ประวัติทหารหญิง มีจุดเริ่มต้นของการรับสตรีเข้ารับราชการในกองทัพนั้นมาจากในสมัย จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ตอนที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับภัยพิบัติจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาติบ้านเมืองต้องการกำลังทหารมาช่วยในการป้องกันประเทศชาติ จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม จึงมีดำริว่า “การขยายกำลังทหารอยู่ที่ต้องให้ชาติไทยทั้งชาติเป็นทหาร หมายความว่า คนไทยทุกคนไม่ว่าหญิงหรือชาย จักต้องได้รับการอบรมให้เป็นนักรบที่สามารถเฉลียวฉลาดในวิทยาการ และเข้มแข็งพอ พร้อมที่จะสละชีพเพื่อชาติเสมอ และเรื่องการอบรมให้คนไทยเป็นนักรบที่สามารถทั้งชายหญิงนี้ เป็นนิสัยที่อยู่ในจิตใจแต่บรรพบุรุษแล้ว จนไทยเราได้จารึกเกียรติประวัติของบรรดาท่านวีรชนทั้งชายหญิงไว้ในประวัติศาสตร์ของชาติ”
ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นจึงทำให้ จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ได้จัดตั้งกองทหารหญิงขึ้นมาเป็นครั้งแรก โดยได้มอบหน้าที่ในการฝึกสอนหลักสูตรและให้การศึกษาด้านต่างๆกับกรมยุทธศึกษาทหารบก ซึ่งมีการกำหนดหลักเกณฑ์ในการสมัครเข้าศึกษานั้นจะใช้หลักการเดียวกับนายร้อยสำรองทหารบก
คุณสมบัติที่จำเป็นเพื่อเข้าสมัครทหารอากาศ แบ่งออกเป็น 2 ระดับชั้น
1.สัญญาบัตร (ติดยศ เรืออากาศตรี)
2.ประทวน (ติดยศ จ่าอากาศตรี)
วิธีการสมัครทหารอากาศนั้นเปิดรับสมัครสอบทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้น สามารถสมัครได้ที่ rtaf-recruit.com ตลอด 24 ชั่วโมง (ไม่เว้นวันหยุดราชการ)
ประกาศจาก กองทัพอากาศ ซึ่งมีความประสงค์จะรับสมัครบุคคลพลเรือน นายทหารประทวน ทหารกองหนุน พลอาสาสมัคร ลูกจ้างและพนักงานราชการ เพื่อสอบคัดเลือกเข้ารับราชการในกองทัพอากาศเป็นข้าราชการชั้นสัญญาบัตร และเป็นข้าราชการต่ำกว่าชั้นสัญญาบัตรประจำปี 2563 จำนวน 908 อัตรา
บรรจุเป็นข้าราชการชั้นสัญญาบัตร (แต่งตั้งยศเป็นว่าที่เรืออากาศตรี) จำนวน 90 อัตรา
บรรจุเป็นข้าราชการต่ำกว่าชั้นสัญญาบัตร (แต่งตั้งยศเป็นจ่าอากาศตรี) จำนวน 818 อัตรา
โดยสามารถสมัครสอบได้ทางอินเทอร์เน็ต (ตลอด 24 ชั่วโมง) ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม – 24 กุมภาพันธ์ 2563 ที่เว็บไซต์ https://www.rtaf-recruit.com
กองทัพอากาศเปิดรับสมัครสอบทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้น โดยสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม – 24 กุมภาพันธ์ 2563 ที่เว็บไซต์ https://www.rtaf-recruit.com/ ตลอด 24 ชั่วโมง (ไม่เว้นวันหยุดราชการ)
รายละเอียดเพิ่มเติม
(ห้วง ม.ค.) สนามสอบของกองทัพอากาศ จะทำการเปิดรับสมัครคัดเลือกบุคคลพลเรือน เข้ารับราชการเพียง ปีละ 1 ครั้ง โดยสนามสอบบุคคลพลเรือน เข้ารับราชการในกองทัพอากาศ นั้นจะอยู่ในช่วงเดือน มกราคม
ผู้หญิงที่จะทำการเข้าสอบทหารหญิง ต้องสวมกระโปรงหรือกางเกงขายาวทรงสุภาพเท่านั้น
จำนวนอัตราที่เปิดรับในแต่ละปี ไม่เท่ากันโดยมีการคาดเดาไว้ ดังนี้
ประโยชน์จากการเข้ารับราชการทหาร มีดังนี้
คำปฏิญาณของ นายทหารหญิง มีดังนี้
ฉันจะพลีชีพให้สมกับเกียรติของทหาร คือ ตายในสนามรบ
ฉันจะเทิดทูนไว้ซึ่งเกียรติของชาติ คือ สงวนความเป็นดอกไม้งามของไทย
ฉันจะทูนเหนือหัวซึ่งเกียรติของทหารหญิง คือ แม่พิมพ์ที่ดี
คุณงามความดีที่จะยึดมั่นไว้ ให้หนักแน่นกว่าขุนเขา
ส่วนความเสียสละเพื่อชาติ จะให้เบากว่าปุยนุ่น
ภารกิจตามกฎหมาย ของ กองทัพอากาศไทย คือ การที่กองทัพอากาศมีหน้าที่เตรียมกำลังกองทัพอากาศ และป้องกันราชอาณาจักร พร้อมการพัฒนาประเทศและแก้ไขปัญหาเมื่อเกิดความขัดแย้งในระดับต่างๆ โดยดำรงระดับความพร้อมของขีดความสามารถอยู่ตลอดเวลา ด้วยการเสริมสร้างศักยภาพกำลังทางอากาศให้มีคุณภาพ และครอบครองเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับมิตรประเทศและดำรงความเข้มข้นในความรับผิดชอบต่อภารกิจตามกฎหมายโดยเฉพาะในการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติ และการพัฒนาประเทศตามแนวคิดทางยุทธศาสตร์
ภารกิจตามที่ได้รับมอบหมาย ของ กองทัพอากาศไทยนั้นจะให้มีความพร้อมปฏิบัติการทั้งในส่วนของยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถไปปฏิบัติงานร่วมกับต่างประเทศได้ พร้อมกำลังพลในรูปของหน่วยบิน/หน่วย-ชุดปฏิบัติการ/เจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญประเภทต่าง ๆ เพื่อปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายร่วมกับกำลังของต่างประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างเป็นลำดับ ได้แก่ การรักษาสันติภาพ การช่วยเหลือมนุษยธรรม และการบรรเทาภัยพิบัติ
กองทัพอากาศไทยต้องการพัฒนาสู่ “กองทัพอากาศชั้นนำในภูมิภาค” หรือ “One of the Best Air Forces in ASEAN” ซึ่งอีกนัยหนึ่ง คือ เป็นกองทัพอากาศที่มีขีดความสามารถในทุกมิติอยู่ในระดับ 1 ใน 3 ของภูมิภาคอาเซียน บนพื้นฐานของการพึ่งพาตนเอง ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าการก้าวไปสู่วิสัยทัศน์กองทัพอากาศอย่างเป็นระบบเป็นรูปธรรม และมีความยั่งยืนกองทัพอากาศจึงได้กำหนดจุดเน้นของทิศทางการพัฒนาในแต่ละระยะไว้ 3 ระยะ ดังนี้
พันธกิจ ของ กองทัพอากาศไทย จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน ดังนี้
กองทัพอากาศต้องเตรียมความพร้อมเพื่อปฏิบัติภารกิจภายใต้ การจัดโครงสร้างกำลังรบและส่วนสนับสนุนที่เหมาะสมภายใต้การบริหารจัดการ การฝึกอบรม การพัฒนากำลังพล และการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ ให้สามารถที่จะวางกำลังหน่วยปฏิบัติการในระดับต่างๆ ได้อย่างเต็มความสามารถ โดยในยามปกติจัดฐานที่ตั้งเป็นฐานบินปฏิบัติการหลัก ฐานบินปฏิบัติการหน้า ฐานบินปฏิบัติการพิเศษ ฐานบินปฏิบัติการสำรอง และสนามบินเฉพาะกิจ รวมถึงการประกอบกำลังที่มีหน่วยตัดสินตกลงใจ โดยมีศูนย์ปฏิบัติการในแต่ละระดับ สามารถบัญชาการและควบคุมตามที่ได้รับมอบอำนาจ เพื่ออำนวยการปฏิบัติการใช้กำลังทางอากาศทั้งในประเทศและนอกประเทศ
กองทัพอากาศจะมีพันธกิจในการใช้กำลังทางอากาศในยามปกติคือ การเฝ้าตรวจระวังภัยทางอากาศ ซึ่งรวมถึงการควบคุมเส้นทางสัญจรเข้าออกรอบประเทศ ในยามสงครามก็พร้อมที่จะใช้กำลังทางอากาศในการดำเนินกลยุทธ์ร่วมกับหน่วยกำลังอื่นๆ ทั้งการปฏิบัติสงครามอันเป็นการใช้กำลังในการป้องกันประเทศ การพิทักษ์ผลประโยชน์แห่งชาติ และการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในทุกระดับ ขณะเดียวกันกองทัพอากาศก็พร้อมที่จะใช้กำลังกองทัพอากาศเพื่อการพัฒนาประเทศและการช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติในยามวิกฤติต่าง ๆ เช่น การบรรเทาสาธารณภัยอันเกิดจากอุบัติภัยหรือภัยพิบัติจากธรรมชาติ การต่อต้านอาชญากรรม การปราบปรามยาเสพติด การสำรวจและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการฟื้นฟูภัยพิบัติสาธารณะต่าง ๆ
https://nine100.com/20-things-you-need-to-know-before-becoming-female-air-soldier/