Move on คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่แปลว่า เคลื่อนไปข้างหน้า ก้าวไปข้างหน้า มักถูกนำมาใช้ในบริบทของการตัดใจและก้าวออกจากเรื่องร้ายๆ ที่ประสบพบเจอ เพื่อเริ่มต้นใหม่ Move on ไม่ได้ใช้เฉพาะกับเรื่องความรัก ไม่ว่าจะเจอกับเหตุการณ์ใดที่ทำร้ายจิตใจ เราควรหาทางออกจากสภาวะเศร้าเสียใจนั้นและก้าวต่อไป เพื่อไม่ให้จิตใจถูกทำร้ายจนถึงขั้นนำไปสู่สภาวะซึมเศร้าได้
 

วิธีดูแลจิตใจ Move on อย่างไรไม่ให้เป็นวงกลม

เลิกโทษตัวเอง

เมื่อเกิดเรื่องร้าย ความสัมพันธ์จบสิ้นลง หลายคนอาจโทษตัวเอง แต่การโทษตัวเองจากความผิดพลาดในอดีตมีแต่จะยิ่งทำให้รู้สึกแย่ลงกว่าเดิม ดังนั้นขอให้ปรับมุมมองบอกตัวเองว่ามันไม่ใช่ความผิดพลาดของเราและไม่ได้ล้มเหลว จงปฏิบัติต่อตนเองด้วยความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจ

มองชีวิตเป็นการเดินทาง

ทุกคนไม่ว่าจะมีความสมบูรณ์แบบแค่ไหนก็ย่อมมีวันที่รู้สึกไม่โอเค แต่ละคนต่างต้องผ่านประสบการณ์แย่ๆ ในชีวิตกันทั้งนั้น นั่นถือว่าเป็นบทเรียนของชีวิต ยิ่งมองชีวิตอย่างเปิดกว้างไม่คับแคบจะทำให้มองเห็นประสบการณ์ของตัวเองในแง่มุมต่างๆ มากขึ้น ความสัมพันธ์จบแต่ชีวิตยังไม่สิ้นสุด ตกงานก็ยังหางานใหม่ได้ แม้จะสูญเสียสิ่งสำคัญแต่ตัวเราก็มีค่า เดินหน้าต่อไปใช้ชีวิตของตัวเองอย่างมีคุณค่าและมีความสุขในส่วนของคนสำคัญนั้นด้วย

หักดิบเลิกตามเลิกส่อง

หลังจบความสัมพันธ์อาจรู้สึกว่ายังตัดไม่ขาด ไปต่อไม่ได้ คิดถึงแต่เขาตลอดเวลาว่าจะทำอะไรและอยู่กับใคร กระวนกระวายใจอดไม่ได้ที่จะตามไปส่องดูโซเชี่ยลของเขา นั่นยิ่งทำให้จมอยู่กับความทุกข์มูฟออนได้ยาก ที่สุดแล้วต้องหักดิบตัดขาดทุกช่องทาง เลิกสนใจไม่ตามไปดู แต่หากทำไม่ได้ต้องขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ หรือปรึกษานักบำบัด

ทำตัวให้ยุ่ง

แทนที่จะใช้เวลาจมอยู่กับอดีตให้จิตใจยิ่งหมองหม่น จงลุกมาหาอะไรทำไม่ว่าจะเป็นทำงาน ทำงานบ้าน หรือหากิจกรรมใหม่ๆ ทำดูบ้าง เช่น ไปเป็นอาสาสมัครทำกิจกรรมจิตอาสา อ่านหนังสือให้คนตาบอดหรือคนชราฟัง นอกจากจะได้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ไม่ต้องหมกหมุ่นอยู่กับความทุกข์แล้ว การทำอะไรเพื่อคนอื่นยังช่วยทำให้เราได้มองเห็นคุณค่าของตัวเองอีกด้วย

ดูแลตัวเอง

เวลาตกอยู่ในห้วงทุกข์เรามักปล่อยปละละเลยไม่ดูแลตัวเองจะยิ่งทำให้แย่ลงทั้งใจและกาย สลัดความรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าออกไปแล้วลุกขึ้นมาปรนเปรอตัวเอง เปลี่ยนทรงผมใหม่ ไปทำสปาผิว ทำเล็บ ออกกำลังกาย การเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ให้ดีขึ้นจะทำให้มูฟออนได้เร็ว

 

พูดคุยกับเพื่อนหรือคนใกล้ชิด

พูดคุยหรือเล่าเรื่องราวต่างๆ ระบายความรู้สึกกับเพื่อนสนิทหรือคนใกล้ชิดที่เราไว้วางใจ การได้พูดคุยและระบายออกมาเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ก้าวต่อไปได้

ออกไปข้างนอก

เวลาจมอยู่กับความทุกข์ส่วนใหญ่มักรู้สึกอยากแต่นอนคลุมโปงไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นนั่นจะยิ่งทำให้หดหู่ การออกไปข้างนอกจะช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น อาจออกไปเดินเล่นสวนสาธารณะ ช้อปปิ้ง ดูหนัง ดูคอนเสิร์ต กับเพื่อนหรือคนใกล้ชิดที่เราไว้ใจ

เศร้าได้แต่มีลิมิต

อกหัก เลิกรา ความสัมพันธ์จบลง หรือเจอเรื่องราวร้ายใดๆ เศร้าได้ร้องไห้ได้ จงใช้เวลากับความเศร้าและคิดถึงเหตุผลที่ทำให้ต้องเลิกกัน แต่ควรกำหนดระยะเวลาอย่าอยู่กับความเศร้านานนัก แล้วเดินหน้าต่อไป

มีรักใหม่อีกครั้ง

เวลาเศร้ากับรักเก่าที่เลิกราไปอาจทำให้รู้สึกสิ้นหวังและคิดว่าไม่มีทางพบรักใหม่ แต่ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ให้เวลารักษาเยียวยาแผลใจและดูแลร่างกายตัวเองให้ดี ในที่สุดก็จะเดินหน้าต่อไปได้และมีโอกาสได้พบกับรักใหม่ อย่างไรก็ตามถึงจะยังไม่มีรักใหม่แต่ใจและกายก็เข้มแข็งพอที่จะอยู่คนเดียวได้

แหล่งที่มาข้อมูล
EVERY HEALTH, Isabella Gladd, 10 Steps To Moving On, สืบคืนข้อมูลเมื่อ 24 มกราคม 2566, จากเว็บไซต์: https://www.everydayhealth.com/
PSYCHALIVE, Carolyn Joyce, 15-Steps for How to Move On, สืบคืนข้อมูลเมื่อ 24 มกราคม 2566, จากเว็บไซต์: https://www.psychalive.org/
make it, Renee Onque, You should take 1 mental health day per month, psychologist says—here are 4 great ways to use them, สืบคืนข้อมูลเมื่อ 24 มกราคม 2566, จากเว็บไซต์: https://www.cnbc.com/make-it/