7 ทักษะความสำเร็จสำหรับเด็กวัยประถมศึกษาในยุคดิจิทัล ที่ทุกครอบครัวต้องสอน!

ความสำเร็จคือสิ่งที่ทุกคนปรารถนา และมุ่งมั่นไล่ล่าตามหากัน แต่ความสำเร็จของเด็กนั้น คงไม่สามารถเกิดได้ด้วยตัวของเด็กเองเพียงลำพัง เพราะด้วยความอ่อนเดียงสา อาจทำให้เด็กบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่า คำว่า “ความสำเร็จคืออะไร” ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ผู้ปกครองที่จะต้องสอนให้เด็ก ๆ รู้จักความสำเร็จ และรู้วิธีพาตัวเองไปสู่ความสำเร็จ และแน่นอนว่าในศตวรรษที่ 21 ความเก่งทางด้านวิชาการอย่างเดียวคงไม่ใช่กุญแจแห่งความสำเร็จของเด็กในยุคนี้อีกต่อไปแล้ว

ดร.โทนี่ แวคเนอร์ (Dr.Tony Wagner) จาก Center for Global Education ได้เปิดเผยถึงทักษะสำคัญ 7 ประการ ซึ่งควรจะเป็นทักษะที่ทุกโรงเรียนต้องสอน แต่ถ้าโรงเรียนที่ลูกเราเรียนไม่ได้สอนล่ะ จะทำอย่างไร คำตอบง่าย ๆ เลยคือ ผู้ปกครองไงที่เป็นคนต้องสอน และส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กได้เกิดกระบวนการเรียนรู้ในทักษะเหล่านี้  ทีนี้เราลองมาดูกันว่า ทักษะ 7 ประการที่ว่านี้มีอะไรบ้าง  

1. การมีทักษะในการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา

รูปแบบการเรียนรู้ในสมัยก่อน อาจเน้นการท่องจำและคำนวณเป็นหลัก แต่ยุคปัจจุบัน ทักษะที่มาแรงและมีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง ซึ่งนับเป็นทักษะที่จำเป็นต้องได้รับการส่งเสริมทั้งจากในระบบโรงเรียน และจากครอบครัว โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องใช้การตัดสินใจ การแก้ปัญหา และการเอาตัวรอดที่ล้วนมาจากทักษะนี้ทั้งสิ้น

2. ทักษะด้านการร่วมมือกัน

การสอนให้ลูกรู้ว่า one man show ไม่ใช่คำตอบของความสำเร็จที่แท้จริง ความสำเร็จไม่ได้เกิดจากคนคนเดียว นี่คือนิยามความสำเร็จใหม่ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ยุคนี้ ใครมีทีมดี มีคอนเนคชันที่เยี่ยม เหมือนประสบความสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง และนี่คือเหตุผลที่ทักษะนี้จำเป็นต้องสอนลูกหลานตั้งแต่เด็ก ๆ เพื่อให้เขาเรียนรู้คุณค่าและความสำคัญของการสร้างทีมไปสู่ความสำเร็จ การมีเพื่อน การใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น อย่างมีคุณค่าและความหมาย เพื่อทำหน้าที่ร่วมกันในการสร้างความสำเร็จให้แก่กันและกัน

3. ทักษะในการปรับตัว

อีกหนึ่งทักษะสำคัญเพื่อให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลกในยุคปัจจุบัน เด็กที่ไม่ได้เรียนรู้เรื่องการปรับตัว นอกจากจะเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตของเขาแล้ว ก็อาจทำให้เกิดปัญหากับผู้อื่นด้วย และการปรับตัวที่ดี ก็ส่งผลที่ดีต่อสุขภาพจิตของเด็กอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้พ่อแม่ผู้ปกครองควรเริ่มต้นที่ตัวเองก่อน คือเป็นฝ่ายปรับตัวเองก่อนที่จะปรับลูก เพราะชุดความรู้ ประสบการณ์เดิมของพ่อแม่ที่ใช้คำว่าอาบน้ำร้อนมาก่อน อาจไม่สามารถใช้ได้กับเด็กในยุคนี้ทั้งหมด จึงต้องมีการปรับให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่างว่า เราเป็นผู้ปกครองยุคใหม่ที่ทันโลก เป็นตัวอย่างให้ลูกดู ว่าการปรับตัวช่วยสร้างความเข้าใจ สร้างการรู้เท่าทัน และนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ทุกด้าน ควบคู่ไปกับการสอนทักษะนี้ให้ลูกเรียนรู้ตั้งแต่เด็ก 

4. ทักษะในการคิดริเริ่ม

การรู้จักคิด รู้จักมองหาสิ่งใหม่ ๆ นับเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม และเป็นทักษะที่สอนกันได้ตั้งแต่เด็ก ๆ โดยการเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงความคิดเห็น ได้ลองผิดลองถูกในการทำสิ่งใหม่ ๆ และการให้ประสบการณ์ที่หลากหลายกับเด็ก โดยไม่ตีตราว่าสิ่งนี้ผิด หรือใช้การลงโทษ ดุว่า เปรียบเทียบ จนเด็กขาดความมั่นใจและไม่กล้าแสดงความคิดเห็น หรือแม้แต่การฝึกให้เด็กกล้าถามในสิ่งที่สงสัยหรือไม่รู้ โดยไม่อายหรือกลัวว่าจะเป็นสิ่งผิด

5. ทักษะในการสื่อสารด้วยการพูดและการเขียน

พ่อแม่หลายคนมักจะภูมิใจหรือดีใจที่ลูกตัวเองพูดเก่ง พูดคล่อง ช่างเจรจาฉอเลาะ รวมทั้งถ้าลูกสามารถอ่านออกเขียนได้ยิ่งถือว่าประสบความสำเร็จทางการสื่อสารแล้ว ซึ่งจริง ๆ แล้วสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่นิยามของการสื่อสารที่ประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะทักษะการสื่อสารที่ดี หมายถึงการมีความคิดความอ่าน มีความสามารถในการถ่ายทอดข้อมูลอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ สิ่งนี้ยังหมายรวมถึงการรู้จักมารยาทและกาลเทศะในการสื่อสารอีกด้วย

6. ทักษะในการเข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูล

นอกจากความสามารถในการสื่อสารที่ดีแล้ว การรู้จักเลือกรับและวิเคราะห์ข้อมูล นับว่าเป็นทักษะที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะโลกยุคปัจจุบัน เป็นโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสาร ซึ่งมีทั้งข้อมูลที่ดี ไม่ดี ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และข้อมูลที่หลอกลวง ซึ่งหากเด็ก ๆ ไม่ได้รับการสอนทักษะเหล่านี้ ก็อาจตกเป็นเครื่องมือในการสร้างความสำเร็จของผู้อื่น หรือเรียกง่าย ๆ ว่าตกเป็นเหยื่อของข้อมูล แทนที่จะประสบความสำเร็จจากข้อมูลเหล่านั้น การฝึกทักษะให้เด็กรู้เท่าทันสื่อ วิเคราะห์แยกแยะได้ ว่าอะไรควรทำ อะไรควรเชื่อ ทักษะนี้ถือว่าเป็นประตูสู่ความสำเร็จเลยทีเดียว 

7. ความช่างสงสัยและจินตนาการ

อันที่จริงแล้ว ทักษะที่ว่านี้เป็นสิ่งที่มีติดตัวเด็ก ๆ มาอยู่แล้วตั้งแต่กำเนิดเลยก็ว่าได้ค่ะ เด็ก ๆ ทุกคนล้วนมีสัญชาตญาณแห่งความอยากรู้อยากเห็น รวมไปถึงการมีความคิดสร้างสรรค์แบบไม่มีขีดจำกัด สิ่งสำคัญมากกว่าการสอน จึงเป็นการเก็บรักษาทักษะนี้ให้อยู่ติดตัวเด็กไปจนโต และเสริมในเรื่องของการนำเอาทักษะเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองและผู้อื่น เท่านี้หนทางของคนที่ประสบความสำเร็จในอนาคตก็คงอยู่ไม่ไกลแล้วล่ะค่ะ

ทักษะทั้งหมดนี้ล้วนมีผลต่อความสำเร็จที่ยั่งยืนของเด็ก ๆ อย่างแท้จริง และการเริ่มต้นสอนทักษะเหล่านี้ตั้งแต่ลูกหลานของเรายังเล็ก ๆ จะทำให้พวกเขาเข้าใจและนำไปปรับใช้ได้เองโดยอัตโนมัติ อย่ารอให้การเรียนรู้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากโรงเรียนเท่านั้น แต่ควรทำให้ทุกการเรียนรู้ของลูก เริ่มต้นจากครอบครัว และดำรงอยู่เช่นนี้ตลอดไป เพื่อให้ความสำเร็จเป็นของขวัญที่ทรงคุณค่าสำหรับทุกคนในครอบครัวที่มีส่วนสร้างสิ่งนี้ให้แก่ลูกหลานร่วมกัน

นัททยา ทรูปลูกปัญญา

ข้อมูลจาก

7 ทักษะแห่งความสำเร็จแบบคนยุคใหม่ที่ควรสอนลูก https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/65135