1,426 Views
Favorite
1. พูดคุยกับคนที่เราไว้วางใจ
เราจะรู้สึกดีขึ้นหากสามารถแบ่งปันสิ่งที่ตัวเราประสบอยู่กับใครสักคนที่เราไว้วางใจ ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในครอบครัว เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน
2. ดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเอง
ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อย 30 นาทีทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง เดิน โยคะ เต้น ขี่จักรยาน หรือแม้แต่การทำสวน จะช่วยเสริมอารมณ์และปรับสุขภาพให้ดีขึ้นได้ รวมถึงรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ดื่มน้ำให้เพียงพอ อีกทั้งนอนหลับอย่างเพียงพอด้วย
3. ทำกิจกรรมที่ชอบ
พยายามทำกิจกรรมที่เราค้นพบความหมายและรู้สึกสนุกกับมันอย่างต่อเนื่อง เช่น การทำอาหารให้ตัวเองหรือคนที่เรารัก เล่นกับสัตว์เลี้ยง เดินเล่นในสวน อ่านหนังสือ ดูหนังหรือซีรี่ย์ การทำกิจกรรมเป็นกิจวัตรประจำวันที่ทำให้รู้สึกมีความสุขจะช่วยให้มีสุขภาพจิตที่ดี
4. หลีกเลี่ยงสารที่เป็นอันตราย
อย่าใช้สารที่เป็นอัตราย เช่น ยาเสพติด แอลกอฮอล์ บุหรี่ เพื่อรับมือกับความรู้สึก แม้ว่าสิ่งเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นในระยะสั้น แต่มันก็สามารถทำให้รู้สึกแย่ลงในระยะยาว อีกทั้งสารเหล่านี้ยังเป็นอันตรายที่ทำให้ทั้งตัวเราและคนรอบข้างเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายหรือบาดเจ็บได้
5. กำหนดเป้าหมายและลำดับความสำคัญ
ตัดสินใจว่าสิ่งใดต้องทำตอนนี้และสิ่งใดสามารถรอได้ เรียนรู้ที่จะพูดว่า “ไม่” กับงานใหม่หากเริ่มรู้สึกว่ากำลังทำมากเกินไป และในตอนท้ายของวันพยายามนึกถึงสิ่งที่ทำสำเร็จมากกว่าสิ่งที่ทำไม่ได้
6. เน้นคิดในเชิงบวกและฝึกขอบคุณตัวเอง
พยายามคิดในแง่บวก ยิ้มและบอกขอบคุณตัวเองทุกวัน ปฏิบัติกับตัวเองอย่างเคารพและเมตตา เห็นคุณค่าในตัวเอง หลีกเลี่ยงการวิจารณ์หรือด้อยค่าตัวเอง
7. ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
หากรู้สึกว่าไม่สามารถรับมือกับความเครียดที่กำลังเผชิญอยู่ได้ ควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญทันที โดยอาจโทรไปสายด่วนสุขภาพจิต หรือปรึกษาจิตแพทย์
แหล่งที่มาข้อมูล
World Health Organization (WHO), 6 ways to take care of your mental health and well-being this World Mental Health Day, สืบค้นเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2566 จากเว็บไซต์: https://www.who.int/westernpacific
National Institute of Mental Health, Caring for Your Mental Health, สืบค้นเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2566 จากเว็บไซต์: https://www.nimh.nih.gov/
