Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ยาสำหรับเด็กที่ไม่ควรซื้อกินเอง

Posted By Plook Parenting | 11 พ.ย. 65
2,607 Views

  Favorite

เด็กเล็กมักมีอาการไม่สบายบ่อยเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังทำงานได้ไม่เต็มที่ คุณพ่อคุณแม่บางบ้านจึงตัดสินใจซื้อยาบรรเทาอาการต่าง ๆ มาให้ลูกเอง ซึ่งวิธีการเหล่านี้เป็นวิธีที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเด็กอาจเกิดอันตรายจากการใช้ยาได้

 

 

กระทรวงสาธารณสุข โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ แนะนำให้กับคุณพ่อคุณแม่ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ยากับเด็กเล็กว่าควรใช้ความระมัดระวังอย่างสูง เพราะตัวยาแต่ละชนิดมีปริมาณการใช้และข้อบ่งชี้แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้เด็กแต่ละวัยก็มีการใช้ยาและการตอบสนองต่อยาที่แตกต่างกัน คุณพ่อคุณแม่จึงควรเคร่งครัดเรื่องการใช้ยา ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง

 

ภาพ : Shutterstock

 

ถึงแม้ยาสำหรับเด็กบางตัว คุณพ่อคุณแม่สามารถหาซื้อมาให้ลูกกินเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยได้ แต่ก็มียาบางตัวที่ไม่ควรซื้อเองโดยเด็ดขาดเพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายอย่างคาดไม่ถึงได้เช่นกัน ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจกันว่ายาชนิดไหนที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรหาซื้อมาให้เด็กกินเองบ้าง

1. ยากลุ่มซัลฟา

เพราะยากลุ่มซัลฟาเป็นยาต้านมาลาเรีย ในยาต้านมาลาเรียบางชนิดหากใช้ในคนไข้ที่มีภาวะ G6PD (โรคพร่องเอนไซม์ หรือ Glucose-6-Phosphate Dehydrogenase เป็นโรคทางพันธุกรรมที่ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกหากได้รับสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการ) จะไปกระตุ้นทำให้เม็ดเลือดแดงแตกและอาจส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจางในระยะยาวได้ หากบุตรหลานมีภาวะพร่อมเอนไซม์นี้อยู่ เมื่อได้รับยากลุ่มซัลฟาก็อาจเกิดอันตรายได้นั่นเอง

 

ภาพ : Shutterstock

 

2. ยาฆ่าเชื้อกลุ่มเตตร้าไซคลิน หรือยาคลอแรมเฟนิคอล

เนื่องจากยาในกลุ่มนี้มีการแนะนำให้ใช้ในเด็กที่อายุมากกว่า 8 ปีขึ้นไป หากใช้กับเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่าที่กำหนดไว้ ตัวยาจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของกระดูก ฟัน และสารเคลื่อบฟัน จนทำให้สีของฟันเปลี่ยนไปอย่างถาวร และส่งผลให้กระดูกหยุดการเจริญเติบโตด้วยเช่นกัน

3. ยากลุ่มแอสไพริน

ถึงแม้ว่ายากลุ่มนี้จะอยู่ในหมวดของยาบรรเทาอาการหวัดลดไข้ แต่ก็มีข้อบ่งชี้ว่าห้ามใช้กับเด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี และเด็กที่มีอาการป่วยจากเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ และอีสุกอีใส เพราะเมื่อร่างกายของเด็กที่มีเชื้อไวรัสและได้รับยากลุ่มนี้ อาจส่งผลให้เกิดรายส์ ซินโดรม (Reye’s syndrome) หรือภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ร่วมกับภาวะตับวายได้

 

ภาพ : Shutterstock

 

4. ยากลุ่มโลเพอราไมด์

ยากลุ่มนี้เป็นยาที่หยุดการเคลื่อนไหวของลำไส้ และไม่แนะนำให้ใช้ในเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ปากแห้ง คอแห้ง ท้องผูก ปวดท้อง และอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้

5. ยากลุ่มเดกซ์โทรเมทอร์แฟน

ยากลุ่มนี้เป็นยากลุ่มกดอาการไอ ห้ามใช้ในเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบ เพราะตัวยาอาจไปกดระบบทางเดินหายใจของเด็กได้ เพราะฉะนั้นควรระมัดระวังในการใช้งาน และอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์และเภสัชกรอย่างเคร่งครัด

 

ถึงแม้ว่ายาสำหรับเด็กแต่ละตัวจะมีการกำหนดช่วงอายุที่สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย แต่ในเด็กแต่ละคนอาจเกิดอาการแพ้หรือผลข้างเคียงที่แตกต่างกัน ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรอย่างใกล้ชิด และจดบันทึกยาที่ลูกใช้ทุกตัวว่ามียาตัวไหนที่ลูกมีอาการแพ้หรือควรระมัดระวังเรื่องการใช้งานบ้าง ในการไปพบแพทย์หรือเภสัชกรครั้งต่อไปจะได้แจ้งอาการ และปรึกษาหาตัวยาอื่นมาใช้ทดแทนได้อย่างปลอดภัย

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Parenting
  • 8 Followers
  • Follow