Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ภาษาอังกฤษ ม. 6 เทอม 2 เรียนเรื่องอะไรบ้าง

Posted By Plook Knowledge | 25 ธ.ค. 67
717 Views

  Favorite

การเรียนวิชาภาษาอังกฤษในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เทอม 1 มีจุดมุ่งหมายเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนในการใช้ภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านไวยากรณ์ การสื่อสาร และการวิเคราะห์เชิงลึก โดยมีเนื้อหาสำคัญดังนี้

 

เรียนเรื่องอะไรบ้าง

บทที่ 1: THE PRESENT PERFECT และ PAST PERFECT

บทที่ 2: การใช้ NOUN CLAUSES

บทที่ 3: การเขียนเชิงวิเคราะห์และการอ่านจับใจความ


 

เนื้อหาการเรียนแต่ละเรื่อง

บทที่ 1: THE PRESENT PERFECT และ PAST PERFECT

1. Past Participle

การเรียนรู้ Past Participle ซึ่งเป็นรูปกริยาช่องที่ 3 นั้นมีความสำคัญมาก เนื่องจากใช้ในโครงสร้างของ Present Perfect และ Past Perfect รวมถึงการสร้างคำคุณศัพท์ (Adjectives) จากกริยา เช่น:

- Regular verbs: look ➔ looked ➔ looked

- Irregular verbs: go ➔ went ➔ gone

2. รูปประโยคและความหมายของ Present Perfect

Present Perfect ใช้แสดงการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตและยังมีผลกระทบถึงปัจจุบัน หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่ระบุแน่ชัด เช่น:

- Subject + has/have + past participle – She has finished her homework. – They have lived here for 10 years.

3. การใช้ Simple Past และ Present Perfect

การเปรียบเทียบการใช้ Simple Past กับ Present Perfect เพื่อแสดงความแตกต่าง เช่น:

- Simple Past: ใช้เมื่อระบุเวลาในอดีตชัดเจน เช่น Yesterday, Last week

- Present Perfect: ใช้เมื่อไม่ระบุเวลาชัดเจน เช่น already, just, ever

4. การใช้ Since และ For

การใช้ Since และ For เพื่อแสดงช่วงเวลาใน Present Perfect:

- Since: ใช้กับจุดเริ่มต้นของเวลา เช่น since 2010, since last night

- For: ใช้กับระยะเวลา เช่น for 3 years, for a long time

5. Present Perfect Continuous กับ Present Perfect

- Present Perfect Continuous (“has/have been + V-ing”): ใช้แสดงการกระทำที่เริ่มต้นในอดีตและยังดำเนินต่อเนื่อง เช่น: – She has been studying for hours.

- Present Perfect: ใช้แสดงผลลัพธ์ของการกระทำ เช่น: – She has studied the whole chapter.

6. การใช้ Already, Yet, Still และ Anymore

การใช้คำเหล่านี้ในประโยค Present Perfect:

- Already: ใช้ในประโยคบอกเล่า เช่น I have already eaten.

- Yet: ใช้ในประโยคคำถามหรือปฏิเสธ เช่น Have you finished yet?

- Still: ใช้แสดงการกระทำที่ยังคงดำเนินต่อเนื่อง เช่น She still hasn’t called.

- Anymore: ใช้ในประโยคปฏิเสธ เช่น I don’t live there anymore.

7. การใช้ Past Perfect

Past Perfect (“had + past participle”) ใช้แสดงการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนอีกเหตุการณ์ในอดีต เช่น:

- She had already left before he arrived.

- By the time we reached the station, the train had departed.

 

บทที่ 2: การใช้ NOUN CLAUSES

1. Noun Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย Question Words

Noun Clauses ที่เริ่มต้นด้วย Question Words เช่น what, where, why, when ใช้เป็นประธานหรือกรรมในประโยค เช่น:

- I don’t know where she went.

- What he said surprised everyone.

2. Noun Clauses กับ Who, What, Whose + Be

ใช้ Who, What, Whose ร่วมกับ verb “be” เพื่อสร้าง Noun Clauses เช่น:

- Who is responsible for this?

- Whose book is on the table?

3. Noun Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย If หรือ Whether

Noun Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย If หรือ Whether ใช้ในการแสดงความไม่แน่ใจหรือการตั้งคำถาม เช่น:

- I don’t know if she will come.

- We are unsure whether it is possible.

4. การแทนที่ So ด้วย That Clause ในประโยคสนทนา

การแทนที่คำว่า “so” ด้วย “that clause” เพื่อให้ประโยคมีความชัดเจน เช่น:

- He said so. ➔ He said that he would help us.

5. Quoted Speech และ Reported Speech

การเปลี่ยนจาก Quoted Speech (คำพูดตรง) เป็น Reported Speech (คำพูดรายงาน):

- Quoted: She said, “I am happy.”

- Reported: She said that she was happy.

6. กริยาที่ใช้ในการรายงาน (Tell, Ask, Answer/Reply)

การใช้กริยาสำหรับการรายงาน:

- Tell: She told me that she would come.

- Ask: He asked if I was ready.

- Answer/Reply: They replied that they agreed.

 

บทที่ 3: การเขียนเชิงวิเคราะห์และการอ่านจับใจความ

1. การวิเคราะห์ข้อความ

นักเรียนจะได้เรียนรู้การวิเคราะห์บทความหรือข้อความภาษาอังกฤษ โดยการแยกโครงสร้าง วิเคราะห์ใจความสำคัญ และตีความหมาย เช่น:

- การหา main idea และ supporting details

- การแยก fact และ opinion

2. การเขียนย่อความ

การพัฒนาทักษะการเขียนย่อความโดยเน้นความถูกต้องและกระชับ เช่น:

- ใช้คำเชื่อมอย่างเหมาะสม เช่น therefore, however, in addition

- เขียนให้สอดคล้องกับเนื้อหาเดิม

3. การตอบคำถามเชิงวิเคราะห์

ฝึกตอบคำถามที่ต้องใช้การวิเคราะห์และการสังเคราะห์ข้อมูล เช่น:

- What is the author’s purpose?

- How does the tone of the text affect its meaning?

 

เคล็ดลับการเรียนให้เข้าใจและนำไปใช้ได้จริง

- ฝึกทำแบบฝึกหัด ทบทวนเนื้อหาโดยการทำแบบฝึกหัดไวยากรณ์และการเขียนประโยคทุกวัน

- จำคำศัพท์และโครงสร้างประโยค สร้างแฟลชการ์ดสำหรับคำศัพท์และตัวอย่างประโยคเพื่อช่วยให้จำง่ายขึ้น

- ฟังและพูดภาษาอังกฤษ ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน เช่น ดูภาพยนตร์หรือฟังเพลงภาษาอังกฤษ

- เรียนรู้จากข้อผิดพลาด หมั่นตรวจสอบคำตอบและเรียนรู้จากข้อผิดพลาดในแบบฝึกหัด

- ตั้งเป้าหมายในการพัฒนา วางแผนการเรียนโดยกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น การอ่านหนังสือภาษาอังกฤษให้ได้ 1 บทต่อสัปดาห์

 

 

การเรียนภาษาอังกฤษใน ม.6 เทอม 1 เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาและการทำงานในอนาคต หากนักเรียนเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้จริง จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความเชี่ยวชาญในภาษาอังกฤษอย่างยั่งยืน

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Knowledge
  • 0 Followers
  • Follow