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor - FA) เป็นบุคคลหรือบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คือ ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินที่ให้คำแนะนำด้านการลงทุน การบริหารจัดการโครงสร้างทางการเงิน และการระดมทุน โดยเฉพาะในกระบวนการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น (IPO - Initial Public Offering) ทำหน้าที่ให้คำแนะนำด้านการเงิน การลงทุน และการบริหารโครงสร้างทางการเงินของบริษัท 

FA จึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้บริษัทสามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้อย่างราบรื่น ปฏิบัติตามกฎระเบียบของหน่วยงานกำกับดูแล และเพิ่มโอกาสในการระดมทุน

FA มีบทบาทสำคัญในหลายด้าน เช่น
-วางแผนและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างทางการเงิน
-ประเมินมูลค่าบริษัทและกำหนดราคาหุ้น IPO
-จัดทำเอกสารสำหรับการเสนอขายหุ้นและยื่นขออนุมัติต่อ ก.ล.ต.
-ช่วยประสานงานระหว่างบริษัท ตลาดหลักทรัพย์ และนักลงทุน

 

ประเภทของที่ปรึกษาทางการเงิน

1. ที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล (Personal Financial Advisor)

-ให้คำแนะนำด้านการวางแผนการเงินส่วนบุคคล เช่น การออม การลงทุน การเกษียณอายุ และการจัดการภาษี

-มักทำงานร่วมกับบุคคลทั่วไปหรือครอบครัวที่ต้องการจัดการการเงินให้มีประสิทธิภาพ

2. ที่ปรึกษาการลงทุน (Investment Advisor)

-ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น กองทุนรวม ตราสารหนี้ และอสังหาริมทรัพย์

-มักเป็นที่ปรึกษาที่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

3. ที่ปรึกษาทางการเงินองค์กร (Corporate Financial Advisor)

-ให้คำปรึกษาด้านการเงินแก่ธุรกิจและองค์กร เช่น การควบรวมกิจการ (Mergers & Acquisitions) การวิเคราะห์งบการเงิน และกลยุทธ์ทางการเงิน

-ช่วยองค์กรบริหารกระแสเงินสด จัดหาเงินทุน และเพิ่มประสิทธิภาพทางการเงิน

4. ที่ปรึกษาด้านภาษี (Tax Advisor)

เชี่ยวชาญด้านกฎหมายภาษี และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการวางแผนภาษีเพื่อลดภาระภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

5. ที่ปรึกษาด้านการวางแผนเกษียณอายุ (Retirement Planning Advisor)

ช่วยลูกค้ากำหนดเป้าหมายและวางแผนการออมเงินสำหรับวัยเกษียณให้เพียงพอต่อการใช้ชีวิต

 

 

บทบาทของที่ปรึกษาทางการเงินในกระบวนการ IPO

IPO (Initial Public Offering) หรือ การเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก คือ กระบวนการที่บริษัทเอกชนนำหุ้นของตนออกเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์ การทำ IPO ช่วยให้บริษัทสามารถระดมทุนจากนักลงทุนรายย่อยและสถาบันเพื่อนำไปขยายธุรกิจ

ที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor: FA) มีบทบาทสำคัญในการให้คำปรึกษาและดำเนินการต่างๆ ในกระบวนการ IPO เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์และหน่วยงานกำกับดูแล

 

บทบาทหลักของที่ปรึกษาทางการเงินในกระบวนการ IPO

1. ประเมินความพร้อมของบริษัทก่อน IPO

ที่ปรึกษาทางการเงินต้องวิเคราะห์โครงสร้างทางการเงิน สถานะทางบัญชี และการดำเนินธุรกิจของบริษัทเพื่อตรวจสอบว่าบริษัทมีความพร้อมสำหรับการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือไม่

-ตรวจสอบ ฐานะการเงิน ของบริษัท
-วิเคราะห์ โครงสร้างรายได้และความสามารถในการทำกำไร
-ประเมิน โครงสร้างองค์กรและระบบบริหารจัดการ
-ตรวจสอบ ข้อจำกัดทางกฎหมายและภาระหนี้สิน

2. กำหนดมูลค่าหุ้นและโครงสร้างทางการเงิน

หนึ่งในหน้าที่สำคัญของที่ปรึกษาทางการเงินคือการช่วยกำหนด มูลค่าหุ้น (Valuation) และโครงสร้างทุนของบริษัท เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทจะสามารถระดมทุนได้อย่างเหมาะสม

-วิเคราะห์ มูลค่าทางบัญชี (Book Value), P/E Ratio และ Market Capitalization
-กำหนด ราคาหุ้นเสนอขาย (Offering Price)
-ออกแบบ โครงสร้างเงินทุนและสัดส่วนหุ้นที่เสนอขาย

3. จัดทำเอกสารและข้อมูลสำหรับการยื่นขอ IPO

บริษัทที่ต้องการ IPO ต้องยื่นเอกสารจำนวนมากให้กับตลาดหลักทรัพย์และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

-จัดทำ แบบแสดงรายการข้อมูล (Filing Statement หรือแบบ Filing / แบบ 69-1)
-จัดทำ หนังสือชี้ชวนเสนอขายหลักทรัพย์ (Prospectus)
-จัดเตรียม แผนธุรกิจและรายงานการเงินที่ได้รับการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA)

4. ประสานงานกับหน่วยงานกำกับดูแล

ที่ปรึกษาทางการเงินทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างบริษัท ผู้ออกหลักทรัพย์ และหน่วยงานกำกับดูแล เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมด

-ประสานงาน การยื่นเอกสารและข้อมูลให้กับตลาดหลักทรัพย์และ ก.ล.ต.
-ตอบคำถามและแก้ไขข้อเรียกร้องจากหน่วยงานกำกับดูแล
-ติดตามผลกระบวนการอนุมัติและช่วยดำเนินการตามข้อกำหนดที่จำเป็น

5. กำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดและนักลงทุนสัมพันธ์ (IR)

การเปิดตัว IPO ต้องมีการสื่อสารที่ดีเพื่อดึงดูดนักลงทุน ที่ปรึกษาทางการเงินจึงช่วยกำหนดกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่น

-จัดทำ แผนการตลาดสำหรับ IPO
-ดำเนินการ Roadshow เพื่อนำเสนอข้อมูลให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย
-ดูแล ประชาสัมพันธ์และความสัมพันธ์กับนักลงทุน (Investor Relations: IR)

6. บริหารจัดการการจองซื้อหุ้น (Book Building & Subscription Process)

ในขั้นตอนการเสนอขายหุ้น ที่ปรึกษาทางการเงินมีบทบาทสำคัญในการจัดการกระบวนการจองซื้อหุ้นของนักลงทุน

-ประสานงานกับ บริษัทหลักทรัพย์ (Underwriters) เพื่อดำเนินการเสนอขายหุ้น
-ควบคุม การกำหนดราคาหุ้นและการจัดสรรหุ้นให้เหมาะสม
-ตรวจสอบ ความต้องการซื้อ (Demand) ของนักลงทุน

7. บริหารจัดการหลังการขายหุ้น (Post-IPO Services)

หลังจากที่หุ้นของบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แล้ว ที่ปรึกษาทางการเงินยังคงมีบทบาทสำคัญในการติดตามผล

-ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์
-ช่วยบริษัท บริหารจัดการสภาพคล่องของหุ้นในตลาด
-สนับสนุนด้าน กลยุทธ์นักลงทุนสัมพันธ์ (IR) อย่างต่อเนื่อง

 

การนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น (IPO)

การนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น หรือ IPO (Initial Public Offering) คือ กระบวนการที่บริษัทเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก โดยมีเป้าหมายเพื่อ ระดมทุน ขยายธุรกิจ และเพิ่มความน่าเชื่อถือ ของบริษัทในตลาดทุน

1. ประโยชน์ของการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น

-ระดมทุน – ได้เงินทุนเพื่อขยายธุรกิจโดยไม่ต้องกู้ยืม
-เพิ่มมูลค่ากิจการ – บริษัทที่จดทะเบียนมีโอกาสได้รับมูลค่าที่สูงขึ้นจากนักลงทุน
-สร้างความน่าเชื่อถือ – บริษัทมีมาตรฐานการบริหารที่โปร่งใสและได้รับการกำกับดูแล
-ดึงดูดผู้ถือหุ้นใหม่ – นักลงทุนและสถาบันการเงินให้ความสนใจมากขึ้น
-เป็นทางออกของเจ้าของเดิม – สามารถขายหุ้นบางส่วนเพื่อกระจายความเสี่ยงหรือถอนทุนบางส่วน

 

2. เงื่อนไขเบื้องต้นของบริษัทที่ต้องการเข้าตลาดหลักทรัพย์

2.1 ประเภทของตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทย

บริษัทสามารถเลือกจดทะเบียนใน 2 ตลาดหลัก ได้แก่

-ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)  สำหรับบริษัทขนาดกลางและใหญ่
-ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)  สำหรับบริษัทขนาดเล็กและธุรกิจที่เติบโตสูง

2.2 เงื่อนไขทางการเงินและกำไร

ตลาด SET:

-ทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท (กรณีเข้าตลาดหลักทรัพย์ SET)

-มีกำไรสุทธิสะสมไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ใน 2-3 ปีล่าสุด

ตลาด mai:

-ทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท

-มีกำไรสุทธิสะสมไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท

2.3 โครงสร้างบริษัทและการบริหารงาน

มี โครงสร้างองค์กรที่ชัดเจน และคณะกรรมการบริษัทที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
มี ระบบควบคุมภายใน ที่เป็นไปตามมาตรฐาน
มี ผู้สอบบัญชีรับรองงบการเงิน ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงาน ก.ล.ต.

2.4 สัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float)

ต้องมีผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างน้อย 20% ของทุนชำระแล้ว

3. กระบวนการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น (IPO Process)

1. แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน (FA - Financial Advisor)

ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) มีบทบาทสำคัญในการเตรียมความพร้อมของบริษัทให้เป็นไปตามเงื่อนไขของตลาดหลักทรัพย์ และช่วยจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้อง

หน้าที่หลักของ FA
-ตรวจสอบความพร้อมของบริษัท
-วางแผนโครงสร้างเงินทุน
-จัดทำเอกสารยื่นขอ IPO
-ประสานงานกับหน่วยงานกำกับดูแล

2. การปรับโครงสร้างธุรกิจและการบริหารจัดการ

องค์กรต้องมี ธรรมาภิบาลที่ดี (Good Corporate Governance) และปรับปรุงโครงสร้างการบริหารให้เป็นไปตามมาตรฐาน

-ปรับปรุงโครงสร้างองค์กรให้เหมาะสม
-แยกบทบาทของผู้บริหารและคณะกรรมการบริษัท
-จัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ (Audit Committee)

3. การยื่นขอจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์และ ก.ล.ต.

บริษัทต้องเตรียมเอกสารต่างๆ เพื่อยื่นขออนุมัติ IPO ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET/mai)

เอกสารสำคัญที่ต้องจัดทำ
-แบบแสดงรายการข้อมูล (Filing หรือแบบ 69-1)
-หนังสือชี้ชวน (Prospectus)
-รายงานทางการเงินที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี

4. การกำหนดราคาหุ้นและแผนเสนอขาย (Book Building & Pricing)

บริษัทจะต้องกำหนด ราคาหุ้นเสนอขาย (IPO Price) โดยใช้วิธี Book Building หรือการสำรวจความต้องการซื้อหุ้นของนักลงทุนสถาบัน

วิธีการกำหนดราคาหุ้น
-วิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน เช่น P/E Ratio, P/BV Ratio
-เปรียบเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน

5. การทำ Roadshow และประชาสัมพันธ์นักลงทุน

บริษัทต้องนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจและโอกาสเติบโตให้กับนักลงทุนผ่าน Roadshow เพื่อสร้างความสนใจและความมั่นใจให้แก่นักลงทุน

-จัดประชุมกับนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย
-สื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสและความเสี่ยงของธุรกิจ

6. การเสนอขายหุ้น IPO และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

-หลังจากได้รับอนุมัติจาก ก.ล.ต. บริษัทจะดำเนินการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชน (IPO Subscription) และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์

-นักลงทุนสามารถจองซื้อหุ้นผ่านโบรกเกอร์
-หุ้นเริ่มทำการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ (First Trading Day)

4. ค่าใช้จ่ายในการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น

การทำ IPO มีค่าใช้จ่ายหลายส่วน เช่น  ค่าใช้จ่ายหลักๆ ได้แก่
-ค่าที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) – 3-5% ของจำนวนเงินที่ระดมทุนได้
-ค่าผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ (Underwriter) – 1-3% ของจำนวนเงินที่ระดมทุนได้
-ค่าธรรมเนียมตลาดหลักทรัพย์และ ก.ล.ต.
-ค่าการตลาดและ Roadshow

5. ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ IPO ประสบความสำเร็จ

การนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นให้ประสบความสำเร็จต้องมีการวางแผนที่ดี

ปัจจัยสำคัญ ได้แก่
-ความแข็งแกร่งของธุรกิจ ธุรกิจต้องมีแนวโน้มเติบโตที่ชัดเจน
-การบริหารจัดการที่ดี ต้องมีคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์
-สภาพตลาด ภาวะเศรษฐกิจและตลาดทุนต้องเอื้อต่อ IPO
-ราคาหุ้นที่เหมาะสม ต้องกำหนดราคาหุ้นให้ดึงดูดนักลงทุน

4. ทำไมบริษัทต้องใช้บริการที่ปรึกษาทางการเงินสำหรับ IPO?

-ช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการ IPO   กระบวนการเสนอขายหุ้นครั้งแรกมีหลายขั้นตอนที่ซับซ้อน FA ช่วยให้ทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างราบรื่น

-เพิ่มโอกาสในการระดมทุนและดึงดูดนักลงทุน   FA มีความเชี่ยวชาญในการกำหนดราคาหุ้นให้เหมาะสมและช่วยวางกลยุทธ์การตลาด

-เพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนและหน่วยงานกำกับดูแล  FA ช่วยให้บริษัทมีเอกสารทางการเงินที่ถูกต้องและเป็นไปตามมาตรฐาน

-ช่วยลดความเสี่ยงในการเข้าตลาดหุ้น   การเข้าตลาดหุ้นมีความเสี่ยงสูง FA จะช่วยให้บริษัทสามารถวางแผนรับมือกับความผันผวนของตลาด

5. ข้อควรพิจารณาในการเลือกที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) สำหรับ IPO

บริษัทควรเลือก FA ที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมของตนเอง และมีประวัติความสำเร็จในการทำ IPO

มีใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. – ต้องเป็นที่ปรึกษาที่ได้รับการรับรอง
มีประสบการณ์ในตลาดทุน – ควรมีผลงานด้าน IPO ที่ผ่านการอนุมัติจาก ก.ล.ต.
มีเครือข่ายนักลงทุนที่แข็งแกร่ง – ช่วยให้สามารถดึงดูดนักลงทุนได้ง่ายขึ้น
มีความสามารถในการวิเคราะห์ทางการเงิน – ช่วยกำหนดโครงสร้างและราคาหุ้น IPO อย่างแม่นยำ

 

ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) มีบทบาทสำคัญในการ นำบริษัทเข้าตลาดหุ้น โดยเฉพาะในกระบวนการ IPO ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ซับซ้อนและต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของ ก.ล.ต.

บทบาทสำคัญของ FA ใน IPO
-วางแผนโครงสร้าง IPO และกำหนดราคาหุ้น
-จัดทำเอกสารและยื่นขออนุมัติต่อ ก.ล.ต.
-ช่วยทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ IPO
-บริหารราคาหุ้นและความสัมพันธ์กับนักลงทุนหลัง IPO

หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่ต้องการเข้าตลาดหลักทรัพย์ การเลือก ที่ปรึกษาทางการเงินที่เหมาะสม เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้กระบวนการ IPO เป็นไปอย่างราบรื่น และประสบความสำเร็จ

 

มูลอ้างอิง

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.)

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Kung_nadthanan
  • 0 Followers
  • Follow