ความเปลี่ยนแปลง ความไม่แน่นอนในชีวิต คือเรื่องปกติธรรมดาที่มนุษย์ทุกคนต้องเจอ แต่เราจะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงยังไงคือคีย์หลักที่คนเราควรเรียนรู้ไว้ เพราะเราไม่สามารถแพลนได้ล่วงหน้าเลยว่ามันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงกับชีวิตเราในตอนไหน การเรียนรู้ที่รับมือกับมันจึงจำเป็น Plook Friends เลยอยากมาแชร์ 6 วิธีรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ 

ยอมรับกับการเปลี่ยนแปลง

การเข้าใจและยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จะทำให้เรามูฟออนไปได้เร็วขึ้น หากวันนี้เราเจอการเปลี่ยนแปลงที่มันทำให้เรารู้สึกแย่ ก็อยากให้รู้ไว้ว่าช่วงเวลาแย่ ๆ มันจะไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป เช่นเดียวกับช่วงเวลาดี ๆ ที่สุดแสนจะแฮปปี้เหมือนกัน ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้แหละ เราต้องทำความเข้าใจและยอมรับมันให้ได้ 

คาดหวังตามความเป็นจริง

การคาดหวังที่เพอร์เฟคเกินไป เมื่อผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามหวัง เราก็อาจจะผิดหวังมาก ๆ รวมถึงการที่เรา fix ความคาดหวังเอาไว้ล่วงหน้า มันก็จะส่งผลให้เราไม่ยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เลย แต่ถ้าเราปรับเปลี่ยนความคาดหวังให้เป็นการคาดหวังที่สมเหตุสมผล การคาดหวังแบบตามความเป็นจริงและยืดหยุ่นได้ เมื่อเจอกับความเปลี่ยนแปลง เราก็จะพร้อมรับมือกับมันได้ดีขึ้น 

อยู่กับปัจจุบัน

การเอาแต่จมอยู่กับอดีตหรือกังวลกับอนาคตก็จะทำให้เราไม่มีความสุข เราสามารถอยู่กับปัจจุบันได้ด้วยการฝึกสมาธิ โดยสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยการนั่งบนเก้าอี้สบาย ๆ จ้องไปที่พื้นหรือกำแพงที่ห่างจากเราประมาณ 1-2 เมตร และค่อย ๆ หายใจเข้าออกลึก ๆ การนั่งและจดจ่อไปที่สภาพแวดล้อมรอบข้างจะทำให้เรามีสมาธิและเข้าใจถึงการอยู่กับปัจจุบันได้มากขึ้น

เพิ่มทัศนคติเชิงบวก

การมีมายเซ็ตที่ดี มีความคิดแง่บวกจะช่วยให้เรามองชีวิตและสถานการณ์ต่าง ๆ ในแง่ดีมากขึ้น เมื่อเจอเรื่องแย่ ๆ หรือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ชอบใจ เราก็จะมองมันว่าเป็นความท้าทายที่เราสามารถทำได้ เพราะฉะนั้นการมีทัศนคติที่ดีมันช่วยให้เราก้าวข้ามความเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขึ้น รวมถึงยังส่งผลต่อสุขภาพจิตใจของเราอีกด้วย

การเปลี่ยนมุมมองช่วยได้

เวลาที่เจอการเปลี่ยนแปลง เราควรสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วตั้งสติ สำรวจก่อนว่ามันจะกระทบเรื่องอะไรบ้างในชีวิต และให้ค่อย ๆ หาวิธีแก้ไขมันไปทีละเรื่อง หากคิดไม่ตก ก้าวออกจากความเครียดไม่ได้ การเปลี่ยนมุมมองหรือพลิกวิธีคิดแบบนอกกรอบก็อาจจะช่วยให้เราก้าวผ่านสถานการณ์หรือช่วงเวลาแย่ ๆ ไปได้ อาจจะลองคิดว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับคนทีี่เรารัก คนในครอบครัว หรือเพื่อนสนิท เราจะแนะนำให้เขารับมือยังไง ซึ่งมันจะช่วยกำจัดความคิดเชิงลบและเพิ่มกำลังใจให้เราได้

ขอความช่วยเหลือคนอื่นบ้าง

การเปลี่ยนแปลงบางเรื่องก็อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตเรามาก ๆ หากรู้สึกมืดบอด ไร้หนทาง หรือเหนื่อยเกินไป การขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างหรือผู้เชี่ยวชาญคือช้อยส์ที่ดี การขอให้คนอื่นช่วยไม่ได้หมายความว่าเราอ่อนแอ เพราะมันคือเรื่องปกติ ก็เหมือนเวลาที่เพื่อนมาขอคำปรึกษาหรือความช่วยเหลือจากเรานั่นแหละ ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืน ขอความช่วยเหลือคนอื่นเลยจะดีที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

• เข้าใจสมองต่อ 'การคิดมาก' แล้วจะเลิกเป็นคนคิดมากได้ดีขึ้น

• ความลำเอียง 6 แบบที่ทำให้เราตัดสินใจพลาด

• วิธีรับมือกับความเจ็บปวดและความเครียด เมื่ออารมณ์ดำดิ่งจนเกินรับไหว

• เมื่อสิ่งที่คิดไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ เราจะรับมือกับความผิดหวังยังไงดี

• 30 วิธีเพิ่มความบันเทิงให้ตัวเอง ในช่วงที่รู้สึกสิ้นหวังและหดหู่มาก ๆ

• 9 วิธีเพิ่มความเข้มแข็งให้ตัวเอง ไม่หวั่นไหวแม้เจอเรื่องยาก ๆ

• 5 วิธีเปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่เจ๋งกว่าเดิม

• วิธีเยียวยาใจตัวเอง เมื่อโดนปฏิเสธบ่อย ๆ

• หลักการคิดแก้ปัญหา 3 แบบ รู้ไว้คิดอะไรก็ไม่มีตัน

• วิธีลดความกดดันในตัวเอง เมื่อคนรอบข้างคาดหวังมากเกินไป

• คิดบวกมากไปก็ไม่ดีนะ เข้าใจความน่ากลัวของ Toxic Positivity

• ปลุกจิตให้ตื่น ไม่เครียดกับอนาคตมากไปจนใจป่วยในโลกยุค Disruption

• เคล็ดลับที่จะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนชอบลงมือทำจาก Stanford

• 6 วิธีพัฒนาทักษะสมอง EF ในวัยรุ่นให้เก่งและดี เอาตัวรอดได้

แหล่งข้อมูล

- Stress Management

- Optimism and your health

- Therapists Spill: 14 Ways to Get Through Tough Times