Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

เทคนิคทำให้สมองไม่ล้า ไม่เบลอ ไม่เหนื่อยระหว่างวันแบบคนญี่ปุ่น

Posted By Plook Magazine | 24 ม.ค. 65
8,620 Views

  Favorite

เรามีเคล็ดลับที่จะทำให้สมองไม่ล้าหรือรู้สึกหมดไฟระหว่างวันมาฝากกันค่ะ ซึ่งเป็นเคล็ดลับของคุณหมอชาวญี่ปุ่น การันตีความเวิร์กเพราะคนญี่ปุ่นถือเป็นชาติที่ขึ้นชื่อว่าทำงานหนักและเป็นประเทศที่รวยเคล็ดลับ มาดูกันเลยว่าจะมีเคล็ดลับอะไรบ้างที่จะช่วยฟิตสมองให้เฟรชเรียนทั้งวันก็ไม่เบลอ ! 

 

 

Cr.freepik

 

เคล็ดลับฝึกให้สมองไม่ล้าหรือมีอาการ Brunout หมดไฟ เป็นเคล็ดลับที่ได้มาจากคุณอิชิกาวะ โยชิกิ คุณหมอนักวิจัยสาขาเวชศาสตร์ป้องกันชาวญี่ปุ่น โดยคุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมศาสตร์(Behavioral Sciences) การสื่อสารสุขภาพและการวิเคราะห์ทางสถิติ ซึ่งคุณหมอได้พัฒนาเคล็ดลับเหล่านี้มาจากการเดินทางไปอบรมสุขภาพให้กับพนักงานบริษัทชาวญี่ปุ่นทั่วประเทศและเล็งเห็นว่าแต่ละคนมีปัญหาเรื่องสมองล้า คือมาทำงานแต่เช้าฟิต ๆ พร้อมลุย แต่พอตกบ่ายมาก็เหนื่อยง่ายยังไม่ทันพ้นวันเลยก็รู้สึกหมดพลังซะแล้ว จึงหาวิธีแก้ให้พนักงานบริษัทและได้ออกมาเป็นเคล็ดลับที่จะทำให้สมองยังกระปรี้กระเปร่าและไม่เหนื่อยล้า 7 วิธีดังนี้  

 

 

7 ทริคเด็ดช่วยให้สมองไม่ล้า

 

Cr.freepik/senivpetro

 

ทำอาหารคือกิจกรรมที่สมองชอบ

การทำอาหารไม่ได้ช่วยแค่ให้เราอิ่มท้อง แต่ยังเป็นวิธีรีเฟรชการทำงานของสมองส่วนหน้า หรือ EF  (Executive Functions) เพราะการทำอาหารต้องการความสามารถในการจัดการ การจัดลำดับความสำคัญ การโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า การแก้ปัญหา การใช้ความจำและการทำหลายอย่างไปพร้อมกัน ดังนั้นหากใครที่ยังต้องเรียนออนไลน์หรือทำงานที่บ้านอยู่ก็อาจใช้การทำอาหารเป็นกิจกรรมรีเฟรชที่อาจไม่ต้องทำทุกวัน แต่ถ้าวันไหนช่วงบ่ายต้องลุยศึกหนัก การทำอาหารจะช่วยให้สมองเรากระปรี้กระเปร่าทั้งวันแน่นอน

 

 

3 สิ่งที่ควรทำตอนเช้าช่วยให้สมองไม่ล้า

มี 3 สิ่งที่จะทำให้เรากลับมาสดชื่นได้ง่าย ๆ ก็คือออกไปรับแสงแดด กินโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตตั้งแต่เช้า 3 สิ่งนี้คือตัวเพิ่มพลังให้เช้าวันใหม่ที่สดใสและทำให้พลังของเราสามารถอยู่ได้ทั้งวัน ตื่นเช้ามารับแสงแดดบ้างสัก 5 นาที กินโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตดีอย่างขนมปังโฮลวีททาเนยถั่ว แซนด์วิชอกไก่ทูน่า หรือไข่ต้ม โจ๊กไข่ดาว ไข่กระทะ คู่กับนมหรือน้ำเต้าหู้หวานน้อย เป็นต้น 

 

 

Cr.freepik/yanalya

 

แขม่วท้องรักษาท่าทางส่งเสริมให้สมองฟิต

การแขม่วท้องเป็นเคล็ดลับของการจัดร่างกายเพื่อไม่ให้สมองล้า ซึ่งการจัดร่างกายขณะที่เรียนหนังสือหรือทำงานให้ดีจะมีส่วนทำให้สมองไม่เหนื่อยล้า หากเรานั่งหลังค่อม คอตกท่าทางเหล่านี้จะทำให้สมองเราเหนื่อยง่าย สมองจะไม่ถูกกระตุ้นให้ฟิต ลองปรับท่าทางโดยให้เราลองฝึกแขม่วท้องค้างไว้ 10–30 วินาทีเพื่อให้เรายืดอกหลังตรงพร้อมทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ โดยคุณหมอได้แนะนำอีกด้วยว่าถ้าไม่อยากสมองล้าเวลาอ่านหนังสือให้ลองยืนอ่านดู  

 

 

ล้างมือช่วยเพิ่มไอเดียสร้างสรรค์สิ่งใหม่

หากเราอยากออกจากความรู้สึกไม่ productive เพื่อที่จะได้เริ่มต้นกับสิ่งใหม่ ๆ แนะนำให้ไปล้างมือเพราะมีการค้นพบว่าการล้างมือสามารถช่วยให้เราเคลียร์สมองให้โล่งได้เหมือนกับที่เราได้ล้างเชื้อโรคสิ่งสกปรกที่ติดมือเราออกไป ช่วยให้สมองของเราได้เริ่มต้นใหม่ ทิ้งไอเดียเก่า ๆ พร้อมที่จะรับไอเดียใหม่ ๆ โดยเฉพาะเมื่อเราไม่มั่นใจว่าตัดสินใจแบบนี้ดีไหมและอยากคิดดูใหม่ก็ให้เดินไปล้างมือ

 

 

Cr.freepik/pressfoto

 

คุมน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูง = สมองไม่เหนื่อยง่าย  

รักษาระดับน้ำตาลในเลือดก็เป็นเทคนิคที่ทำให้สมองไม่เหนื่อยล้า เพราะระดับน้ำตาลในเลือดส่งผลต่อการทำงานของสมองให้ฟิตหรือไม่ฟิตได้ เช่น เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำจะส่งผลทำให้ประสิทธิภาพของสมองลดลง เหนื่อยง่าย แต่ถ้าน้ำตาลในเลือดสูงเกินไปก็อาจเสี่ยงต่อโรคกลุ่ม NCDs ดังนั้นควรรักษาระดับน้ำตาลให้เหมาะสมด้วยการกินอาหาร Low GI ที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่มีปริมาณของไฟเบอร์สูง เช่น ผักผลไม้ ธัญพืช ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ พืชตระกูลถั่ว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ กินข้าวให้ครบทุกมื้อและตรงเวลา ไม่ดื่มน้ำหวานจัด เน้นดื่มน้ำเปล่าเป็นหลัก และกินผลไม้หวานน้อยหรือชาไม่มีน้ำตาลแทนขนม

 

 

ฝึกสมาธิด้วยการจดจ่อหรือสังเกต

สำหรับใครที่ไม่สามารถนั่งสมาธิทีเดียวได้นาน ๆ เป็น 30 นาที เคล็ดลับของคุณหมอคือให้เราทำสมาธิด้วยการสังเกตหรือจดจ่อครั้งละ 5 นาทีหลังทำกิจกรรมต่าง ๆ การทำสมาธิแบบสังเกตคือการสังเกตตัวเองว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่ การทำสมาธิแบบจดจ่อคือการจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียว การทำสมาธิแบบจดจ่อจะช่วยให้สมองส่วนหน้าตื่นตัว ช่วยให้เราจำเก่ง ไม่หลุดโฟกัส ตัดสินใจได้ดี ส่วนการทำสมาธิแบบสังเกตจะช่วยให้เราปล่อยวางได้ง่ายขึ้น พร้อมสำหรับสิ่งใหม่โดยไม่ถูกความคิดแง่ลบใด ๆ มาขัดขวาง 

 

 

Cr.freepik

 

นอนให้เต็มที่แล้วสมองจะแฮปปี้ทั้งวัน 

พูดง่าย ๆ เลยคือคนเราไม่ควรนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมง เพราะสมองไม่ชอบ คนที่อดนอน นอนน้อยสมองจะเสื่อมสภาพเร็วกว่าคนที่นอนมากกว่า 6 ชั่วโมง ในอนาคตคนที่นอนน้อยจะมีปัญหาในการนอน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องส่งผลให้สมองทำงานไม่เต็มที่ คิดไอเดียใหม่ ๆ ได้ยาก ลองปรับตัวให้นอนให้พอ นอนให้ได้วันละ 6 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ ไม่นอนตื่นสายในวันหยุดเพราะจะทำให้ Biological Clock หรือนาฬิกาชีวภาพทำงานผิดเพี้ยนไปได้ 


 

บทความที่เกี่ยวข้อง

เทคนิคเพิ่มพลังสมองตั้งแต่ตื่นนอน ช่วยปลุกให้ร่างกายสดชื่นตลอดทั้งวัน

นอนยังไง กินอะไร เพื่อให้ร่างกายหายเหนื่อยล้า และรู้สึกสดชื่นตลอดเวลา

รวมเทคนิคสร้างแรงกระตุ้น ช่วยบริหารสมองซีกซ้ายและซีกขวาให้สมดุลกัน

10 วิธีออกกำลังสมองให้ฉลาดขึ้น ด้วยวิธี ‘Neurobic exercise’’

HOW TO พักผ่อนสมองให้ความจำดีด้วยวิธี Mindfulness

3 วิธี ‘ฝึกสมาธิ’ เรียกคืนสติในทุกสถานการณ์

พลังเเห่ง ‘เมื่อไหร่’ ศาสตร์ที่จะบอกว่าทำอะไรเมื่อไหร่สมองจะดี สุขภาพแข็งแรง

6 วิธีพัฒนาทักษะสมอง EF ในวัยรุ่นให้เก่งและดี เอาตัวรอดได้

รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสมองที่จะช่วยให้เราฉลาดขึ้น !

เทคนิคผ่อนคลายร่างกายก่อนนอน ช่วยให้หลับง่าย หลับได้ลึกขึ้น

เข้าใจสมองต่อ 'การคิดมาก' แล้วจะเลิกเป็นคนคิดมากได้ดีขึ้น

อย่านั่งหลังงอ ! ประโยชน์ของการจัดท่าให้สง่าที่เราไม่เคยรู้มาก่อน


 

แหล่งข้อมูล 

- อิชิกาวะ โยชิกิ. (2562). ฝึกสมองให้สมองไม่เหนื่อย. แปลจาก Tsukarenai Nou wo Tsukuru Seikatsu Shuukan. แปลโดยกัลปพฤกษ์ คงศัตรา. กรุงเทพฯ: วีเลิร์น

- Study Suggests Hand Washing Cleanses The Mind 

- Cooking for Cognition: Why Making a Meal Is Good for Your Brain 

 
 
เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Magazine
  • 3 Followers
  • Follow