ปัญหายอดฮิตที่เกิดจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน ก็คืออาการปวดหรือตึงตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น คอ บ่า ไหล่ หลัง ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ มาจากการนั่งผิดท่าและรูปแบบเก้าอี้ที่ไม่เหมาะกับสรีระของเรา เพราะเก้าอี้แต่ละตัวไม่ได้เหมาะกับทุกคนเสมอไป หากเลือกเก้าอี้ไม่เหมาะสมก็จะส่งผลถึงท่านั่งของเราได้ นั่นหมายความว่าถ้าเก้าอี้ดีก็จะทำให้เราปรับท่านั่งทำงานได้อย่างถูกต้อง วันนี้เราจึงนำเคล็ดลับในการเลือกซื้อเก้าอี้ทำงานมาฝากกัน
ก่อนอื่นให้พิจารณาเรื่องขนาดเป็นอันดับแรก ควรเลือกขนาดเก้าอี้ทำงานที่ไม่เล็กหรือไม่ใหญ่เกินไปเมื่อเทียบกับรูปร่างแล้ว นอกจากนี้ให้คำนึงถึงพื้นที่ที่จะนำเก้าอี้ไปวางด้วย เพื่อไม่ทำให้เกิดควาอึดอัดระหว่างนั่งทำงาน หรือบางทีเก้าอี้ขนาดใหญ่อาจจะมีน้ำหนักมากซึ่งยากต่อการเคลื่อนย้าย
เลือกเก้าอี้ทำงานที่ปรับท่วงท่าในการนั่งได้ เช่น ปรับเอนหลัง มีล้อสำหรับเลื่อนเข้าออกจากโต๊ะเพื่อยืดเหยียดขา หรือตัวเก้าอี้สามารถหมุนซ้ายขวาได้ เวลาหันซ้ายหันขวาจะได้ไม่ต้องเอี้ยวหลัง แต่ใช้การหมุนเก้าอี้เปลี่ยนทิศทางแทน เป็นต้น
เมื่อนั่งแล้วที่วางแขนต้องอยู่ในระดับที่พอดี ต้องไม่สูงหรือเตี้ยจากเบาะมากนัก เวลางอศอกวางแขนไหล่ต้องไม่ยกสูงขึ้นมา หรือถ้าเตี้ยไปก็จะไม่มีที่รองรับแขน อาจทำให้เมื่อยได้
ฟังก์ชั่นปรับระดับความสูงจะช่วยให้จัดท่านั่งทำงานได้เหมาะสม นั่งแล้วเท้าต้องไม่ลอยจากพื้น สามารถวางเท้าราบไปพื้นได้ และสะโพกกับขาตั้งฉากกันในองศาที่พอดี เข่าต้องไม่ชันสูงจนเกิดช่องระหว่างต้นกับเบาะนั่ง
เบาะรองนั่งคือส่วนที่รองรับน้ำตัวของเรา หลายคนเลือกเบาะที่มีความนุ่มนิ่มไว้ก่อนเพราะคิดว่านั่งสบาย แต่เบาะรองนั่งที่ดีต้องไม่นุ่มจนยวบหรือเป็นแอ่ง ไม่เช่นนั้นจะส่งผลให้กระดูกเชิงกรานบิดงอได้ และความลึกของเบาะต้องพอดีกับความยาวต้นขา สังเกตได้จากเวลานั่งก้นชิดพนักพิงแล้วเข่าต้องงอในองศาที่เหมาะสม ไม่เกยขึ้นมาบนเบาะ
พนักพิงที่ดีควรเอนไปทางด้านหลังเล็กน้อยหรือประมาณ 110 องศา เทียบกับเบาะ เมื่อนั่งแล้วจะไม่รู้สึกว่าดันหลังของเรา
เลือกฟังก์ชั่นอย่างดี แต่มาตายตรงวัสดุไม่ได้นะ ! เพื่อให้ได้เก้าอี้ทำงานที่สามารถใช้งานได้ระยะยาวและมีความปลอดภัย จึงต้องคำนึงถึงวัสดุที่แข็งแรงมีคุณภาพด้วย
เราอาจจะไม่ค่อยเห็นเก้าอี้ทำงานที่มีหมอนรองหัวสักเท่าไหร่ เรียกว่ามีก็ดีไม่มีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีหมอนรองศีรษะก็จะช่วยให้ผ่อนคลายบริเวณต้นคอได้