เมื่อท้องขยายใหญ่ขึ้น แม่ท้องหลายคนก็เริ่มกังวลว่าควรนอนท่าไหนดีที่จะไม่ทับลูก และช่วยให้แม่ท้องนอนหลับสบาย ไม่เกิดตะคริว วันนี้เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันดีกว่า
ท่านอนที่เหมาะที่สุดคือ ท่านอนหงาย เพราะเมื่อเริ่มตั้งครรภ์มดลูกของแม่ท้องจะโตขึ้นเรื่อย ๆ หากคุณแม่นอนตะแคง มดลูกก็จะถูกถ่วงไปทางที่ตะแคง ดึงรั้งปีกมดลูกให้ถ่วงลงไปด้วย เมื่อแม่ท้องตื่นก็อาจเกิดอาการเจ็บเสียดปีกมดลูกได้ ดังนั้น ท่านอนที่เหมาะสมสำหรับแม่ท้องอ่อน ๆ คือท่านอนหงายธรรมดา ๆ นี่เอง
ในช่วงท้องแก่แม่ท้องจะเริ่มรู้สึกอึดอัด นอนลำบาก และไม่สบายตัว ท่านอนที่เหมาะสมคือ ท่านอนตะแคง เพราะการนอนหงายในขณะที่ครรภ์มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก จะไปขัดขวางการไหลเวียนของเลือด ส่งผลให้แม่ท้องมีอาการหน้ามืด จะเป็นลม การนอนตะแคงจะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้ โดยแม่ท้องควรใช้หมอนข้างสอดไว้ใต้ท้องและใต้ขาด้วย จะช่วยให้แม่ท้องสึกสบายตัวขึ้น และลดการเป็นตะคริว รวมไปถึงอาการขาบวมลงได้
1. ไม่ว่าจะท้องแก่หรือท้องอ่อน ก่อนล้มตัวลงนอนควรนั่งที่ริมเตียงก่อน แล้วค่อย ๆ ตะแคงพลิกตัวลงบนที่นอน จัดให้หมอนหนุนที่ศีรษะพอดี เวลาลุกขึ้นจากเตียงก็เช่นกัน ให้พลิกตัวตะแคงก่อนแล้วพยุงตัวลุกขึ้นช้า ๆ
2. สาเหตุที่เมื่อแม่ท้องนอนตะแคงแล้วลูกดิ้นแรง ไม่ได้มาจากการถูกกดทับ แต่เกิดจากการนอนตะแคงไม่ไปกดทับเส้นเลือดดำใหญ่ที่รับเลือดส่งกลับสู่หัวใจ เมื่อเลือดสูบฉีดได้ดีขึ้น ลูกในครรภ์ก็ได้รับสารอาหารมากขึ้น จึงมีแรงและดิ้นแรง เหมือนตอนที่แม่ท้องรับประทานอาหารเสร็จนั่นเอง
3. แม่ท้องควรเปลี่ยนท่านอนบ่อย ๆ เพื่อให้นอนหลับได้ดีขึ้น เพราะการนอนท่าเดิมนาน ๆ อาจทำให้เกิดการกดทับ ทำให้เจ็บตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้
4. แม่ท้องไม่ควร “นอนคว่ำ” ไม่ว่าจะท้องอ่อนหรือท้องแก่ เพราะการนอนท่านี้จะทำให้หายใจไม่ออก และขัดขวางการไหลเวียนของเลือดจนเกิดการกดทับ และอาจเป็นอันตรายต่อทั้งตัวแม่ท้อง รวมไปถึงลูกในครรภ์ได้
5. หากแม่ท้องตื่นมากลางดึกและพบว่านอนหงาย ไม่ต้องตกใจหรือกังวล เพราะเป็นกลไกการเปลี่ยนท่านอนตามธรรมชาติ เมื่อเริ่มไม่สบายตัวร่างกายจะตื่นขึ้นมาเองเพื่อให้เรานอนเปลี่ยนท่าที่สบายขึ้นนั่นเอง