การเล่นพิลาทิสนั้นอาจจะใช้อุปกรณ์หรือไม่ใช่อุปกรณ์เครื่องเล่นประกอบด้วยก็ได้ ในกรณีที่ไม่ได้ใช้อุปกรณ์ประกอบ จะเป็นการเล่นอยู่บนเสื่อเหมือนกับการเล่นโยคะแต่ท่าที่เล่นจะเป็นท่าเฉพาะที่เน้นความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ สำหรับการออกกำลังกายโดยการใช้อุปกรณ์จะเริ่มจากอุปกรณ์ง่าย ๆ อย่างเช่น ยางยืด ลูกกลิ้งโฟม หรือบอลยาง ไปจนถึงอุปกรณ์พิเศษหรือเครื่องเล่นที่ออกแบบมาเพื่อพิลาทิสโดยเฉพาะ ที่มีชื่อว่าเครื่องรีฟอร์มเมอร์ (Reformer) คาดิลแลค (Cadillac) และเก้าอี้วุนดา (Wunda Chair)
ส่วนโยคะ จะเน้นไปที่การสร้างความยืดหยุ่นอยู่บนกล้ามเนื้อที่แข็งแรง โดยจะสอนให้หายใจเข้าทางจมูก และออกทางจมูกเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจาก พิลาทิส ที่ให้หายใจออกทางปาก โยคะส่วนมากจะเล่นกันบนเสื่อ เน้นความเงียบสงบขณะฝึก
1. Concentration การทำสมาธิในทุกๆ ขั้นตอนของการออกกำลังกาย ไม่วอกแวกคิดเรื่องอื่นที่หลงเข้ามาหรือติดค้างมาก่อนหน้าที่จะออกกำลังกาย
2. Precision ความแม่นยำและถูกต้องในการเคลื่อนตัวและท่วงท่าของการเคลื่อนไหว ตำแหน่งของมือ เท้า หรือแม้แต่การเคลื่อนที่ที่ถูกต้องทำให้เกิดความต่อเนื่องในการออกกำลังกาย
3. Breath การกำหนดลมหายใจให้สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวโดยหายใจเข้าให้สุดเช่นเดียวกับหายใจออกให้สุด ไม่มีการกลั้นหายใจ
4. Flow แต่ละท่าของพิลาทิสนั้นไหลลื่นและงดงาม การเปลี่ยนจากท่าหนึ่งไปอีกท่าหนึ่งต้องต่อเนื่องและสม่ำเสมอทั้งความเร็วและความแข็งแกร่ง
5. Centering ความใส่ใจในการเคลื่อนไหวซึ่งควบคุมโดยกล้ามเนื้อแกนกลางของร่างกายจะทำให้กล้ามเนื้อทำงานและพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. Control การควบคุมร่างกายให้ได้ท่วงท่าที่ถูกต้องครบถ้วนตามจุดประสงค์ของแต่ละท่า และยังทำให้ผู้เล่นควบคุมสติและร่างกายในทุกสถานการณ์
และด้วยปรัชญาที่แน่วแน่ในการออกกำลังกายเพิ่มเสริมสร้างความแข็งแรงควบคู่กับการทำสมาธิและการกำหนดลมหายใจ ประโยชน์ที่ได้จากการออกกำลังกายเช่นนี้ นอกเหนือจากความแข็งแรงทางร่างกายแล้ว ยังส่งผลต่อสมาธิและความสัมพันธ์ของจิตใจและร่างกายโดยตรง
ที่มาข้อมูล : https://www.youtube.com/watch?v=XXyYBCniBL4
http://www.pilates.com/BBAPP/V/pilates/origins-of-pilates.html
http://www.jillianhessel.com/pilates_biography.html
http://www.pilatesmethodalliance.org/i4a/pages/index.cfm?pageid=3277