Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ธรรมโอสถ ยาคลายโศก วัคซีนรักษาโรคทุกข์ใจ : รวมพุทธวิธี ทำให้หายเศร้า เมื่อต้องสูญเสียครั้งใหญ่

Posted By มหัทธโน | 03 มิ.ย. 64
5,642 Views

  Favorite

การพบกันเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความพลัดพราก เมื่อวันเวลาที่ต้องพลัดพรากจากบุคคลหรือสิ่งอันเป็นที่รักได้มาถึง เมื่อนั้นความเศร้าโศกเสียใจก็บังเกิดขึ้น นี้เป็นความจริงที่ขมขื่นและปวดร้าว ที่คนเราต้องประสบอย่างแน่นอน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ หากใจขาดสติ ขาดภูมิคุ้มกันทางใจที่เข้มแข็ง ก็อาจเสียสติ บ้า หรือหมองหม่น ซึมเศร้า ชีวิตไร้อนาคต หรืออาจถึงขั้นฆ่าตัวตายก็เป็นได้
 

สำหรับชาวพุทธแล้ว จะมีหนทางทางพุทธศาสนา คำสอนของพระพุทธเจ้าที่ใช้ปฏิบ้ัติฝึกฝน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันความทุกข์ใจ ช่วยให้ใจเข้มแข็ง พร้อมกล้าที่จะเผชิญความทุกข์ ความพลัดพรากจากของรัก และ Move on เดินหน้าต่อไป อย่างมีจุดหมาย 

เราจึงได้รวมพุทธวิธี อันเป็นดั่ง ธรรมโอสถ ยาคลายโศก เป็นวัคซีนต้านทุกข์ใจ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันรักษาโรคทุกข์ใจ มาไว้ที่นีี่แล้วส่วนหนึ่ง

 

แม้แต่พระพุทธองค์ยังเลี่ยงสัจธรรมไม่ได้

ที่มา : ทรูปลูกปัญญา

 

วันอัฏฐมีบูชา เป็นวันถวายพระเพลิงพระสรีระขององค์พระศาสดา ถือว่าเป็นวันบูชาพระสรีระของพุทธเจ้าหลังจากพระเพลิงไหม้แล้ว เกิดขึ้นหลังจากเสด็จพระปรินิพพานไปแล้ว 8 วัน

โดยทรงแสดงสัจธรรมสุดท้าย ว่า แม้แต่องค์ศาสดาผู้ยิ่งใหญ่ ยังมิสามารถหลีกพ้นกฏไตรลักษณ์  อนิจจจัง ทุกขัง อนัตตา แล้วชาวพุทธธรรมดา ๆ อย่างพวกเรา จะหลีกพ้นได้อย่างไร

 

จึงทำให้พุทธศาสนิกชนได้ระลึกสังเวช และตั้งอยู่ในความไม่ ประมาท ด้วยเข้าใจถึงหลักของไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อันจะก่อให้เกิดปัญญาเข้าใจหลักธรรมชาติ และนำสู่หลักการปล่อยวางจากความยึดมั่นถือมั่น 

 

รวมพุทธวิธีคลายโศก

ค้นหาเหตุแห่งทุกข์และปล่อยวาง ยอมรับความจริงแห่งธรรมชาติ

พระพุทธศาสนาเป็นพุทธวิธีที่เป็นยารักษาโรคทางใจได้ดีที่สุด เพราะสอนให้รู้จักทุกข์ ให้เรียนรู้ และเข้าใจในทุกข์ โดยหาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ และหนทางแห่งการดับทุกข์

 

ฝึกสติ อยู่กับปัจจุบัน

ด้วยการกลับไปแก้ตรงเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์นั้น และทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น รู้จักที่จะวางใจกับเรื่องที่ต้องประสบในแต่ละวันของชีวิต ด้วยการฝึกให้มีสติอยู่กับปัจจุบันเพื่อเสริมสร้างเป็นความคิดที่ดี คำพูดที่ถูกต้อง และการกระทำที่เหมาะสม

 

สมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน

มองเห็นธรรมชาติของชีวิต นำสู่การปล่อยวาง ยอมรับความเป็นจริง ที่ไม่ได้เกิดแค่กับเราคนเดียว

พุทธศาสนา มุ่งเน้นการมีสติรู้เท่าทันกับปัจจุบันมากขึ้น และเมื่อใจมีกำลังสติ จากสมาธิที่ฝึกฝน ทำให้บรรเทาความทุกข์ใจ ไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน บำบัดจิตใจของคนให้คลายจากทุกข์ เพราะเข้าใจในธรรมชาติของชีวิตที่เห็นการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปของสรรพสิ่งทั้งหลาย

 

สมถกรรมฐาน

นักปฏิบัติ จะปฏิบัติทำสมาธิ ให้ใจมีความสงบไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยการปฏิบัติสมถกรรมฐาน มีสติปัฏฐาน 4 นั่งนอนยืนเดิน จะมีสติ มีคำบริกรรมกำกับเสมอ เช่น พุทโธ หรือ ยุบหนอ พองหนอ หรือ อื่น ๆ ตามแต่จริตที่ชอบใจ

ผลก็คือ การได้ฝึกจิตให้มีความสงบเพื่อเป็นการลดจากความคิดฟุ้งซ่านและลดอารมณ์ความเศร้าโศกเสียใจต่างๆ ที่ท าให้เกิดทุกข์

 

ที่มา : Shutterstock

 

วิปัสสนากรรมฐาน

มองทุกสิ่ง ด้วยใจที่มีสติ สงบ จนก่อเกิดปัญญา เมื่อเกิดปัญญา ก็จะเริ่มมองเห็นความจริง ของธรรมชาติที่ทุกคนต้องประสพพบเจอตลอดเวลา ก็คือ

อนิจจัง - ไม่เที่ยง

ทุกขัง - เป็นทุกข์

อนัตตา - ไม่มีตัวตน ไม่ใช่ตัวเรา บังคับไม่ได้


ทำให้ได้ฝึกใจให้เกิดปัญญาเห็นความจริง และการคลายความยึดถือ มายอมรับความจริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันน ามาปรับใช้ให้เข้ากับการดำเนินชีวิตประจำวันได้ดังนั้น

 

มรณานุสติ การพิจารณาความตาย สิ่งที่พระพุทธองค์พึงให้พิจารณาตลอดเวลา

ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าทรงถามพระอานนท์ว่า พิจารณาความตายวันละกี่ครั้ง

พระอานนท์กล่าวว่า นับร้อยครั้ง

พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า น้อยไป ท่านระลึกถึงความตายทุกขณะจิต เพราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าความตายจะมาถึงเราเมื่อไหร่

 

สิ่งที่พระพุทธเจ้า ให้หมั่นพิจารณาบ่อย ๆ ได้แก่

ชราธัมโมมหิ ชะรัง อะนะติโต
เรามีความแก่เป็นธรรมดา จะล่วงพ้นความแก่ไปไม่ได้
 
พะยาธิธัมโมมหิ พะยาธิง อะนะตีโต
เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา จะล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปไม่ได้
 
มะระณะธัมโมมหิ มะระณัง อะนะตีโต
เรามีความตายเป็นธรรมดา จะล่วงพ้นความตายไปไม่ได้
 
สัพเพหิ เม ปิเยหิ มะนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว
เราจักพลัดพรากจากของที่รัก ของชอบใจทั้งหลาย
 
กัมมัสสะโกมหิ กัมมะทายาโท
เรามีกรรมเป็นของๆตน เราจักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น

 

ที่มา : Shutterstock

 

ธรรมโอสถ ยาคลายโศก วัคซีนรักษาโรคทางใจ

ธรรมโอสถ เป็นยาขนานเอก ที่สามารถระวับ คลายความยึดมั่นถือมั่น อันเป็นพิษของความโศก โดยมุ่งเตือนสติให้ยอมรับความจริง ความจริงที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนให้ทุกคนพิจารณาเนืองๆ มี ๕ ประการ คือ ความแก่ ความเจ็บไข้ ความตาย การพลัดพรากจากของรักของเจริญใจ และหลีกหนีจากกรรมไม่พ้น

อันเป็นความจริงเหล่านี้เกิดขึ้นกับทุกคน ไม่ใช่เกิดขึ้นกับเราเพียงคนเดียว  ไม่ว่าจะยอมรับได้หรือไม่ได้ก็ตาม 

 

แต่ผู้ที่รับรู้และยอมรับความจริงเหล่านี้ ได้ดีขึ้น ความโศกจะลดลงมากขึ้น 

ยิ่งพิจารณาความจริงเหล่านี้บ่อยเพียงไร จิตก็จะมีภูมิคุ้มกันต่อความโศกมากขึ้นเพียงนั้น

 

ดังนั้น พระพุทธเจ้าจึงตรัสสอนให้ทุกคน ไม่ว่า บุรุษ สตรี ชาวบ้านหรือนักบวช ให้พิจารณาบ่อยๆ ผู้ที่ยอมรับความจริง เหล่านี้ จึงจะทุกข์โศกน้อยลง หรือไม่ทุกข์โศกเลย เมื่อเผชิญกับเรื่องที่น่าทุกข์โศก

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • มหัทธโน
  • 4 Followers
  • Follow