ร่วมด้วยอีกสองผู้บริหารมากความสามารถ มหิธร พงษารัตน์ และ พิธาน องค์โฆษิต ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง
โดยในวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ดา เอ็นโดรฟิน ได้ปล่อยซิงเกิ้ลแรกที่จะมาปลุกกระแสเพลงป๊อป-แร็ป ให้กลายเป็นที่นิยม ในเพลงที่ชื่อว่า “ถ้าเธอ OK” ซึ่งได้แฟนหนุ่ม “ไทยคูน” มาร่วมฟีเจอริง (Featuring) โชว์เสียงร้องด้วย
โดยสาวดาเผยว่าการได้ร่วมงานกับค่าย “28 Recording Label” นับเป็นก้าวใหม่ที่ทำให้เธอได้เติบโตขึ้น และไม่รู้สึกกดดันกับการย้ายค่ายแม้แต่น้อย
“การที่เราได้มาร่วมงานกับค่ายนี้ เกิดจากเรากับผู้บริหารรู้จักคุ้นเคยกันอยู่แล้ว และเป็นช่วงที่เราอยากทำอะไรใหม่ ๆ อยากทำเพลงที่สะท้อนถึงตัวตนเรามากขึ้น ซึ่งที่นี่เขาเปิดโอกาสให้เราได้ดูแลเรื่องเพลง เรื่องดนตรีเอง รวมไปถึงภาพลักษณ์ของเราด้วย โดยการย้ายค่ายครั้งนี้เราไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรเลย เพราะมองว่ามันก็เป็นเหมือนการเดินทางครั้งใหม่ ที่เราจะได้เติบโตขึ้นจากเดิม ได้ทำเพลงในแง่มุมที่แตกต่างออกไป และที่สำคัญเราเชื่อว่าความสำเร็จของศิลปินมันอยู่ที่คุณภาพของผลงาน ถ้าเรายังคงคุณภาพในการทำเพลงให้น่าฟัง แม้เราจะอยากนำเสนอสิ่งใหม่ แต่ก็ต้องผสมผสานสิ่งที่แฟนเพลงชอบลงไปด้วย เขาก็จะยังให้การตอบรับเราอย่างแน่นอน เราว่าถ้าผลงานดี ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทุกคนก็สามารถเข้าถึงได้ และที่สำคัญการที่ศิลปินคนหนึ่งจะยืนหยัดอยู่ในยุคนี้ได้ นอกจากคุณภาพของการทำเพลงแล้ว การเล่นสดก็สำคัญมากเหมือนกัน มันเป็นการที่ทำให้คนที่ชื่นชอบเพลงเรา เข้ามาเป็นแฟนคลับเราได้เหนียวแน่นมากขึ้น”
สำหรับผลงานเพลงใหม่ “ถ้าเธอ OK” ของนักร้องสาวผู้มีเสียงอันเป็นเอกลักษณ์คนนี้ เป็นการผสมผสานแนวดนตรี ป๊อปและแร็ปเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างความแปลกใหม่ และความสนุก ในแบบของดาซึ่งยังไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน โดยได้หนุ่ม “ไทยคูน” มาร่วมสร้างสีสันในการร้องท่อนแร็ป และยังช่วยแต่งเนื้อร้อง ทำนอง ให้กับเพลงนี้อีกด้วย ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ดานั้นเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น ที่อยากจะถ่ายทอดเพลงรักในจังหวะสนุกๆ ที่ผสานกลิ่นอายของความเป็น 90s เข้าไป ให้คนได้โยกไปพร้อมกันกับนิยามความรักรูปแบบใหม่ที่หลายคนต้องหลงใหลอย่างแน่นอน
“ความพิเศษที่เราเลือกปล่อยเพลง ‘ถ้าเธอ OK’ ออกมาเป็นเพลงแรก เพราะอยากให้คนรู้สึกตื่นเต้นกับการที่เราย้านบ้านใหม่ ก็เลยเลือกปล่อยเพลงเร็วเป็นเพลงแรก เป็นเพลงที่ถ้าใครได้ฟังแล้วน่าจะต้องยิ้มตาม แล้วก็เป็นเพลงที่มีการผสมผสานแนวฮิปฮอปเข้าไป ซึ่งเรามองว่ามันน่าสนใจ และแปลกใหม่สำหรับเรา ซึ่งเพลงนี้เราได้ไทยคูนมาช่วยแต่งเนื้อร้องกับทำนองให้ แล้วเราทำหน้าที่เรียบเรียง เราได้เป็นทั้งเบื้องหน้า แล้วก็เบื้องหลัง รู้สึกสนุกดี เหมือนได้หยิบจับอะไรมากขึ้น จริง ๆ มันก็เป็นเหมือนความฝันของนักร้องทุกคนแหละ พอเราผ่านจุดการเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว เราก็อยากหันมาทำเบื้องหลังบ้าง แต่ถ้าแฟน ๆ ที่รอฟังเพลงรักแนวดีว่า ในสไตล์เดิมที่คุ้นเคย เราก็จะมีให้ติดตามกันอย่างแน่นอน ก็อยากฝากให้แฟน ๆ ทุกคน ติดตามผลงานใหม่ ๆ ของเราด้วย เพราะเราก็ไม่ได้ทิ้งสิ่งที่ทำให้แฟนเพลงรักเรา”
นอกจากนี้ ดา เอ็นโดรฟิน ยังเผยถึงความรู้สึกที่ได้ทำงานร่วมกันกับแฟนหนุ่มว่าลงตัวมาก “สำหรับการทำงานร่วมกันครั้งนี้ เรามองว่ามันเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพราะเราเป็นเพื่อนกันมา 10 กว่าปี และเพิ่งพัฒนาความสัมพันธ์กันตอนที่ได้มาร่วมงานกัน การที่เราได้กลับมาเจอกันในวัย 35 มันเป็นช่วงเวลาที่เพอร์เฟคมาก เพราะเราต่างก็โตขึ้น เราได้เรียนรู้การใช้ชีวิตกันมาระดับหนึ่ง มีเหตุผลกันมากขึ้น มีเป้าหมายในการใช้ชีวิต ซึ่งเรารู้สึกดีใจมากที่ได้มาร่วมทำงานเพลงด้วยกันตรงนี้
เรามาเริ่มที่ใหม่ โดยมีเขาเป็นส่วนหนึ่ง ได้ทำงานร่วมกัน มี Passion เรื่องเดียวกัน เราอาจจะโชคดีที่รู้จักกันมาก่อน ได้เห็นอีกฝ่ายเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ในทางของตัวเอง แล้วพอถึงจุดที่เราเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ด้วยกัน เราพยายามบาลานซ์การใช้ชีวิตให้ไปด้วยกันได้ ถ้าต้องทำงานด้วยกันก็จะใช้เหตุผลคุยกัน เปิดใจคุยกันตรง ๆ เราจะไม่ใช้อารมณ์คุยกันเลย ตอนนี้ทุกอย่างก็เลยลงตัวมาก”
โดยบทบาทหน้าที่ในการทำงานที่นี่ ดาได้เล่าว่า ในปีนี้ยังอยากจะโฟกัสที่การทำผลงานของตัวเองเป็นหลัก ซึ่งภายในปีนี้จะมีให้ฟังกัน 3 ซิงเกิ้ล โดยแต่ละเพลงจะมีความแตกต่างกันเป็น 3 เพลง 3 แนว ที่จะไม่ทำให้แฟนเพลงผิดหวังอย่างแน่นอน แต่สำหรับปีต่อ ๆ ไป เธอวางแผนไว้ว่าอยากจะหันไปนั่งทำเบื้องหลัง ปั้นศิลปินหน้าใหม่ให้กับค่ายย่อยของ “28 Recording Label” อีกด้วย
“อีกหนึ่งความสนุกของการทำงานที่นี่ คือค่ายเปิดกว้างให้เราได้ Collaboration กับศิลปินค่ายอื่น ๆ ได้ เพราะตอนนี้ศิลปินก็มีทำค่ายกันเอง บางคนก็เป็นอิสระ หรือสังกัดค่ายเล็ก ที่เราก็สามารถดึงมาร่วมงานกันได้ มันดีตรงที่เราสามารถเริ่มต้นการทำงานที่ความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอันดับแรก โดยที่ไม่ต้องมีกรอบของค่ายมาเป็นข้อจำกัด”
ติดตามผลงานของศิลปินมากคุณภาพจาก “28 Recording Label” และอัพเดทข่าวสารใหม่ ๆ ได้ทางแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter, YouTube ภายใต้ชื่อ “28recordinglabel” และเว็บไซต์ www.28recordinglabel.com