6 สิ่งควรรู้ก่อนฝึกลูก 3 ภาษา

          การฝึกลูก 3 ภาษาเป็นเรื่องไม่ง่ายเลย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป ลองฟังสิ่งที่ควรต้องรู้ก่อนฝึกลูก 3 ภาษา เป็นประสบการณ์ของบรรดาผู้ปกครองที่ต้องการให้ลูกพูดได้ 3 ภาษา ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลย

1. ผู้ปกครองต้องเก่ง 1 ใน 3 ภาษาที่อยากให้ลูกพูดได้

          วิธีนี้ถือเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับลูก เพราะการที่เราพูดได้ ไม่ว่าจะเป็น ภาษาจีน ภาษาเยอรมัน ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น หรือภาษาใด ๆ ก็แล้วแต่ จะทำให้เกิดการคุยกันระหว่างคุณกับลูก ในทุก ๆ กิจวัตรประจำวันตั้งแต่ เข้านอน อาบน้ำ ล้างจาน ทำกับข้าว การชวนคุยของผู้ปกครองด้วยภาษานั้น จะทำให้ลูกจดจำการรียนรู้ภาษา ไปจนถึงการใช้ศัพท์เพื่อเริ่มพูด แต่จะพูดได้อย่างไร ถ้าลูกไม่เคยได้ยิน และคุณเองคือคนที่จะพูดให้ลูกได้ยินได้บ่อยที่สุด อ่อ อย่าลืมว่าคุณต้องไม่บังคับลูก ต้องให้เขารักในภาษานั้นจริง ๆ

2. กิจกรรมที่เป็นแรงจูงใจ

          คุณควรมีกิจกรรมที่เป็นแรงจูงใจให้ลูกฝึก  3 ภาษา โดยอาจแบ่งเป็นวัน วันละ 1 ภาษา กิจกรรมต่าง ๆ

ควรมีดังนี้

• ให้ลูกอ่านหนังสือ เป็นการฝึกให้ลูกพูดและสร้างสัมพันธ์ให้กับลูกวัยประถมปลาย

• พูดกับลูกบ่อย ๆประโยคเดิม ๆซ้ำ ๆ

• ควรเปลี่ยนระดับเสียงหรือโทนเสียงกับลูกบ่อย ๆ

• เรียกชื่อลูกบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ

• สังเกตว่าลูกกำลังสนใจอะไรพิเศษแล้วนำสิ่งนั้นพูดกับลูกบ่อย ๆ  

• กระตุ้นการพูดกับลูกโดยการถามตอบหรือผลัดกันพูดบ่อยขึ้น

• พาลูกไปเล่นกับเด็กๆ วัยเดียวกันและวัยแตกต่าง

• ฝึกพูดออกเสียงสระให้ออกเสียงยาว ๆ ช้า ๆ ชัด ๆ ขึ้น 

3. ใช้สื่อช่วย

          หลายคนอาจเข้าใจว่า การฝึกลูก 3 ภาษาต้องฝึกตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจึงจะได้ผล ที่จริงแล้วการฝึกด้วยสื่อที่มีประสิทธิภาพก็สามารถช่วยให้ลูกวัยประถมปลายเก่ง 3 ภาษาได้เช่นกัน ปัจจุบันมีหลายสื่อที่สนับสนุนการเรียนรู้ 3 ภาษาให้กับเด็ก ๆ อย่างเช่น แอปสำหรับดูซีรี่ส์  จริงอยู่ที่หากสนับสนุนให้ลูกเรียน 3 ภาษาตั้งแต่ก่อน 5 ขวบจะทำให้ลูกเรียนรู้ได้วัยกว่าวัยประถมปลาย แต่ข้อดีของการเรียนในวัยประถมปลายคือ เด็กชัดเจนในสิ่งที่ตัวเองชอบและมีความสุขกับสิ่งที่ทำได้แล้ว เด็กวัยนี้จะเรียน 3 ภาษาได้อย่างมีจุดมุ่งหมายมากกว่าเด็กที่อายุไม่เกิน 5 ขวบ

4. กำหนดช่วงเวลา

          ควรมีการกำหนดช่วงเวลาโดยแบ่งกันว่าพ่อหรือแม่ใครจะสื่อสารภาษาอะไร สำเนียงไม่ต้องเป๊ะก็สอนได้ แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องมีวินัยในการใช้ภาษากับลูกของคุณด้วย อาจหาเครื่องมือช่วยฝึก แต่ห้ามน่าเบื่อเด็ดขาดให้เน้นกิจกรรมมากกว่าที่จะสอนตรง ๆ โดยฝึกจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้

5. มองหาจุดเด่นของลูก

          อะไรคือจุดเด่นของลูก เด็กบางคนมีทักษะที่โดดเด่นหลายด้าน คอยสังเกตว่าลูกชอบอะไร และให้ออกแบบกิจกรรมการฝึกลูก 3 ภาษาให้เหมาะกับสิ่งที่เป็นความถนัดของลูก อย่าลืมว่า ความสุขจะช่วยให้ลูกของคุณมีพัฒนาการ 3 ภาษาได้ดียิ่งขึ้น แต่ก็ต้องไม่ลืมด้วยว่า เด็กทุกคนมีความถนัดในแต่ละด้านที่แตกต่างกัน

6. คุณต้องใจแข็งและใจเย็น

          เด็กวัยประถมปลายจะเริ่มมีความรู้สึกเลือกสิ่งที่ชอบและคัดสิ่งที่ไม่ชอบ ดังนั้นเมื่อเด็กไม่อยากใช้อะไร เขาก็จะไม่ใช้ พฤติกรรมการต่อต้านจะปรากฎชัดเจนมาก นี่คือธรรมชาติของเด็กวัยนี้ ผู้ปกครองควรทำใจร่ม ๆ ใจเย็น ๆ ถ้าสังเกตลูกของคุณแล้วพบว่า เขาไม่อยากใช้จริง ๆ คุณต้องไม่ฝืน แต่ให้แทรกการสอน 3 ภาษาลงในกิจกรรมที่เขาชอบแทน

          อย่างไรก็ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ปกครองทุกคนด้วย 6 สิ่งควรรู้ก่อนฝึกลูก 3 ภาษา และคุณรู้หรือไม่ จุดเริ่มต้นที่คุณวางแผนให้ลูกอยู่ตอนนี้ บอกเลยว่าคุณมาถูกทางแล้ว ขอเพียงคุณนำไปปรับใช้ คุณและลูกประถมปลายจะได้ประโยชน์อย่างแน่นอน

ปริณุต ไชยนิชย์

ข้อมูลอ้างอิงจาก 

วิธีกระตุ้นให้ลูกพูดเร็วพูดไวทำอย่างไร? https://youtu.be/JutcSJW7aTw

เลี้ยงลูก 3 ภาษา (ขึ้นไป) อย่างไรดี” บทความโดย เหลาสวิสต์ by ครูเบิร์ด https://www.tach-swiss.ch/post/lang4kids