กองทัพเรือไทย หรือ ราชนาวีไทย ( Royal Thai Navy) จะเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อการปฏิบัติการทางทหาร ในทะเล ลำน้ำ และพื้นที่บริเวณชายฝั่งของประเทศไทย ซึ่งกองทัพเรือจะมีจำนวนกำลังพลประจำการเป็นลำดับ 2 รองลงมาจากกองทัพบก โดยมีเรือรบปฏิบัติการกว่า 74 ลำ อากาศยานกว่า 90 เครื่อง และยังมีกำลังรบทางบกอีก 2 กองพล ด้วยกัน
กองทัพเรือยังมีพื้นที่ปฏิบัติการหลักอยู่ในทั้งอ่าวไทย และทะเลอันดามันตามแนวเขตแดนระหว่างประเทศในทะเลมีความยาวกว่า 1,680 ไมล์ และตรงแนวชายฝั่งความยาวกว่า 1,500 ไมล์ โดยหน่วยต่างๆในสังกัดกองเรือนั้นมีลักษณะโครงสร้างที่คล้ายกับกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา
กองทัพเรือไทยนั้น มีกำเนิดควบคู่มากับการสร้างอาณาจักรไทย ตั้งแต่ในสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี โดยกองทัพไทยในสมัยเดิมนั้นมีเพียงทหารเหล่าเดียวไม่ได้มีการแบ่งแยกออกเป็นกองทัพบก กองทัพเรือ หรือกองทัพอากาศ แบบในปัจจุบัน โดยหากตัวยาตราทัพไปทางบกก็เรียกว่าทัพบก หากยาตราทัพไปทางเรือก็เรียกว่าทัพเรือ ซึ่งการจัดระเบียบการปกครองบังคับบัญชากองทัพไทยในยามปกตินั้นยังไม่มีแบบแผนที่แน่นอน และในยามศึกสงครามได้ใช้ทหารทัพบกกับทัพเรือรวมกันไป ในการยาตราทัพเพื่อทำศึกสงครามภายในอาณาจักรหรือนอกอาณาจักร บางครั้งก็มีความจำเป็นที่ต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการลำเลียงทหาร เหตุเพราะเรือนอกจากจะสามารถลำเลียงเสบียงอาหารได้คราวละมากๆแล้ว ยังสามารถลำเลียงอาวุธหนัก เช่น ปืนใหญ่ ไปได้ง่ายและรวดเร็วกว่าทางบกอีก ด้วยความสะดวกและรวดเร็วนี้จึงนิยมยกทัพไปทางเรือจนสุดทางน้ำ แล้วจึงค่อยยกทัพขึ้นไปทางบก โดยกิจการทหารเรือดำเนินไปเช่น ถึงสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์
ภารกิจของกองทัพเรือมีที่มาจากการพิจารณาสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญ นโยบายและยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงของรัฐบาลและหน่วยเหนือที่เกี่ยวข้อง และกฎหมายที่ให้อำนาจทหารเรือ 29 ฉบับ ซึ่งสามารถสรุปเป็นภารกิจของกองทัพเรือ ได้แก่
พรรคนาวิน สามารถแบ่งย่อยออกเป็น 10 เหล่า ดังนี้
พรรคนาวิกโยธิน สามารถแบ่งย่อยออกเป็น 4 เหล่า ดังนี้
พรรคกลิน สามารถแบ่งย่อยออกเป็น 2 เหล่า ดังนี้
พรรคพิเศษ สามารถแบ่งย่อยออกเป็น 8 เหล่า ดังนี้
คุณสมบัติทหารเรือไทย มีสิ่งสำคัญหลักๆอยู่ทั้งหมด 5 ประการ ได้แก่