Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ทำไงดี ลูกแค่วัยประถมปลาย แต่เริ่มมีแฟนแล้ว!

Posted By Plook TCAS | 04 ม.ค. 66
4,148 Views

  Favorite

          คุณรู้รึเปล่าว่าหัวข้อที่เด็กประถมปลายคุยกันนั้นมีอะไรบ้าง คุณอาจคิดว่า ประถมปลายนั้นยังไม่สนใจเพื่อนต่างเพศ ถ้าคุณกำลังคิดแบบนี้ บทความนี้จะทำให้คุณเข้าใจลูกประถมปลายในอีกรูปแบบหนึ่ง รูปแบบที่เป็นธรรมชาติของพวกเขาจริง ๆ ต้องยอมรับว่า เลี้ยงลูกไม่ง่ายเลย ยิ่งลูกค่อย ๆ โตขึ้น หลายคนกังวลใจเรื่องลูกจะมีแฟนในวัยเรียนเป็นอย่างมาก แต่อยากให้คุณเปิดใจก่อนว่า การคุยกันของเด็กวัยประถมปลายอาจมีเรื่องของ ประจำเดือน ฝันเปียก การชอบพอเพื่อนต่างเพศ การมีแฟน ความรักในจินตนาการ แอบปลื้มรุ่นพี่ คลั่งไคล้ไอดอล แต่นั่นคือสิ่งที่คุณต้องป้องกันลูกด้วยหรือ ?

          อยากให้คุณคิดว่า การคุยกันของเด็กมักเต็มไปด้วยความรู้ การคาดเดา มโน จินตนาการ สารพัดหัวข้อที่เลือกมาคุย แต่ เอ…หัวข้อต้องห้ามสำหรับคุณ คือเรื่องเด็ดที่เด็กชอบคุยกันหรือเปล่า ที่สุดแล้วมันเป็นเรื่องธรรมชาติ และธรรมชาติจะสอนให้พวกเขารู้ว่าต้องเรียนรู้เรื่องนี้อย่างไร รักในวัยเรียน ประถมปลายมีแฟนได้ไหม ข้อมูลเช่นนี้ถ้าคุณเกิดล่วงรู้ความลับของลูก ความลับเกี่ยวกับความรักของลูก คุณจะห้ามหรือคุณจะช่วย แต่บทความนี้จะแนะนำคุณอย่างหลังมากกว่า ไปดูกันเลย

 

1. ฟังลูกเยอะ ๆ

          เปิดใจ…อย่าคิดว่าเขากำลังเล่าเรื่องไร้สาระ (ทั้งที่จริง ๆ มันอาจไร้สาระที่สุดในโลก) ฟังลูกเยอะ ๆ ลูกอาจไม่คิดว่าสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่คือความรัก หรือ แฟน หรือ คู่ชีวิต พวกเขาอาจยังไม่คิดไปแบบนั้น หรือถ้าคิดก็อาจจะไม่มีรูปแบบที่แน่นอน ดังนั้น ถ้าลูกเรายอมเล่า ขอให้คุณคิดว่า นั่นคือ โอกาสทอง การที่ลูกเล่านั้นแปลว่าลูกกล้าที่จะคุยกับคุณในเรื่องนี้ คุณได้ประโยชน์จากเรื่องนี้นะ เพราะการที่ลูกคุย มันจะช่วยลดปัญหาที่อาจจะเกิดในอนาคตได้ และคุณก็ไม่ต้องเปลี่ยนบทบาทจากผู้ปกครองเป็นสายสืบ …. จริงไหม

 

2. อย่าตีตนไปก่อนไข้

          เดี๋ยวนี้มีเว็บโป๊เปลือย แอปเกี่ยวกับการเจริญพันธุ์เยอะแยะมากมาย คุณจะไปควบคุมลูกคงไม่สามารถทำได้แน่ ๆ ดังนั้นเมื่อพบว่าลูกเริ่มสนใจเรื่องแฟน หรือเรื่องเพศ สิ่งสำคัญคือ ห้ามสอนเด็ดขาด ให้ใช้วิธีในข้อแรกคือ ฟังลูกเยอะ ๆ และใช้คำถามว่า ลูกคิดยังไง ทำไม…. อย่าพยายามใช้คำถามที่สั่งการให้ลูกคิดแบบคุณ แต่ใช้ประโยคที่เอื้อให้เขาได้คิดในแบบเขาด้วย เช่น ถ้าเป็นพ่อ พ่อจะทำแบบนี้นะ แล้วถ้าเป็นลูก ลูกทำยังไงล่ะ หลีกเลี่ยงการตีตนไปก่อนไข้ ลูกแค่สนใจเรื่องการมีแฟน ถ้าคุณยังคงเป็นคู่คิดที่ดีของลูก ลูกก็จะไม่มีปัญหาเรื่องนี้แน่ ๆ เพราะเขามีคุณเป็นคู่คิด ….จริงไหม

 

3. อย่าเพิ่งห้าม

          เลิกจุกจิก จู้จี้ ขี้บ่นได้ไหม เพราะพฤติกรรมที่ลูกไม่ชอบจะตามมาโดยอัตโนมัติ และมันเป็นพฤติกรรมที่คนเป็นผู้ปกครองควบคุมไม่ได้ด้วย อะไรน่ะเหรอ ก็จะอะไรซะอีก นอกเสียจากการชอบห้ามไงล่ะ ห้ามโน่น ห้ามนี่ ห้ามไปเรื่อย เอาอย่างนี้ไหม ถ้าลูกสนใจเรื่องแฟนจริง ๆ ล่ะก็ ให้สองบ้าน สองฝ่ายมาเจอกันเลย ในใจคุณอาจคิดว่า จริงจังขนาดนั้นเลยเหรอ ก็ต้องขอบอกว่าไม่ใช่คำว่าจริงจัง แต่การชวนสองบ้านมาเจอกัน เท่ากับคุณเพิ่มจำนวนสายสืบอย่างไม่ต้องลงทุนลงแรงเลย และไว้ใจได้ด้วย การชวนสองบ้านมาเจอกันถึงบอกว่าเป็นวิธีที่ดีที่ช่วยเพิ่มกิจกรรม สอนเรื่องเพศศึกษา ได้สร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับทั้งสองบ้าน เกิดกิจกรรมดี ๆ ร่วมกันมากมาย และที่สำคัญลูกและแฟนลูกก็จะอยู่ในสายตาคุณและครอบครัวของแฟนลูก เรียกได้ว่า ไม่ห้ามแต่หวงไว้ใกล้ ๆ แบบนี้จะดีกว่าไหม

 

4. หาจุดสนใจด้านอื่น

          เชื่อสิ พอลูกมีแฟน สายโทรทางโซเชียลจะแทบไม่ว่างเลย บางคู่ก็ค้างสายไว้ คุณจะเห็นพฤติกรรมลูกที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด โลกนี้ของลูกคุณจะเป็นสีชมพู คิดถึงแต่แฟน คุณน่าจะพยายามเข้าใจ เพราะคุณก็เคยผ่านช่วงนั้นมา แต่คุณก็อาจกลัวมากกว่า กลัวว่าความรักจะทำให้เกิดอันตรายต่ออนาคตของลูก ถ้าเช่นนั้นจะห้ามอย่างไร ก็อย่างที่บอกไว้ในข้อที่ 3 คุณห้ามไม่ได้ เพราะมันคือหัวใจของลูกคุณ แต่ก็ใช่จะไม่มีวิธี ลองส่งเสริมให้ลูกทำกิจกรรมอื่นควบคู่ไปด้วย ที่ไม่ใช่ทางด้านวิชาการ แต่เป็นทางด้านมนุษยสัมพันธ์ เช่น การออกค่ายอาสา การทำงานพาร์ทไทม์ การเล่นดนตรี การเล่นกีฬา เอาเป็นว่า ต้องเป็นกิจกรรมที่ทำให้ลูกเห็นคุณค่าในตนเองมากขึ้น การทำให้ลูกสนใจด้านอื่นบ้าง นอกจากแฟน ไม่หมกมุ่นแต่เรื่องความรักเพียงอย่างเดียว จะทำให้เขาไม่กลายเป็นคนขี้เพ้อ ฟุ้งซ่าน แต่ลูกคุณจะกลายเป็นคนที่รักตัวเองเป็น สามารถแบ่งรักให้คนอื่นเป็นด้วย เห็นไหมล่ะ ไม่ได้ห้ามแต่หาอย่างอื่นให้ทำควบคู่ไปด้วย

 

5. ดุไปยิ่งแย่

          แทนที่จะดุ ก็ลองบอกผลเสียของการมีแฟนในวัยเรียนดู ใกล้ชิดกับลูกให้มาก ๆ การดุเป็นสิ่งแสดงว่าคุณกังวล ลูกของคุณเขาฉลาดพอที่จะดูสายตาและพฤติกรรมของคุณออก ความจริงแล้วลูกคุณรักและห่วงคุณมาก มากจนอาจกลัวที่จะเข้าใกล้เพื่อเล่าอะไรต่อมิอะไรให้ได้ฟัง ความกลัวมาจากการที่คุณเคยดุหรือทำสีหน้าเป็นกังวล ลองเปลี่ยนตัวคุณเองดู วัยรุ่นหลายคนที่เติบโตมาจนศึกษาได้ถึงระดับปริญญาตรี พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ค่อยคุยกับผู้ปกครองเรื่องแฟน เพราะผู้ปกครองไม่เคยถาม หรือ เพราะผู้ปกครองไม่เข้าใจและห้าม

 

ก่อนที่ลูกจะเข้าสู่วัย teen คุณควรละลายช่องว่างระหว่างคุณกับลูกให้ได้เสียก่อน โดยใช้เครื่องมือที่แนะนำไปทั้ง 5 ข้อกันดู แล้วจะรู้ว่ายังมีเรื่องที่ผู้ปกครองอย่างเราต้องเรียนรู้และลองผิดลองถูกเกี่ยวกับลูกอีกเยอะ

สิ่งสำคัญ คือ ไม่เน้นการต่อว่าต่อขาน

แต่เน้นไว้ใจและอยู่ข้างเขาเสมอ

คุณอาจต้องคุยกับลูกเหมือนเพื่อน

และลูกจะไม่มีความลับกับคุณ และไม่ตาบอดเพราะความรักด้วย

           

ปริณุต ไชยนิชย์

ข้อมูลอ้างอิงจาก ลูกสาวอยู่ป 5 เริ่มมีแฟนแล้ว https://pantip.com/topic/39187265

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook TCAS
  • 29 Followers
  • Follow