ในช่วงวัยเด็ก การดูแลสุขภาพถือเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่จะต้องใส่ใจ โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพช่องปากถือเป็นสิ่งสำคัญ  โดยเฉพาะในเด็กอายุประมาณ 1 ปีครึ่ง ซึ่งจะเริ่มมีฟันกรามน้ำนมขึ้นในช่องปาก

พ่อแม่จะต้องช่วยลูกด้วยการแปรงฟันให้ รวมทั้งสอนให้ลูกแปรงฟันอย่างถูกวิธี และให้ลูกได้หัดแปรงฟันด้วยตนเองบ้าง แต่พ่อแม่จะต้องคอยตรวจสอบในเรื่องของความสะอาด เพราะลูกอาจจะยังแปรงฟันได้ไม่สะอาด หรือทั่วถึง เนื่องจากพัฒนาการในเรื่องของการใช้กล้ามเนื้อมือและเอ็นข้อต่อ ยังไม่คล่องแคล่วพอ

วันนี้แม่แหม่มมีเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้การแปรงฟัน เป็นเรื่องที่น่าสนุกสำหรับลูกมาฝากกันค่ะ

สร้างความคุ้นเคยตั้งแต่เริ่มแรก

เมื่อลูกเริ่มมีฟันขึ้นซี่แรก พ่อแม่สามารถสร้างความคุ้นเคยในเรื่องของการทำความสะอาดฟันให้กับลูกได้ ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดฟันซี่แรกให้กับลูก พยายามทำด้วยความอ่อนโยน และพูดคุยกับลูกเพื่อลดความวิตกกังวล

เลือกแปรงสีฟันที่ลูกชอบ

เมื่อถึงวัยที่เริ่มแปรงฟัน พ่อแม่อาจพาลูกไปเลือกซื้อแปรงสีฟันที่ตนเองชอบ และหยิบจับถนัดมือ เพื่อสร้างความรู้สึกสนุกสนาน และทำให้ลูกอยากมีส่วนร่วมในการแปรงฟันมากขึ้น

พูดคุยสร้างความคุ้นเคย

พ่อแม่ควรเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการแปรงฟันว่ามีความสำคัญอย่างไร อาจเล่าเป็นนิทาน หรือตั้งคำถามพูดคุยกับลูก เช่น แปรงแล้วรู้สึกอย่างไร รู้ไหมทำไมอยากให้แปรงฟัน เป็นต้น เพื่อเป็นการบอกและชักชวนให้เด็กเข้าใจถึงการมีสุขภาพฟันที่ดี ขณะที่ลูกแปรงฟัน อาจให้ส่องกระจกไปด้วยเพื่อสร้างความสนใจในการแปรงฟันให้มีมากขึ้น

ชมเชยทุกครั้งหลังแปรงฟันเสร็จ

การสร้างกำลังใจถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการเริ่มต้นใหม่ในทุก ๆ เรื่อง สำหรับการแปรงฟันก็เช่นกัน เมื่อลูกให้ความร่วมมือและมีความตั้งใจในการแปรงฟัน พ่อแม่อย่าลืมชมเชยและให้กำลังใจลูก เช่น ฟันลูกสวยมากเลยค่ะ แปรงฟันแล้ว หนูยิ้มหวานมาก ๆ เลย การให้คำชมเชย จะช่วยสร้างทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับการแปรงฟันได้ค่ะ

เห็นไหมคะว่า การชวนลูกแปรงฟันนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย ขอเพียงแค่พ่อแม่เริ่มต้นอย่างถูกวิธี และสร้างความรู้สึกที่ดีเกี่ยวกับการแปรงฟันให้กับลูก หลีกเลี่ยงการบังคับ หรือขู่ลูก เพราะจะยิ่งทำให้ลูกรู้สึกหวาดกลัวและไม่มีความสุข เพียงเท่านี้ ลูก ๆ ของเราก็จะเป็นหนูน้อยยิ้มสวยได้ไม่ยากเลยค่ะ

สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.