ปัจจุบันผู้คนนิยมซื้อของออนไลน์กันมากขึ้น เนื่องจากข้อดีหลายอย่าง ทั้งสะดวกในการเลือกซื้อ สามารถเปรียบเทียบสินค้าจากร้านต่าง ๆ ได้ง่าย รวมทั้งประหยัดเวลาเดินทาง นอกจากนี้ การจ่ายเงินซื้อสินค้ายังไม่ยุ่งยากอีกด้วย การซื้อของออนไลน์มีให้เลือกหลากหลายวิธี อาทิ การโอนเงินจ่าย รูดบัตรเครดิต และการเก็บเงินปลายทาง อย่างไรก็ตาม ขึ้นชื่อว่าเป็นเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เรายังต้องระมัดระวัง รอบคอบเพื่อที่จะได้ซื้อของได้อย่างปลอดภัยและไร้กังวล
การโอนเงินจ่ายเป็นวิธีที่นิยมกันมากในการซื้อขายของออนไลน์ โดยหลักฐานการโอนจะเป็นสลิปออนไลน์ บางครั้งคุณอาจเป็นทั้งผู้ซื้อและผู้ขายทางออนไลน์ ดังนั้นคุณควรรู้ถึงการป้องกันตัวจากสลิปเงินปลอม
1. สังเกตตัวอักษรและตัวเลขบนสลิป
ถ้าตัวอักษรหรือตัวเลขมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เช่น ความหนาบางตัวอักษรแตกต่างกัน หรือตัวเลขไม่เหมือนกัน ให้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าอาจจะเป็นสลิปปลอม อย่างไรก็ตามวิธีนี้อาจจะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและชำนาญในการจับสังเกต
2. ตรวจสอบสลิปด้วยการสแกน QR code
โดยสลิปที่ใช้ตรวจสอบจะต้องมี QR code สามารถตรวจสอบได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
- กดเซฟรูปภาพสลิปที่เราต้องการตรวจสอบเอาไว้
- เปิดแอปพลิเคชันธนาคารใดก็ได้ขึ้นมา เลือกไปที่เมนูสแกน QR code (เกือบทุกธนาคารจะมีเมนูนี้ ซึ่งหน้าตาเมนูอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละแอปพลิเคชันของธนาคาร) แล้วเลือกรูปภาพสลิปที่เซฟเอาไว้ หรืออาจจะใช้การสแกนด้วยมือถืออีกเครื่องแทนก็ได้
- ถ้าเป็นสลิปของจริงจะขึ้นข้อมูลการทำธุรกรรมต่างๆ พร้อมข้อความแจ้งว่า ตรวจสอบรายการสำเร็จ ให้เราเช็คสอบชื่อสกุลคนโอน เวลาโอนและจำนวนเงินว่าข้อมูลตรงกันหรือไม่
- ถ้าเป็นสลิปปลอม จะไม่มีข้อมูลให้เราตรวจสอบ
ข้อควรระวัง ! หากสลิปที่จะใช้ตรวจสอบระยะเวลานานเกินกำหนดอาจจะมีการขึ้นข้อมูลว่าไม่สามารถตรวจสอบได้ หรือไม่สามารถค้นหารายการได้ คุณควรเช็คข้อมูลกับธนาคารอีกครั้ง
3. เช็คยอดเงินด้วยด้วยแอปพลิเคชันของธนาคาร (mobile banking)
ข้อมูลที่เราต้องตรวจสอบก็เหมือนกับการเช็คข้อมูลสลิปออนไลน์นั่นคือ เช็คจำนวนยอดเงิน วันเวลาโอน รวมทั้งชื่อสกุลผู้โอน อย่างไรก็ตาม บางครั้งข้อมูลอาจจะยังไม่ขึ้นในทันที เนื่องจากการทำงานของระบบธนาคารอาจล่าช้าหรือขัดข้อง เราควรมีการตรวจสอบซ้ำเพื่อความแน่ใจ
4. เลือกใช้บริการแจ้งเตือนกรณีมีเงินเข้า-ออก
ทำให้เรามั่นใจได้ว่ามีเงินเข้า-ออกบัญชีจริง ทั้งนี้ เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้มีการแจ้งเตือนผ่านช่องทางใด เช่น SMS แอปพลิเคชันของธนาคาร ซึ่งการเลือกใช้บริการนี้อาจมีค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร ก่อนใช้งานควรตรวจสอบให้ดี
5. เลือกใช้ระบบตรวจสอบสลิปสำหรับร้านค้าออนไลน์
กรณีเป็นร้านค้าที่มียอดซื้อขายจำนวนมาก ทำให้มีสลิปหรือเอกสารการโอนเงินที่ค่อนข้างเยอะ การตรวจสอบอาจจะใช้เวลานาน การเลือกใช้ระบบจัดการร้านค้าที่มีระบบช่วยเช็คสลิปอัตโนมัติจะช่วยลดระยะเวลาการตรวจสอบไปได้มาก
ปัญหาสลิปปลอมเป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด ซึ่งวิธีการตรวจสอบทำได้ไม่ยาก ใช้เวลาไม่นาน คุณควรจะตรวจสอบสลิปเวลาโอนหรือรับเงินทุกครั้งอย่างรอบคอบเพื่อลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น นอกจากนี้ คุณไม่ควรโพสต์รูปสลิปในช่องทางสาธารณะ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่ประสงค์ดีนำไปตัดต่อและใช้หลอกลวงผู้อื่น
การจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตเป็นอีกวิธีหนึ่งที่นิยมกัน เนื่องจากสะดวกสบายไม่ต้องพกพาเงินสดและยังได้สิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิต ทั้งนี้ การใช้งานบัตรเครดิตซื้อของออนไลน์ก็ควรระมัดระวังเช่นเดียวกัน
1. เลือกซื้อของจากร้านค้าออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ รวมทั้งเลือกชำระเงินที่มีการยืนยันตัวตนด้วย OTP หรือมีเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย
2. อย่าเปิดเผยข้อมูลทางด้านการเงินแก่คนอื่น เช่น หมายเลขบัตรเครดิต วงเงินบัตรเครดิต ชื่อผู้ถือบัตร รหัส 3 ตัวท้ายหลังบัตรเครดิต (CVV) ที่สำคัญคือ แต่ละธนาคารไม่มีนโยบายขอข้อมูลจากลูกค้าทางโทรศัพท์ ยกเว้นลูกค้าเป็นผู้โทรไปสอบถามข้อมูลทาง Call Center ด้วยตนเอง ดังนั้นหากคุณได้รับโทรศัพท์สอบถามข้อมูลด้านการเงิน หรือข้อมูลส่วนตัวให้ระมัดระวังและอย่าให้ข้อมูลเด็ดขาด
3. ตั้งรหัสผ่านที่คาดเดายาก และเปลี่ยนรหัสผ่านสม่ำเสมอ ขอแนะนำว่าไม่ควรตั้งรหัสผ่านที่เป็นวันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ รหัสไปรษณีย์ เพราะง่ายต่อการเดา และหมั่นเปลี่ยนรหัสผ่านสม่ำเสมอ
4. ตรวจสอบยอดค่าใช้จ่ายว่าถูกต้อง ก่อนที่จะรูดบัตรเครดิตทุกครั้ง นอกจากนี้ บางธนาคารยังมีบริการแจ้งเตือนผ่าน SMS เพื่อยืนยันยอดใช้จ่ายอีกครั้ง
5. หมั่นเช็คข้อมูลการใช้จ่าย บัตรเครดิตอย่างสม่ำเสมอ หากพบรายการผิดปกติให้ติดต่อสอบถามธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตทันที เพราะถ้าละเลยหรือแจ้งล่าช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้จะถือว่าเรายอมรับค่าใช้จ่ายนั้น
6. ปรับวงเงินบัตรเครดิตให้เหมาะสม กับการซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อป้องกันการใช้จ่ายที่เกินพอดี
วิธีสั่งสินค้าแบบเก็บเงินปลายทางช่วยให้คนซื้อของมั่นใจว่าได้รับของแน่นอนและไม่ต้องโอนเงินจ่ายร้านค้าล่วงหน้า แม้ว่าวิธีนี้จะสะดวกแต่ยังมีข้อควรระวังเมื่อคุณมีการสั่งสินค้าแบบเก็บเงินปลายทาง
1. เลือกซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ หรือร้านค้าที่น่าเชื่อถือ
2. ตรวจสอบข้อมูลก่อนรับพัสดุทุกครั้ง ในกรณีมีพัสดุที่น่าสงสัยให้ปฏิเสธการรับและไม่ชำระเงิน
3. หากคุณไม่สะดวกรับของเอง ให้แจ้งรายละเอียดสินค้าที่สั่งกับสมาชิกในบ้านหรือคนที่รับของแทน เช่น สั่งสินค้าอะไร จำนวน ราคาเท่าไร
ทุกวันนี้เราซื้อขายของผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น แม้ว่าการซื้อของแบบนี้จะสะดวก แต่เราก็ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงิน รูดบัตรเครดิต หรือการจ่ายเมื่อมาเก็บเงินปลายทาง เพื่อที่ว่าเราจะได้ซื้อของได้อย่างสบายใจไร้กังวล
จุฑามาศ เตชะขจรเกียรติ