Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

Work from home ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ลูกจ้างมีสิทธิหน้าที่อย่างไร

Posted By รศ. คณาธิป ทองรวีวงศ์ | 04 ก.ค. 66
1,305 Views

  Favorite

          Work From Home หรือ WFH การทำงานที่บ้านนั้น หลังการยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉินเกี่ยวกับโรคโควิด 19 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565   สถานประกอบการหลายแห่งที่เคยให้ลูกจ้างทำงานจากที่บ้าน สั่งให้ลูกจ้างกลับมาทำงานที่สำนักงานเหมือนก่อนการระบาด แต่บางแห่งก็ปรับตัวเป็นแบบผสมผสาน เช่น ทำงานที่บ้านในบางวัน หรือสลับกับการทำงานที่สำนักงาน ซึ่งเป็นการลดต้นทุนหลายอย่างให้กับนายจ้าง เช่น ค่าไฟ ฯลฯ

 

 

Work From Home ในบทความนี้จะกล่าวถึงประเด็นทางกฎหมายของการทำงานที่บ้านเนื่องจากกฎหมายคุ้มครองแรงานฉบับแก้ไข เดือนมีนาคม 2566 มาตรา 23/1 กำหนดหลักการเรื่อง WFH ไว้โดยแยกอธิบายได้หลายประเด็น ดังนี้  

 

1.  Work from home การทำงานที่บ้าน เป็นสิทธิหรือเป็นหน้าที่ของลูกจ้าง  

          ลูกจ้าง บางคนอาจเห็นด้วย หรืออยากทำงานที่บ้าน เพราะมีประโยชน์เช่น ลดค่าใช้จ่ายและเวลาเดินทาง ไม่ต้องเตรียมแต่งตัว แต่บางคนก็อาจไม่สะดวกด้วยเหตุผลด้านสถานที่ในบ้านไม่เอื้ออำนวย หรือเงื่อนไขอื่นของชีวิต ทำให้การเดินทางออกมาทำงานที่สำนักงานสะดวกกว่า ฯลฯ  จึงมีคำถามว่า ลูกจ้างที่ประสงค์จะทำงานที่บ้าน จะสามารถใช้สิทธิตามกฎหมาย ขอให้นายจ้างยอมให้ตนเองทำงานที่บ้านได้หรือไม่ และลูกจ้างที่ไม่ประสงค์จะทำงานที่บ้าน แต่นายจ้างสั่งให้ทำ จะถือว่ามีหน้าที่โดยไม่สามารถปฎิเสธหรือไม่ 

 

ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน มาตรา 23/1  การทำงานที่บ้าน เกิดจากการ “ตกลงกัน” ของทั้งสองฝ่าย  ดังนั้น  การทำงานที่บ้านจึงไม่ใช่คำสั่ง หากนายจ้างออกคำสั่งมาฝ่ายเดียว ลูกจ้างมีสิทธิปฎิเสธได้ ในทางกลับกันก็ไม่ใช่สิทธิที่ลูกจ้างสามารถแจ้งความประสงค์จะขอทำงานที่บ้านแล้วนายจ้างต้องอนุญาต  เพราะกฎหมายกำหนดให้ทั้งสองฝ่ายยินยอมเห็นชอบร่วมกันจึงเกิดการทำงานที่บ้านโดยถูกต้องตามกฎหมาย 

 

2. ข้อตกลงการทำงานที่บ้าน Work from home agreement เขียนอย่างไรต้องระบุอะไรบ้าง 

          เนื่องจาก การทำงานที่บ้านเกิดจากการตกลงกันของนายจ้างและลูกจ้าง  แต่กฎหมายไม่ได้กำหนดรูปแบบหรือแบบฟอร์มเอาไว้โดยเฉพาะ  นายจ้างและลูกจ้างจึงเขียนข้อตกลงกันขึ้นเองได้  ทั้งนี้ จะต้องมีหัวข้อหรือเงื่อนไขสำคัญที่กฎหมายกำหนด เช่น  

 

ช่วงระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดการตกลง 

เนื่องจากการทำงานที่บ้าน เป็นการตกลงกันในช่วงเวลาหนึ่ง จึงต้องระบุไว้ แต่กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาขั้นสูงหรือขั้นต่ำ  จึงเป็นไปได้ตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน เช่น ตกลงกันทำงานที่บ้าน 1 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 12-16 มิถุนายน 2566  

 

วัน เวลาทำงานปกติ เวลาพัก และการทำงานล่วงเวลา  

การทำงานที่บ้าน มีเวลาเข้าและเลิกงาน แต่อาจใช้วิธีการลงเวลางานที่แตกต่างจากการทำงานที่สำนักงาน เช่น ใช้วิธีการกรอกข้อมูลหรือส่งข้อความแจ้งเข้างานผ่านโปรแกรมแทนการสแกนนิ้ว เวลาทำงานปกติที่กำหนดกันไว้นี้มีความสำคัญเพราะ 

- ถ้านายจ้างให้ทำงานเพิ่มเติมนอกจากเวลานี้จะเป็นการทำงานล่วงเวลา และมีสิทธิได้ค่าล่วงเวลาเหมือนกับการทำงานที่สำนักงาน 

- มาตรา 23/1 ห้ามนายจ้างติดต่อสื่อสาร ส่งข้อความ ฯลฯ ไปยังลูกจ้างนอกเหนือเวลาทำงานที่ตกลงกันไว้  เช่น ตกลงกันทำงานที่บ้าน เริ่มงาน 9.00 - 18.00  นายจ้างจะไม่สามารถแชท หรือโทรหาลูกจ้างนอกเวลานี้ 

 

ขอบเขตหน้าที่การทำงาน   

เป็นการระบุว่าในช่วงการทำงานที่บ้านนั้นลูกจ้างต้องปฎิบัติอะไรบ้าง  ขึ้นอยู่กับตำแหน่งหน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง 

 

เครื่องมือหรืออุปกรณ์การทำงาน ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการทำงาน   

การทำงานที่บ้านในแง่หนึ่งทำให้ลูกจ้างประหยัดค่าใช้จ่ายบางอย่าง  แต่อาจทำให้ลูกจ้างต้องรับภาระค่าใช้จ่ายบางอย่างเพิ่มเติมขึ้นมาด้วย เช่น  ต้องติดตั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์บางอย่างเพิ่มเติมที่บ้าน หรือ ค่าไฟบ้านที่ต้องเพิ่มมากขึ้น หรือ ค่ากาแฟที่ต้องจ่าย เพราะไปนั่งทำงานในร้านกาแฟ  ค่าใช้จ่ายเหล่านี้กฎหมายไม่ได้บังคับว่านายจ้างต้องออกให้ลูกจ้าง แต่ถ้าลูกจ้างต้องการให้นายจ้างสนับสนุนค่าใช้จ่ายก็ต้องเจรจาเพื่อให้นายจ้างยอมระบุไว้ในข้อตกลง

 

3.  งานทุกตำแหน่งสามารถทำงานที่บ้านได้จริงหรือไม่ 

          กฎหมายกำหนดหลักการทั่วไปหรือเงื่อนไขเบื้องต้นของการทำงานที่บ้านว่า  

“…ลักษณะหรือสภาพของงานที่ลูกจ้างสามารถปฏิบัติงานนอกสถานประกอบกิจการหรือนอกสำนักงานของนายจ้างได้โดยสะดวก…” 

แม้ว่างานหลายอย่างสามารถทำผ่านระบบออนไลน์ แต่งานบางอย่างยังต้องปรากฎตัวในสถานที่ทำงาน เช่น  งานฝ่ายผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมไม่สามารถยกเครื่องจักรไปทำงานที่บ้านได้  ลูกจ้างแต่ละคนจึงอาจมีโอกาสที่จะทำงานที่บ้านได้ไม่เท่ากัน  ทั้งนี้  กฎหมายไม่ได้ระบุเจาะจงว่า ตำแหน่งไหนทำงานที่บ้านได้ ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของแต่ละตำแหน่งงาน   แต่ก็กล่าวโดยทั่วไปได้ว่า งานด้านเอกสารหรือข้อมูลจัดเป็นสภาพที่สามารถทำงานที่บ้านได้ 

 

4.  ในช่วงการทำงานที่บ้าน  ลูกจ้างต้องพร้อมติดต่อสื่อสารตลอดเวลาจริงหรือไม่ 

          Work from home การทำงานที่บ้านนั้นอาศัยการสื่อสารติดต่อทางออนไลน์เป็นหลัก รวมทั้งนายจ้างอาจใช้ช่องทางดังกล่าวเพื่อติดตามตรวจสอบการทำงานด้วย  จึงมีประเด็นว่า ลูกจ้างต้องอยู่ในโหมดพร้อมติดต่อและรับการสื่อสารต่าง ๆ ตลอดเวลาหรือไม่ แยกเป็นสองกรณีดังนื้ 

- ในช่วงนอกเวลาตามข้อตกลง  กฎหมายคุ้มครองแรงงานมาตรา 23/1  ให้สิทธิลูกจ้างปฎิเสธการสื่อสารทุกรูปแบบจากนายจ้าง  เช่น ข้อตกลงกำหนดเวลาทำงานที่บ้าน  9.00- 18.00   ช่วงก่อนหรือหลังจากนี้  ลูกจ้างสามารถปิดมือถือ  ไม่อ่านไลน์   ไม่รับโทรศัพท์  เพราะเป็นสิทธิตามกฎหมายของลูกจ้าง   แต่ทั้งนี้  กฎหมายมีข้อยกเว้นว่า ถ้าลูกจ้างให้ความยินยอมไว้ นายจ้างก็สามารถติดต่อได้

- ในช่วงเวลาทำงานตามข้อตกลง  ติดต่อสื่อสารที่เกิด เช่น ทำงานที่บ้านโดยตกลงว่าเริ่มงาน 9.00 - 18.00 พัก 12.00 -13.00  แบบนี้ ในช่วง 9.00 - 12.00 ลูกจ้างต้องพร้อมรับการติดต่อตามขอบเขตงานที่ตกลงกัน ซึ่งนายจ้างจะติดต่อบ่อยครั้งแค่ไหนก็สามารถทำได้ 

 

5.  ในช่วงการทำงานที่บ้าน ลูกจ้างต้องอยู่กับบ้านห้ามออกไปไหนจริงหรือไม่ 

          แม้เราจะเรียกว่า การทำงานที่บ้าน  Work From Home หรือ WFH อันเป็นการใช้ถ้อยคำตามความหมายทั่วไป  แต่ตามกฎหมายที่จริงแล้วเรียกว่า “การทำงานนอกสถานประกอบการ” ซึ่งกฎหมายไม่ได้บังคับว่าต้องเป็นการทำงานที่ “บ้าน”  เพราะอาจเกิดปัญหาการตีความต่าง ๆ เช่น  ลูกจ้างบางคนไม่ได้อยู่อาศัยใน “บ้าน” หรือ อยู่บ้านคนอื่น หรืออาจอยากไปทำงานที่ “เวิร์คกิ้งสเปซ” (Working space)  ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฯลฯ   ดังนั้น  เมื่อมีการตกลงกันให้ทำงานนอกสถานประกอบการแล้ว ลูกจ้างก็สามารถนำงานไปทำที่ใดก็ได้ 

 

สำหรับนายจ้างบางรายประสงค์ควบคุมไม่ให้ลูกจ้างเดินทางไปนั่งทำงานตามสถานที่ท่องเที่ยวหรือที่ต่าง ๆ ด้วยเหตุผลบางอย่าง เช่น  กังวลด้านความปลอดภัยของข้อมูล  กลัวว่าบุคคลภายนอกที่ผ่านไปมาอาจเห็นข้อมูลเรื่องงานของบริษัท  ฯลฯ ก็อาจกำหนดไว้ในข้อตกลง วางเงื่อนไขทำงานที่บ้านในลักษณะต่าง ๆ  เช่น ไม่ให้ไปนั่งทำในร้านอาหาร หรือที่สาธารณะ หรือ ให้ทำงานอยู่แต่ในที่พักอาศัย  ฯลฯ   ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับลูกจ้างจะยอมรับเงื่อนไขเหล่านี้ได้หรือไม่  เพราะถ้าลูกจ้างไม่เห็นด้วยก็อาจทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่บรรลุข้อตกลง สุดท้ายก็ต้องทำงานที่สำนักงาน 

 

          Work from Home การทำงานที่บ้านนั้นอาจสะดวกกับลูกจ้าง สถานประกอบการ หรือแม้แต่การทำงานแบบผสมผสาน ทั้งหมดควรมีรายละเอียดตามสิทธิหน้าที่ของทั้งสองฝ่าย ต้องตกลงกติกา เงื่อนไขให้รับรู้ และเข้าใจตรงกัน รวมทั้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจน เพื่อความคล่องตัวในการทำงาน โดยไม่มีข้อโต้แย้ง หรือข้อพิพาทเกิดขึ้นได้ในภายหลัง 

 

 

รศ คณาธิป ทองรวีวงศ์

สถาบันกฎหมายสื่อดิจิทัล ม.เกษมบัณฑิต

 
เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • รศ. คณาธิป ทองรวีวงศ์
  • 0 Followers
  • Follow