จากที่เคยใช้เงินเต็มที่ก็ต้องรัดเข็มขัดเพื่อให้มีเงินเลี้ยงลูก โดยการงดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงิน หารายได้เสริมเข้าบ้านมากขึ้นเพื่อทดแทนรายได้ที่หายไปของคุณแม่ซึ่งต้องเลี้ยงลูก
การวางแผนเงินที่ดีจึงมีความสำคัญมาก เพราะหมายถึงอนาคตของลูก หากไม่เตรียมวางแผนการเงินให้ดีตั้งแต่ต้น ย่อมส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายภายในครอบครัวอย่างแน่นอน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมวางแผนค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นหลักประกันความสุขแก่ทุกคนในครอบครัว
คุณพ่อคุณแม่ควรจัดสรรเงินที่จะออมแต่ละเป้าหมายให้ชัดเจน เช่น เงินออมเพื่อการศึกษาลูก เงินออมเพื่อใช้จ่ายในอนาคต อาจกำหนดตัวเลขไว้ว่าแต่ละเดือนจะออมเพื่อเป้าหมายใดเท่าไหร่บ้าง โดยเลือกแหล่งออมเงินให้เหมาะกับระยะเวลาใช้เงิน ถ้ามีเวลาออมน้อยก็ควรออมในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ถ้ามีเวลาออมนานก็สามารถออมในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นได้ เช่น การออมเงินแบบฝากประจำ ซื้อทอง ซื้อสลาก รวมถึงการเลือกทำประกันสะสมทรัพย์แบบต่าง ๆ
เรื่องไม่คาดฝันในชีวิตเกิดขึ้นได้ทุก ๆ วัน แม้เราจะวางแผนการเงินในครอบครัวอย่างดีแล้ว จึงควรมีเงินส่วนนี้ 15 เปอร์เซ็นต์ของเงินเก็บของครอบครัว ซึ่งเงินก้อนนี้จะเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่จะหยิบ ออกมาใช้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
เป็นการออมเพื่อรักษาสภาพคล่องไว้ใช้จ่ายต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าขนม ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเรียนพิเศษ เป็นต้น ถ้าเราไม่อยากให้รายจ่ายตรงนี้เป็นภาระมากเกินไป ควรสร้างวินัยให้ลูกรู้จักการประหยัด รู้คุณค่าของเงินและจัดสรรเงินเองได้ ถ้าจะขอเพิ่มมากกว่านี้ก็ต้องมีเหตุผลที่เพียงพอ
เราใช้ประโยชน์จากข้อกำหนดของ LTF ที่ขายได้เมื่อครบ 5 ปี ทำให้สร้างวินัยการออมเพื่อเป้าหมายระยะปานกลางได้เป็นอย่างดี วิธีนี้เราจะได้รับประโยชน์จากกการออม 2 ต่อ คือ ได้ลดหย่อนภาษี ตามฐานภาษีของเรา และมีเงินเพื่อการศึกษาลูก ในปีที่ครบกำหนดขาย
การออมเงินระยะยาวนั้นต้องใช้วินัยการออมค่อนข้างสูงมาก ควรใช้วิธีการสะสมเงินโดยประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่เป็นการออมภาคบังคับเข้ามาช่วยน่าจะเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยระหว่างการทำประกันถ้าเราจำเป็นต้องการใช้เงินจริง ๆ ก็สามารถกู้ประกันชีวิตของตนเองได้ ซึ่งอาจจะต้องสอบถามกับตัวแทนประกันของตัวท่านเอง