ภาษาอังกฤษ ม. 5 เทอม 1 เรียนเรื่องอะไรบ้าง

การเรียนภาษาอังกฤษในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 เทอม 1 มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเข้าใจโครงสร้างภาษาและพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีหัวข้อสำคัญที่ครอบคลุมดังนี้:

เรียนเรื่องอะไรบ้าง

บทที่ 1: MODAL AUXILIARIES
บทที่ 2: CONNECTING IDEAS

เนื้อหาการเรียนแต่ละเรื่อง

บทที่ 1: MODAL AUXILIARIES 

หัวข้อนี้เน้นการใช้งานกริยาช่วยที่แสดงถึงความสามารถ ความเป็นไปได้ การอนุญาต และคำแนะนำในสถานการณ์ต่างๆ:

กริยาช่วย (Modal Auxiliaries): การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ modal verbs เช่น can, could, may, might, must, should และอื่นๆ ซึ่งช่วยเสริมความหมายให้ประโยคหลัก

การแสดงความสามารถ (Ability):

• Can และ Could: ใช้บ่งบอกความสามารถในปัจจุบันและอดีต เช่น

  • I can swim.

  • She could play the piano when she was young.

ความน่าจะเป็น (Possibility):

• May และ Might: ใช้บอกถึงความเป็นไปได้ เช่น

  • It may rain tomorrow.

  • He might be late.

การขออนุญาต (Permission):

• May และ Can: ใช้สำหรับการอนุญาต เช่น

  • May I borrow your pen?

  • Can I use your phone?

ความน่าจะเป็นในอดีต:

• Could: ใช้กล่าวถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอดีต เช่น

  • He could have been there.

การถามอย่างสุภาพ (Polite Requests):

• ใช้ May I, Could I, Can I เช่น

  • May I come in?

การขอความช่วยเหลืออย่างสุภาพ:

• ใช้ Would you, Could you, Will you, Can you เช่น

  • Could you open the window, please?

ข้อเสนอแนะ (Suggestions):

• Should และ Ought to: เช่น

  • You should study harder.

คำแนะนำที่เร่งด่วน:

• Had better: เช่น

  • You had better see a doctor.

ความจำเป็น (Necessity):

• Have to, Have got to, Must: เช่น

  • You must wear a uniform.

การแสดงความไม่จำเป็น:

• Do not have to: เช่น

  • You don’t have to come if you’re busy.

การห้ามปราม:

• Must not: เช่น

  • You must not smoke here.

การแสดงความเป็นเหตุผล:

• Must: เช่น

  • He must be tired after working all day.

ประโยคคำสั่ง (Imperative Sentences):

• ใช้บอกหรือสั่ง เช่น

  • Close the door, please.

ข้อเสนอแนะ (Suggestions):

• ใช้ Let’s และ Why don’t: เช่น

  • Let’s go to the park.

การแสดงความชอบ (Preferences):

• Prefer, Like better, Would rather: เช่น

  • I would rather stay home than go out.

บทที่ 2: CONNECTING IDEAS

การเชื่อมโยงความคิดและประโยคในภาษาอังกฤษเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้ประโยคมีความต่อเนื่องและกระชับ:

การเชื่อมความด้วย And: ใช้เชื่อมคำหรือประโยค เช่น

• I like apples and oranges.

การเชื่อมความด้วย But และ Or:

• But: ใช้เชื่อมความขัดแย้ง เช่น

  • I like coffee, but I don’t like tea.

• Or: ใช้เลือก เช่น

  • Do you want tea or coffee?

การเชื่อมความด้วย So:

• ใช้แสดงผลลัพธ์ เช่น

  • It was raining, so we stayed home.

กริยาช่วยหลัง But และ And:

• ตัวอย่าง: He can sing, but he can’t dance.

การใช้ And + Too, So, Either, Neither:

• She likes reading, and I do too.

• He doesn’t like coffee, and neither do I.

การเชื่อมความด้วย Because:

• แสดงเหตุผล เช่น

  • She was late because she missed the bus.

การเชื่อมความด้วย Even though หรือ Although:

• ใช้แสดงความขัดแย้ง เช่น

  • Although it was raining, we went for a walk.

เคล็ดลับการเรียนภาษาอังกฤษให้เข้าใจและจำง่าย

- ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ: ทบทวนเนื้อหาและทำแบบฝึกหัดที่เกี่ยวข้อง

- ใช้ตัวอย่างประโยค: การสร้างประโยคตัวอย่างช่วยให้จดจำการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น

- อ่านและฟัง: ฝึกอ่านบทความหรือฟังภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาทักษะ

- ถามคำถาม: หากสงสัย ให้ถามครูหรือเพื่อนร่วมชั้นทันที

ด้วยการเรียนรู้เนื้อหาภาษาอังกฤษใน ม.5 เทอม 1 อย่างละเอียดและเป็นระบบ ผู้เรียนจะสามารถพัฒนาความรู้และทักษะทางภาษาได้อย่างมั่นใจ!