โดยเฉพาะปัจจุบันที่ทุกคนต่างก็หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น นมจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่รักในการดูแลสุขภาพ
และในปัจจุบันประเภทของนมพร้อมดื่มที่วางขายทั่วไปก็เริ่มมีความหลากหลายมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคอนมทุกคน ซึ่งอีกหนึ่งนมทางเลือกที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่ออยู่บ้างแต่ยังไม่ค่อยเข้าใจถึงความแตกต่าง นั่นก็คือ “นมแลคโตสฟรี” โดยบทความในวันนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับนมแลคโตสฟรี รวมไปถึง ประโยชน์ ความแตกต่าง และ ใครบ้างที่ควรเลือกดื่มนมแลคโตสฟรี
สำหรับใครที่อาจจะยังไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับนมชนิดนี้ นมแลคโตสฟรี คือ นมวัวที่ปราศจากน้ำตาลแลคโตส ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีภาวะการย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง (Lactose Intolerance) ที่เป็นสาเหตุของอาการ ท้องเสีย ท้องอืด ท้องเฟ้อ หลังจากการดื่มนมทั่วไป ที่สำคัญนมแลคโตสฟรียังสามารถคงไว้ซึ่งคุณค่าของสารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์ที่ต่อร่างกาย อาทิ วิตามิน และ แคลเซียม ไว้ได้อย่างครบถ้วนเช่นเดียวกันกับนมวัวทั่วไป ทำให้คนที่มีภาวะการย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่องสามารถดื่มนมได้แบบไร้กังวล
น้ำตาลแลคโตส เป็นน้ำตาลธรรมชาติที่สามารถพบได้ในน้ำนมของสัตว์ อย่าง นมวัว รวมถึง ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต ชีส และ ไอศครีม เป็นต้น โดยในการย่อยน้ำตาลแลคโตสร่างกายต้องการเอนไซม์ธรรมชาติที่ชื่อว่า เอนไซม์แลคเตส ในการย่อยน้ำตาลแลคโตสให้เปลี่ยนเป็น น้ำตาลกลูโคส และ น้ำตาลกาแลคโตส ซึ่งในกรณีที่ร่างกายบางคนไม่สามารถผลิตเอนไซม์แลคเตสออกมาได้เพียงพอ ร่างกายก็จะไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสได้อย่างที่ควร ซึ่งสามารถนำไปสู่ ภาวะการย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง (Lactose Intolerance)
แน่นอนว่าคนที่ควรเลือกดื่มนมแลคโตสฟรี คือ กลุ่มคนที่มีภาวะการย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง (Lactose Intolerance) ซึ่งอาการทั่วไปของภาวะการย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง ได้แก่ ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง ท้องร้อง รวมถึง อาการคลื่นไส้ และ อาเจียน ในบางกรณี หลังจากดื่มนม หรือ ผลิตภัณฑ์จากนม แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ไม่สามารถดื่มนมได้ จากภาวะการย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง อาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารสำคัญอย่างแคลเซียมและวิตามินไม่เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ นมแลคโตสฟรีจึงเป็นอีกตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
และปัจจุบันมีคนเอเชียจำนวนมากที่มีภาวะการย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง เป็นสาเหตุให้นมแลคโตสฟรีเริ่มได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น เปิดโอกาสให้คนที่มีภาวะการย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่องได้มีตัวเลือกใหม่ในการดื่มนมได้อย่างสบายท้อง