กองทัพไทย (Royal Thai Armed Forces) คือ กองทัพของราชอาณาจักรไทยทั้งหมด โดยสามารถแบ่งกองทัพออกเป็น 3 เหล่าทัพ ได้แก่ กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ
กองทัพไทย มีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ปี พ.ศ.2551 ในมาตรา 15 บัญญัติว่าเอาไว้ “กองทัพไทย มีหน้าที่ เตรียมกำลังกองทัพไทย การป้องกันราชอาณาจักร และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังทหาร ตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม มีผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้บังคับบัญชา รับผิดชอบ” กับในมาตรา 17 บัญญัติไว้ให้ กองทัพไทย มีโครงสร้างการจัดดังนี้
กองบัญชาการทหารสูงสุดนั้น ได้ถูกจัดตั้งขึ้นมาแล้วถึง 2 ครั้ง โดยในครั้งแรกเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2483 ด้วยเหตุการพิพาทในอินโดจีน – ฝรั่งเศษ และในครั้งถัดมาจากการที่ไทยเข้าร่วมสงครามมหาเอเชียบรูพา เพื่อช่วยในการทำหน้าที่ด้านบัญชาการรบ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2503 ทางราชการได้เห็นถึงความจำเป็ฯในการจัดตั้งกองบัญชาการทหารสูงสุดเป็นการถาวรขั้น เพื่อทำหน้าที่ในการเตรียมกำลังรบและป้องกันประเทศ จึงทำให้มีการเปลี่ยนแปลงกรมเสนาธิการกลาโหมเป็นกองบัญชาการทหารสูงสุด และยังทำการปรับปรุงและเพิ่มหน่วยงานต่างๆขึ้น เพื่อให้สามารถดำเริรงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พุทธศุกราช 2503
โดยในปี พ.ศ. 2551 ได้มีการจัดการส่วนราชการในกระทรวงกลาโหมใหม่ ตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พุทธศักราช 2551 ถูกประกาศใช้เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2551 ตามมาครา 17 ของพระราชบัญญัติฉบับนี้ ทำให้กองบัญชาการทหารสูงสุดได้ถูกแปรสภาพเป็ฯกองบัญชาการกองทัพไทย โดยกระทรวงกลสโหมมีหน้าที่ควบคุม อำนวยการ สั่งการ และกำกับดูแลการดำเนินงานของส่วนราชการในกองทัพไทย ในการจัดเตรียมกำลัง การป้องกันราชอาณาจักรไทย และคอยดำเนินการทั้งหมดเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม ให้ได้ประสทิธิภาพสูงสุด โดยจะมีผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้รับผิดชอบ
ภารกิจ ของกองทัพไทย คือ การรับผิดชอบการวางแผน พัฒนาและดำเนินการเกี่ยวกับระบบควบคุมบังคับบัญชากองทัพไทย ให้สามารถติดต่อเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้งในระดับรัฐบาล ระดับกระทรวง และหน่วยงานในกระทรวงกลาโหมตลอดจนแบ่งมอบความรับผิดชอบในการดำเนินการให้กับกองทัพ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
อำนาจหน้าที่ ของกองบัญชาการกองทัพไทย คือ การมีหน้าที่ควบคุมอำนวยการ สั่งการและกำกับดูแลการดำเนินงาน ของส่วนราชการในกองทัพไทย ในการเตรียมกำลังการป้องกันราชอาณาจักรไทย และการดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
เครื่องหมายราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย จะเป็นรูปจักมีสมอขัดในจักร โดยด้านซ้ายขวามีรูปปีกนกกาง และล้อมรอบทั้งหมดนี้ด้วยช่อชัยพฤกษ์ ซึ่งตัวเครื่องหมายในแต่ละส่วนนั้นมีความหมายดังนี้
กองบัญชาการกองทัพไทยนั้นจะเปิดรับสมัครเข้ากองทัพทุกๆปี โดยการสอบคัดเลือกบุคคลพลเรือนเพื่อบรรจุเข้ารับราชการในกองบัญชาการกองทัพไทย จะอยู่ในช่วงเดือน เม.ย. – พ.ค. สามารถติดตามข่าวสารการรับสมัครทหารได้ที่ https://nine100.com/category/soldier/military-recruitment/
คุณสมบัติสมัครเข้า กองทัพไทย มีดังต่อไปนี้
การเกณฑ์ทหารเข้ากองทัพไทย เป็น กฎหมายตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 โดยกำหนดหน้าที่นี้ให้เฉพาะเพศชายที่มีสัญชาติเป็นไทยตามกฎหมายมีหน้าที่ต้องเข้ารับราชการทหารด้วยตนเองทุกคน
ชายไทยทุกคนต้องไปแสดงตัวตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกิน ในช่วงอายุย่างเข้า 18 ปี และจะมีสภาพเป็นทหารกองเกิน หลังจากนั้นกองทัพจะทำการเรียกเกณฑ์ทหารกองเกินชายในช่วงอายุย่างเข้า 21 ปี จะต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจเลือกเข้ากองประจำการ โดยมีวิธีจำแนกออกเป็นสี่จำพวกตามความสมบูรณ์ของร่างกายบุคคลนั้นๆ ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์มีผู้ประงสงค์สมัครเข้ากองประจำการจนเต็มแล้วนั้น ก็จะไม่มีการจับสลากเกิดขึ้น แต่หากยังมีผู้สมัครเข้าไม่พอ และมีผู้คนให้เลือกมากกว่าจำนวนที่ต้องการ ก็จะใช้วิธีจับสลาก ใบดำ-ใบแดง แทน โดยผู้ที่จับได้ใบแดงก็จะต้องเข้าเป็นทหารกองประจำการ