4,308 Views
Favorite
New Normal ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของเราอย่างมากมาย และหนึ่งในนั้นคือการ “เรียนออนไลน์” การเรียนออนไลน์มีข้อดีหลายอย่าง เช่น เรียนที่บ้านได้ แต่งกายตามความสะดวก ทบทวนความรู้ซ้ำได้ ประหยัดเวลาในการเดินทาง ไม่ต้องเสี่ยงกับโควิด-19 ฯลฯ
แต่จากการที่เด็ก ๆ ต้องนั่งเรียนออนไลน์กันทุกวิชาทั้งวัน อาจทำให้พวกเขาเบื่อหน่ายในอิริยาบถที่ต้องนั่งเฝ้าจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ตลอดเวลา โดยไม่มีการผ่อนคลายด้วยกิจกรรมอื่น ต่างจากการไปเรียนที่โรงเรียนทำให้เด็ก ๆ ได้พูดคุยหยอกล้อเมาธ์มอยกับเพื่อนฝูง แซวคนโน้นแหย่คนนี้ ได้เดินเล่นนั่งเล่นกับเพื่อน ๆ ระหว่างเวลาพัก ได้ออกกำลังกายด้วยการเดินหรือเล่นกีฬา ได้อ่านหนังสือเล่มโปรดหลากหลายในห้องสมุด ได้พูดคุยปรึกษาหารือกับคุณครูหรือเพื่อน ๆ ตัวเป็น ๆ มิใช่การนั่งพิมพ์ข้อความกันยืดยาวในโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์
นอกจากนี้การนั่งอยู่หน้าจอนาน ๆ ทำให้เสี่ยงกับอาการออฟฟิศซินโดรมได้ไม่แตกต่างจากผู้ใหญ่ คือปวดหัวอย่างหนัก อาเจียน ปวดเมื่อยเนื้อตัว มีผลกระทบต่อสายตา และน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นวันนี้เรามาชวนลูกของเราให้แปลงร่างเป็นเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรง เพื่อให้พวกเขาพร้อมรับมือกับการเรียนออนไลน์กันนะคะ
ทางแก้อาการเหล่านี้ไม่ยากเลย อยู่ที่เพียงแค่เรามีความตั้งใจจริง มีวินัย และลงมือปฏิบัติให้เป็นกิจวัตรประจำวัน นั่นคือการออกกำลังกาย ผลดีของการออกกำลังกายคือทำให้จิตใจเบิกบานแจ่มใส ร่างกายแข็งแรง เจริญเติบโตตามวัย เพิ่มภูมิต้านทาน มีสมาธิในการเรียนดีขึ้น เป็นยาวิเศษบำรุงรักษาสุขภาพ ช่วยให้เด็กมีพัฒนาการทางสมองที่ดี คุณพ่อคุณแม่ควรสร้างสิ่งนี้ให้กลายเป็นกติกาของบ้าน ออกกำลังกายเป็นประจำตามเวลาที่ครอบครัวตกลงร่วมกัน จะเล่นด้วยกัน หรือแยกกันเล่นก็ได้ แต่ขอให้ทุกคนให้ความสำคัญและถือเป็นวินัยอย่างหนี่งของครอบครัว
การเป็นพลเมืองที่อยู่บนฐานความสุข ถือเป็นสิ่งสำคัญของคุณภาพประชากร เราในฐานะพ่อแม่ผู้ปกครองจึงต้องดูแลลูกหลานให้มีสุขภาพกายใจสมบูรณ์แข็งแรง เป็นพลังบวกที่ช่วยทำคุณประโยชน์ให้แก่ตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติได้ เราอาจเติมความรู้ด้วยการชวนคุยเรื่องวิถีชีวิตใหม่ การปรับเปลี่ยนการดำรงชีวิต และการเรียนในสถานการณ์ปัจจุบัน การดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย และอีกหลาย ๆ เรื่องที่เป็นประโยชน์แก่ตัวเด็ก โดยให้คุณค่าให้ความสำคัญกับคำว่า “ความสุข” ไม่ใช่การบังคับสั่งสอน เด็ก ๆ จะได้เรียนหนังสือกันอย่างมีความสุข สนุกสนาน และเพลิดเพลิน มีการมองโลกตามความเป็นจริงในมุมมองที่จรรโลงและสร้างสรรค์ชีวิต
การจู่โจมบังคับลูกแปลงร่างให้กลายเป็นเด็กอนามัยรักสุขภาพอาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีนัก เพราะเด็กอาจดื้อและต่อต้านได้ ดังนั้นจึงควรค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการพูดคุยให้ความรู้เรื่องประโยชน์ของการออกกำลังกาย ถามความคิดเห็นว่าการออกกำลังกายประเภทไหนที่ลูกชอบ ยิ่งปัจจุบันนี้มีสื่อมากมายในโลกออนไลน์ รวมถึงแอปพลิเคชันที่จะช่วยทำให้การออกกำลังกายของครอบครัวง่ายและสนุกสนานขึ้น หรือแม้แต่การร้องเพลงต่าง ๆ ของนักร้องทั้งไทยและเทศที่ลูกชื่นชอบก็มีท่าเต้นประกอบเพลงน่ารัก ๆ เยอะมาก คุณพ่อคุณแม่นำมาทำเป็นการออกกำลังกายได้เลย ชวนลูกให้ทำทุกวัน มันไปด้วยกันทั้งครอบครัว
คุณพ่อคุณแม่สามารถเป็นไอดอลชวนให้ลูกแปลงร่างได้ และตัวของเราเองก็ต้องแปลงร่างตัวเองได้เช่นกัน การสั่งสอนว่าสิ่งใดดีสิ่งใดไม่ดีด้วยคำพูด มีค่าน้อยกว่าการทำให้ลูกเห็นว่า อะไรดีหรือไม่ดีผ่านการกระทำ การออกกำลังกายด้วยกันทำให้ครอบครัวผูกพัน มีความรักความสุขจากการได้อยู่ใกล้ชิดกัน ทำกิจกรรมสนุก ๆ ด้วยกัน เมื่อคุณลูกสุขภาพกายใจสมบูรณ์แข็งแรงก็จะพร้อมรับการเรียนออนไลน์ ไม่เบื่อ ไม่เซ็ง ไม่เหนื่อย ไม่ท้อ ไม่ง่วงง่าย เพราะพลังใจเข้มแข็ง ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ง่าย คุณพ่อคุณแม่ก็รูปร่างดี สุขภาพแข็งแรง ทำงาน work from home อย่างมีความสุข อะไรจะเริ่ดไปกว่านี้!? และถ้าทั้งครอบครัวสามารถแปลงร่างด้วยการออกกำลังกาย จนกลายเป็นคนสุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพจิตแข็งแกร่งได้ นี่คือผลลัพธ์ที่เป็นความภูมิใจร่วมกัน
สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ ต้องลองทำดูค่ะ
ณัณท์
