วันนี้มาเป็นหัวข้อชวนง่วงกันสักหน่อย พูดกันถึงเรื่องการนอนหลับ มีคำสองคำที่ใช้กันบ่อย ๆ คือ Sleep กับ Nap แต่จะต่างกันอย่างไรนั้น ไปอ่านกันก่อนนอนได้เลยค่า

Sleep

- เป็นการนอนหลับระยะยาวตอนกลางคืน อย่างน้อย 5-6 ชั่วโมง
- สามารถมี cycle การนอนที่เต็มรูปแบบได้ (Sleep cycle) โดยมีวงจรดังนี้

Sleep cycle แบ่งเป็นสองช่วง คือ
ช่วงที่ 1 : Non-REM sleep (Non-Rapid Eye Sleep) ในช่วงนี้ก็แบ่งได้อีกเป็นสามระยะ คือ
     Stage 1 - ระยะที่เปลี่ยนจากช่วงตื่นเป็นนอนหลับ มักใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที เทียบง่าย ๆ คือช่วงที่เรากำลังเคลิ้ม ๆ ก่อนจะผล็อยหลับไป
     Stage 2 – ระยะ Light Sleep หรือ ระยะหลับตื้น
     Stage 3 – ระยะ Deep Sleep หรือ ระยะหลับลึก

หลังจากร่างกายวนครบ 3 ระยะนี้แล้วจะเข้าสู่ช่วงของ REM 

ช่วงที่ 2 : REM sleep (Rapid Eye Sleep) หรือเรียกได้อีกชื่อว่า Dream sleep ซึ่งตรงตัวว่าเป็นช่วงของการหลับฝัน

โดยที่ sleep cycle ทั้งหมด 4 ระยะนี้จะกินระยะเวลา 90-110 นาที และคืน ๆ หนึ่งเราควรจะนอนหลับได้ให้ประมาณ 5-6 cycle ถึงจะถือว่าเป็นการนอนหลับที่มีประสิทธิภาพ ร่างกายได้พักผ่อนอย่างจริง ๆ ค่ะ

Ex. How many hours do you sleep per night? 
(คุณนอนหลับคืนหนึ่งประมาณกี่ชั่วโมง)

Ex. I slept very late last night. 
(เมื่อคืนฉันนอนดึกมาก) 
**Slept ในที่นี้อาจพูดแทนได้ว่า Went to bed หรือการเข้านอน

Nap 

- คือการนอนหลับระยะสั้น ๆ หรือภาษาไทยจะเรียกว่า งีบ มักเป็นช่วงกลางวัน เช่น งีบระหว่างพักกลางวัน
- ซึ่งแน่นอนว่า ระยะเวลาสั้น ๆ ก็ไม่สามารถจะมี sleep cycle ที่เต็มรูปแบบ 4 ระยะได้ และโดยส่วนมากก็จะวนเวียนอยู่ในช่วง non-REM sleep นี่ละค่ะ (ที่อาจจะได้แค่ระยะแรก หรือระยะสอง)

 Ex.  He usually takes a nap after lunch. 
(เขาจะงีบหลังทานข้าวกลางวันเป็นปกติ)

Ex. Taking a nap is a good way to refresh yourself. 
(การงีบก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้คุณสดชื่นได้)

สังเกตว่า nap จะใช้กับกริยา take โดยมักจะพูดกันว่า Take a nap หรือพูดไปเลยว่า I nap ก็ได้ แต่มักจะไม่ค่อยนิยมกัน

วันนี้อาจจะออกแนววิทยาศาสตร์ไปสักนิด แต่ถือว่าเป็นการเปิดโลกคำศัพท์เฉพาะทางทางวิทยาศาสตร์ไปในตัว และได้ความรู้คร่าว ๆ ของวงจรการหลับด้วยนะคะ