บ้านเป็นที่พักพิงทั้งกายและใจของเรา แต่หากมีสัตว์มีพิษที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาในบ้าน บ้านก็จะไม่สงบสุขอีกต่อไป กลายเป็นเรื่องปวดหัวที่ต้องมาคอยกำจัด คอยไล่ให้พ้นไปจากบ้านของเราอีก สัตว์มีพิษที่พูดถึงนี้ก็อย่างเช่น งู ตะขาบ แมงป่อง เป็นต้น เราจึงต้องหาวิธีป้องกันไม่ให้สัตว์มีพิษเหล่านี้เข้ามาในบ้านหรือบริเวณบ้านได้

1. กำจัดแหล่งอาหารของสัตว์มีพิษ

อาหารของสัตว์มีพิษ เช่น หนู ปลา กบ เขียด หรือแมลงสาบ มักเรียกให้สัตว์มีพิษอย่างงูหรือตะขาบเข้ามาหากินในบริเวณบ้านของเรา ดังนั้น หากที่บ้านมีหนู ก็มีโอกาสที่จะพบเห็นงูได้ เราจึงต้องกำจัดแหล่งอาหารของสัตว์มีพิษออกไปจากบ้าน โดยการรักษาความสะอาดอยู่เสมอ ไม่ทิ้งเศษอาหารไว้ในบ้าน เพราะหนูหรือแมลงสาบอาจจะมากินเศษอาหารเหล่านี้ได้

2. ปิดรอยแตกหรือรอยแยกตามผนัง พื้น หรือเพดาน

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีรอยแตกหรือรอยแยกตามผนัง พื้น หรือเพดาน เพราะรอยแตกเหล่านั้นอาจเป็นเส้นทางให้สัตว์มีพิษเข้าสู่ตัวบ้านของเราได้ หรือหากรอยแตกนั้นมีลักษณะเป็นโพรงลงไปในดินก็อาจกลายเป็นรังของสัตว์มีพิษได้ด้วยเช่นกัน หากตรวจพบว่ามีรอยแตกหรือรอยแยกควรรีบปิดรอยดังกล่าวเพื่อป้องกันสัตว์มีพิษเข้ามาในบ้าน

3. ตัดหญ้าให้สั้น

งูมักใช้หญ้าสูงเพื่ออำพรางตัวให้พ้นจากสายตาของนักล่า เช่น นกขนาดใหญ่ แมว หรือสุนัข ดังนั้น หากมีหญ้าในสวน ให้ตัดหญ้าให้สั้นอยู่เสมอ เพื่อป้องกันงูเข้ามาในบริเวณบ้าน

4. จัดระเบียบสิ่งของในบ้านและในสวน

สิ่งของในบ้านที่วางกองรกรุงรัง หรือกองเศษใบไม้ เศษหญ้า เป็นที่ซุกตัวอย่างดีของสัตว์มีพิษ การจัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบ หรือกำจัดเศษใบไม้ เศษหญ้าออกไปจากบริเวณบ้าน จะช่วยลดโอกาสที่สัตว์มีพิษจะเข้ามาซ่อนตัวในบ้านของเราได้

5. ไม่ควรปล่อยให้บ้านมีความชื้นสูง

ตะขาบชอบสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น ตรวจสอบรอบ ๆ บ้าน บริเวณที่อาจมีการรั่วไหลของน้ำ ทำให้มีความชื้นสูงได้ ซ่อมแซมท่อที่มีน้ำรั่วไหลให้เรียบร้อย นอกจากนี้ยังสามารถใช้พัดลมดูดอากาศในห้องน้ำ เพื่อช่วยลดความชื้นได้อีกด้วย

6. เลี้ยงสัตว์เลี้ยง

สัตว์เลี้ยงพวกแมวหรือสุนัขช่วยส่งสัญญาณบอกเราเมื่อพบสัตว์มีพิษ สัญชาตญาณของพวกมันมักจะเห่า ร้องบอก หรือจู่โจมใส่สัตว์มีพิษ เมื่อพบเห็นสิ่งผิดสังเกต

อย่างไรก็ตาม หากมีงูเข้าบ้าน ไม่สามารถจับเองได้ ให้โทรตามเจ้าหน้าที่กู้ภัยหรือ 199, สวพ.91 โทร 1644, จส. 100 โทร 1137 หรือสายด่วนงูเข้าบ้าน โทร 1677