1,292 Views
Favorite
คงเป็นค่านิยมที่มีมานานแสนนานแล้ว ที่บางคนอยากให้ลูกเข้าโรงเรียนดัง และค่านิยมนี้ก็ถูกส่งต่อความคิดมาหลายต่อหลายรุ่น ซึ่งบทความนี้จะทำให้ทุกคนรู้ว่า โรงเรียนดังมีสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย
ต้องยอมรับว่าสังคมบางโรงเรียนถูกคัดกรองจากค่าเรียนหลักแสนไปถึงเฉียดหลักล้านต่อปี เรียกว่า สังคมถูกคัดกรองจากค่าเทอมไปชั้นหนึ่งแล้ว นั่นแปลว่า ความคาดหวังของผู้ที่จ่ายเงินก็จะสูงตาม เพราะยอมจ่ายแล้ว แต่คำถามคือ คุณจะยอมจ่ายไปตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าลูกไหวไหม แต่คุณเองจะไหวใช่ไหม
การดันลูกให้เข้าโรงเรียนดัง หลายคนเข้าใจว่าจะช่วยลดโอกาสลูกเสียคนจากแก๊งค์เพื่อนที่ติดยา ไม่เรียนหนังสือ เกเร ท้องในวัยเรียน ทั้งหมดนี้ได้ แต่เอาเข้าจริง กลับพบว่า สังคมยุคโซเชียลแทบไม่มีกำแพงบนนั้นเลย ต่อให้ลูกไม่เจอในโรงเรียน ลูกก็ต้องเจอในโลกโซเชียลที่ไร้พรมแดนอยู่ดี แล้วอะไรล่ะที่จะช่วยลดโอกาสลูกเสียคน ถ้าคำตอบคือโรงเรียนดัง คำตอบนั้นอาจไม่ถูกต้องที่สุดก็ได้
ผู้ปกครองหลายคนใช้คำว่า เด็กไม่สามารถคิดเองได้หรอก เรามีหน้าที่เลือกโรงเรียนให้ลูก ลูกยังไม่มีความคิด ดังนั้นหากเราเลือกผิด ชีวิตลูกผิด เราต้องรับผิดชอบ โอ….กดดันตัวเองไปไหม ใจเย็น ๆ แล้วลองนั่งทบทวนดูว่า เราเลี้ยงลูกมาให้เข้าโรงเรียน เป้าหมายก็เพื่อให้ลูกคิดเป็นใช่ไหม ในเมื่อส่งลูกจนถึงป. 6 แล้ว บทความนี้อยากชี้ชวนให้คุณคิดว่า แท้จริงแล้ว สิ่งที่ลูกมีคือ ความคิด แต่สิ่งที่ลูกขาดคือ พื้นที่ในการแสดงความคิด การเลือกโรงเรียนถือเป็นโจทย์ใหญ่ก็จริง แต่หากคุณเลือกให้ลูกแล้ว ถ้าลูกไม่ต้องการ มันก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อเขาอยู่ดี ดังนั้นลองพบกันครึ่งทางดีกว่าไหม
จะว่าไปการเลือกโรงเรียนดังหรือไม่ดัง สำคัญที่พี่น้องในโรงเรียนรักใคร่กลมเกลียวกันดีไหมต่างหากเพราะหากไม่ใช่ นั่นล่ะที่จะกลายเป็นโทษใหญ่สำหรับลูกที่เขาต้องได้รับไปตลอดที่เรียนที่นั่น ระบบรุ่นที่สร้างสรรค์จะช่วยส่งให้ลูกของคุณได้แรงจูงใจในการทำชีวิตให้ไปในทิศทางที่เขาต้องการได้อย่างชัดเจน เช่น รุ่นพี่รุ่นน้องชวนเล่นกีฬา เล่นดนตรี ทำกิจกรรมจิตอาสา รุ่นพี่รุ่นน้องชวนกันไปเรียนต่อในที่ที่ยากแต่ดีกว่า หรือรวมกลุ่มกันติว เป็นต้น บางโรงเรียนระบบรุ่นเข้มแข็งก็พากันเข้าสู่โลกแห่งการทำงาน ได้อยู่ในตำแหน่งที่มั่นคงได้ยาว ๆ ไปเลย
การเข้าโรงเรียนดังถามว่าช่วยเพิ่มเกรดให้ลูกได้ไหม การเพิ่มเกรดหรือลดเกรดอาจไม่ได้ขึ้นกับปัจจัยนี้เพียงอย่างเดียว ยังมีเรื่องของกลุ่มที่เรียนด้วยกันว่าใช่กลุ่มที่ตั้งใจเรียนไหม ห้องที่เรียนอยู่ใช่ห้องที่ตั้งใจเรียนรึเปล่า ครูบาอาจารย์มีรูปแบบการสอนอย่างไร ชี้ชวนให้เด็กเรียนสนุกไหม จะเห็นว่า ยังมีอีกหลายเหตุผลที่เพิ่มเกรดและลดเกรดให้ลูกคุณ สิ่งสำคัญคือ ต่อให้ไม่ใช่โรงเรียนดัง ถ้าลูกไปอยู่กับสิ่งที่ทำให้ตัวเองลดเกรดลง เกรดเขาก็จะต่ำไปตามท้องเรื่อง ห้ามไม่ได้เลย
อาจจริงที่ว่าการเข้าโรงเรียนดังมีโอกาสสอบติดมหาวิทยาลัยดังที่มีชื่อเสียงในระดับต้น ๆ ของประเทศเพราะโรงเรียนดังก็จะมีแต่นักเรียนหัวกะทิมารวมตัวกันอยู่ การแข่งขันก็จะสูง เพราะโรงเรียนดังจะมีความเข้มงวดและหลักสูตรที่แน่นกว่า แต่ก็ไม่เสมอไป อ้าว แล้วอยู่ที่อะไร คำตอบอยู่ใกล้คุณมากเลย อยู่ที่ลูกคุณเองนั่นล่ะ แต่อย่าลืมว่า ถ้าคุณอยากให้ลูกคุณใช้โควตา โรงเรียนดังบางโรงเรียนจะไม่มีโควตาจากมหาวิทยาลัยดังที่มีชื่อเสียงให้เลย แต่โรงเรียนที่ไม่ดัง ระดับปานกลางจะมีสิ่งนี้ไว้รอลูกของคุณอยู่ สำคัญคือ พยายามประคองเกรดให้สามารถคว้าโควตามาได้ก็สบายแล้ว
ทุกที่จะมีไม่เว้นแม้แต่โรงเรียนดัง คุณต้องหาเวลาใกล้ชิดลูกให้มาก ต้องไม่ลืมว่า การเรียนวิชาการหนักเพียงอย่างเดียวอาจไม่ทำให้ลูกชนะทุกปัญหาได้ การส่งเสริมให้ลูกทำกิจกรรมในโรงเรียนไปด้วยต่างหาก จะช่วยเพิ่มความสุขให้ลูกได้ ต่อให้คุณตัดสินใจว่าจะให้ลูกอยู่โรงเรียนดังหรือไม่ดังก็ไม่ทำให้ลูกมีความทุกข์จากการแบ่งเกรด แบ่งชนชั้นหรอก เพราะลูกคุณมีวุฒิภาวะทางอารมณ์จากการทำกิจกรรมในโรงเรียนที่มีคุณค่า นั่นล่ะคือสิ่งสำคัญ
เอาเป็นว่าการเลือกโรงเรียนดังหรือไม่ เป็นเรื่องของคุณกับลูก ดังนั้นจึงควรถามลูกด้วยเหตุผลก่อน ไม่ใช้อารมณ์หรือความต้องการเข้ามาตัดสินเด็ดขาด เพราะจะทำให้คุณเลือกผิดตั้งแต่ยังไม่ถามลูกเสียเลยด้วยซ้ำ อย่าลืมว่าโรงเรียนดังในสมัยของคุณกับโรงเรียนดังในสมัยของลูก บริบททางสังคมแตกต่างกันมาก เป็นกำลังใจให้คุณและลูกของคุณเลือกโรงเรียนที่ตรงใจและสามารถเข้าไปสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนนั้นได้ แม้โรงเรียนนั้นจะดังอยู่หรือไม่ก็ตาม
ปริณุต ไชยนิชย์
ขอบคุณข้อมูลจาก https://pantip.com/topic/33161108 และ https://pantip.com/topic/37378978
