ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม ต่างกันอย่างไร ?

สวัสดีค่ะชาวทรูปลูกปัญญาที่รักทุกท่าน

วันนี้เราจะมาพูดถึงลักษณะของผิวแต่ละประเภทกันหน่อยดีกว่า

เพราะหลาย ๆ คนก็ยังสับสนอยู่ว่าผิวแต่ละแบบเป็นอย่างไร หรือมีวิธีดูอย่างไรใช่ไหมคะ ?

ในแต่ละวัน เราต่างต้องเผชิญกับมลภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน รวมถึงมีการดำเนินชีวิต กินอาหารที่ต่างกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนทำให้สภาพผิวของแต่ละคนแตกต่างกันไป และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการเสาะหาวิธีบำรุงผิวให้แข็งแรงอยู่เสมอ เรื่องสำคัญประการแรกอันเป็นพื้นฐานที่ควรรู้นั่นก็คือ ลักษณะสภาพผิวของตัวเอง นี่แหละค่ะ !! วันนี้เราจึงทำการสรุปสภาพผิวแห้ง ผิวมัน และผิวผสมมาให้ทุกท่านได้อ่านกันแบบสั้น ๆ เข้าใจง่าย จะได้ดูแลผิวของเราได้อย่างถูกต้องนะคะ

ผิวแห้ง หรือ Dry Skin

เป็นลักษณะของผิวที่ขาดความชุ่มชื้นหรือมีความชุ่มชื้นในระดับที่น้อยกว่าปกติ สังเกตได้จากความแห้งกร้านบริเวณผิวหน้า หรือบางคนอาจมีความรู้สึกแห้งตึง ซึ่งลักษณะผิวแห้งนี้จะส่งผลให้ผิวเหี่ยวย่นไวกว่าอายุ เกิดริ้วรอยได้ง่าย และยังหมองคล้ำจากแดดได้ง่ายกว่าปกติ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ผิวแห้งนั้นมีได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงผิวอย่างผิดวิธี ดื่มน้ำน้อย อาบน้ำอุ่นบ่อยครั้ง หรืออาจเพราะอยู่ในสภาพอากาศที่เย็นและแห้งบ่อยครั้งโดยขาดการบำรุง

ผิวมัน หรือ Oily Skin

ลักษณะของผิวมันก็เป็นอีกอาการหนึ่งที่บ่งชี้ถึงสภาพผิวที่ขาดความสมดุลเช่นกัน แต่จะตรงกันข้ามกับผิวแห้ง ซึ่งผิวมันนี้จะสามารถสังเกตเห็นได้ถึงความมันวาวบนผิวหน้าชัดเจน โดยมีสาเหตุมาจากต่อมใต้ผิวมีการผลิตความมันออกมาในปริมาณที่มากเกินไป ปัญหาผิวที่มักจะเกิดขึ้นกับสภาพผิวประเภทนี้ คือ จะทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน มองเห็นรูขุมขนที่ขยายจนสังเกตได้หรือที่เรามักเรียกกันว่ารูขุมขนกว้างนั่นเองค่ะ

ผิวผสม หรือ Combination Skin

ลักษณะของผิวผสมจะเป็นการผสมกันระหว่างผิวแห้งและผิวมัน ส่วนมากมักจะมีผิวแห้งบริเวณทีโซน ซึ่งเป็นบริเวณแนวนอนเหนือคิ้วทั้งสอง และบริเวณแนวตั้งในส่วนของจมูกถึงปาก (มีลักษณะเป็นรูปตัวอักษร T) และมีผิวมันบริเวณหน้าแก้ม แต่บริเวณโหนกแก้มกลับมีผิวแห้ง นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราเรียกผิวลักษณะนี้ว่าเป็นผิวผสม

ทั้งนี้สำหรับ ผิวธรรมดา นั้นจะถือว่าเป็นสภาพของผิวที่อยู่ในเกณท์ที่ไม่เป็นปัญหา เพราะถือว่ามีระดับของความชุ่มชื้นที่เหมาะสมและเป็นผิวที่สามารถพัฒนาไปสู่ระดับที่เรียกว่า ผิวสุขภาพดี ได้ และเมื่อเราทราบถึงสภาพผิวของตัวเราเองแล้วก็สามารถเริ่มต้นทำการฟื้นฟู ดูแล บำรุง ได้อย่างเต็มที่เลยนะคะ ในส่วนของการเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวก็สามารถศึกษาได้จากส่วนผสมของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ได้ หรือหากใครเลือกไม่ถูกก็สามารถอ่านรายละเอียดที่บรรจุภัณฑ์ได้เลยนะคะ ส่วนมากเขาจะมีเขียนบอกไว้ว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้เหมาะกับสภาพผิวแบบไหน

แต่นอกจากการบำรุงผิวภายนอกแล้ว คุณก็ควรบำรุงผิวจากภายในด้วยการเลือกรับประทานอาหาร ผักและผลไม้ที่มีทั้งประโยชน์และวิตามินที่สำคัญต่อผิวพรรณเสริมเข้าไปด้วยนะคะ