Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ธุรกิจ SMEs คืออะไร มีธุรกิจไหนน่าสนใจบ้าง

Posted By Plook Magazine | 24 มี.ค. 66
9,512 Views

  Favorite

SMEs หรือที่เราเรียกว่า วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหมายถึงธุรกิจที่มีลักษะการบริหารอย่างอิสระและผู้บริหารเป็นเจ้าของกิจการตัวเอง มีการจัดหาเงินทุนทำธุรกิจด้วยเงินส่วนตัว และดำเนินงานภายในพื้นที่หรือท้องถิ่นของตัวเอง มีจำนวนลูกจ้างและรายได้ต่อปีแบ่งตามขนาด และดำเนินธุรกิจใน 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่ การผลิต การค้า (ปลีก/ส่ง) และการบริการ 

trueplookpanya

 

ส่วนในต่างประเทศได้ให้คำนิยามหรือคำจำกัดความของผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่แตกต่างกัน โดยบางประเทศเรียกว่า ‘MSMEs’ (Micro, Small and Medium-sized Enterprises) แต่สำหรับประเทศไทยใช้คำว่า ‘SMEs’ โดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้กำหนดลักษณะของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ใหม่อย่างเป็นทางการในปี 2563 

 

ตามกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2562 ประกาศราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2563 และประกาศ สสว. เรื่องการกำหนดลักษณะของวิสาหกิจรายย่อย วันที่ 21 มกราคม 2563 โดยเน้นการใช้จำนวนการจ้างงานและรายได้ในการแบ่งขนาดผู้ประกอบการ และเพิ่มกลุ่มวิสาหกิจรายย่อย (Micro) ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ขนาดของวิสาหกิจและโครงสร้างทางธุรกิจเปลี่ยนแปลงไป โดยมีรายละเอียดดังนี้
 

ลักษณะของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในประเทศไทย

Photo shutterstock/David Gyung

 

  • วิสาหกิจรายย่อย (Micro) คือ กลุ่มที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 1.8 ล้านบาท การจ้างงานไม่เกิน 5 คน 

  • วิสาหกิจขนาดย่อม (Small) คือ กิจการในภาคการผลิตสินค้า ที่มีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 50 คน หรือมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 100 ล้านบาท ส่วนกิจการในภาคการค้า (ค้าส่งหรือค้าปลีก) และภาคบริการ มีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 30 คน หรือมีรายได้ต่อปี ไม่เกิน 50 ล้านบาท

  • วิสาหกิจขนาดกลาง (Medium) คือ กิจการในภาคการผลิตสินค้า ที่มีจำนวนการจ้างงานเกิน 50 - 200 คน หรือมีรายได้ต่อปีเกินกว่า 100 – 500 ล้านบาท ส่วนกิจการในภาคการค้า (ค้าส่งหรือค้าปลีก) และภาคบริการ มีจำนวนการจ้างงานเกิน 30 – 100 คน หรือมีรายได้ต่อปีเกิน 50 – 300 ล้านบาท

 

สำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นธุรกิจที่มีจำนวนมากในประเทศไทย ผู้ประกอบการส่วนมากประกอบการในรูปของบุคคลธรรมดา คณะบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ใช่นิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด หรือกิจการร่วมค้าซึ่งลักษณะของธุรกิจ SME จะประกอบด้วยการทำกิจการดังนี้


ธุรกิจ SMEs มีอะไรบ้าง 

  • กิจการผลิต (Manufacturing Sector) คือ กิจการที่นำวัตถุดิบมาแปรรูปให้เป็นสินค้าสำเร็จรูป ซึ่งครอบคลุมถึงการผลิตที่เป็นลักษณะของการประกอบการอุตสาหกรรมทุกประเภท โดยความหมายที่เป็นสากลของการผลิตก็คือ การเปลี่ยนรูปวัตถุให้เป็นผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ด้วยเครื่องจักรกล หรือเคมีภัณฑ์โดยไม่คำนึงว่างานนั้นทำโดยเครื่องจักรหรือด้วยมือ ทั้งนี้กิจการผลิตสินค้าในที่นี้รวมถึงการแปรรูปผลิตผลการเกษตรอย่างง่ายที่มีลักษณะเป็นการอุตสาหกรรม การผลิตที่มีลักษณะเป็นวิสาหกิจชุมชน และการผลิตที่เป็นการประกอบอุตสาหกรรม ในครัวเรือนด้วย เช่น ยา เคมีภัณฑ์ (อาหารเสริม) และผลิตภัณฑ์พลาสติก
     

  • กิจการค้าส่ง (Wholesale Sector) และกิจการค้าปลีก (Retail Sector)  คือ กิจการที่ไม่ได้ผลิตสินค้าเอง ดำเนินกิจการโดยการซื้อสินค้าสำเร็จรูปมาเพื่อจัดจำหน่ายมีทั้งกิจการค้าส่ง และกิจการค้าปลีก เช่น ร้ายขายของชำ ร้ายขายเครื่องครัว ร้านขายเสื้อผ้า ฯลฯ การค้าในที่นี้มีความหมายรวมถึงการเป็นนายหน้า หรือตัวแทนการซื้อขาย สถานีบริการน้ำมัน และสหกรณ์ผู้บริโภค เช่น กิจการห้างสรรพสินค้า กิจการขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป กิจการขายเครื่องกีฬา เป็นต้น
     

  • กิจการให้บริการ (Service Sector) คือ กิจการที่ไม่ได้จัดจำหน่ายสินค้าแต่ให้บริการหรือขายบริการ (Service) เช่น ร้านตัดเย็บเสื้อผ้า ร้านซักรีด ฯลฯ ทั้งนี้ยังครอบคลุมถึงการศึกษา การสุขภาพ การบันเทิง การขนส่ง การก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ การโรงแรมและหอพัก การภัตตาคาร การขายอาหาร การขายเครื่องดื่มของภัตตาคารและร้านอาหาร การให้บริการเช่าสิ่งบันเทิงและการพักผ่อนหย่อนใจ การให้บริการส่วนบุคคล บริการในครัวเรือน บริการที่ให้กับธุรกิจ การซ่อมแซมทุกชนิด และการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจโลจีสติกส์ เป็นต้น 

 

ตัวอย่างธุรกิจ SMEs ที่น่าสนใจ  

Photo: shutterstock/paulaphoto

 

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ สสว. ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลผลสำรวจยอดขายรายไตรมาส ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติร่วมกับฐานข้อมูล SMEs ของ สสว. รวมทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องสามารถแยกกลุ่มธุรกิจที่จะมีอนาคตสดใสเป็นดาวรุ่ง กลุ่มธุรกิจที่กลับมาฟื้นตัวในปี 2566 ดังนี้

1. ธุรกิจขายของออนไลน์

2. ธุรกิจร้านโชห่วย 

3. ธุรกิจจัดงานแข่งขันหรืออีเวนต์กีฬา 

4. ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซอฟแวร์และเกม

5. ธุรกิจบริการจัดเลี้ยงและให้เช่าอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง 

6. ธุรกิจขายของมือสอง

7. ธุรกิจซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

8. ธุรกิจโหราศาสตร์และความเชื่อ หรือธุรกิจสายมู

9. ธุรกิจการท่องเที่ยวแนววัฒนธรรมชนบท

10. ธุรกิจด้านบันเทิง

11. ธุรกิจด้านจัดทำคอนเทนต์

 

การเริ่มต้นทำธุรกิจ SMEs ให้สำเร็จต้องดูเทรนด์การทำธุรกิจร่วมด้วย เพื่อเข้าใจตลาดว่าตอนนี้คนส่วนใหญ่สนใจสินค้าหรือบริการอะไร ซึ่งจะทำให้ผู้ที่อยากประกอบการธุรกิจ SMEs ตัดสินใจง่ายขึ้นว่าจะทำธุรกิจประเภทไหน ทั้งนี้นอกจากตัวธุรกิจที่สำคัญแล้ว การเรียนรู้กฎหมายเกี่ยวกับการทำธุรกิจประเภทต่างๆ ในหมวดธุรกิจ SMEs ก็สำคัญเช่นกัน 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
  • Posted By
  • Plook Magazine
  • 3 Followers
  • Follow