สวัสดีค่ะชาวทรูปลูกปัญญาที่รักทุกท่าน วันนี้เราจะมาพูดถึงปัญหาชวนสงสัยที่หลาย ๆ คนอาจกำลังประสบอยู่ นั่นก็คือปัญหา “หน้ากับคอ...คนละสี” ซึ่งปัญหานี้ช่างแก้ยากเสียเหลือเกิน เท่านั้นยังไม่พอ ปัญหา “หน้ากับคอคนละสี” นี้ยังทำให้คุณผู้หญิงหลาย ๆ คนรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง แต่งหน้าก็ยาก บางครั้งต้องซื้อรองพื้น 2 สีมาผสมกัน (เพิ่มความซับซ้อนหลายขั้นตอนเข้าไปอี๊กกกกกก !!) ฉะนั้น...วันนี้เราจะพาคุณมาเช็ก 4 พฤติกรรมที่อาจทำให้ผิวหน้าและคอของคุณคนละสีกันได้ ไปดูกันเลยค่ะ…
ข้อนี้หลายคนอาจสงสัยว่า...โฟมล้างหน้าใช้ล้างหน้าก็ถูกแล้วนี่ !? แต่คุณอาจลืมไปว่าโฟมล้างหน้าบางยี่ห้อมีส่วนผสมของสารบำรุงผิวที่ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส หรือช่วยปรับสภาพผิวของเราให้ดูขาวขึ้นได้ เช่น whitening ซึ่งหากคุณใช้โฟมล้างหน้าประเภทนี้ล้างแค่บริเวณผิวหน้าเพียงอย่างเดียว อาจทำให้ผิวหน้าของคุณขาวใสกว่าผิวคอได้นั่นเอง หากเป็นไปได้เราขอแนะนำให้คุณใช้โฟมล้างหน้าถูบริเวณคอของคุณด้วยจะดีกว่านะคะ (ก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ อย่าลืมศึกษารายละเอียด วิธีใช้ และคำแนะนำก่อนด้วยนะคะ)
หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากมีผิวสวยสุขภาพดี การทาครีมกันแดดก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เพราะแม้ว่าคุณจะบำรุงผิวหน้าด้วยสกินแคร์มากมายแค่ไหน แต่หากไม่ทาครีมกันแดด ผิวของคุณก็อาจถูกทำร้ายได้เช่นเดียวกัน ซึ่งหากคุณเลือกทาครีมกันแดดเฉพาะบริเวณผิวหน้า ผิวบริเวณคอและด้านหลังคอก็จะถูกแดดทำร้ายและทำให้ผิวคล้ำเสียได้ง่าย วิธีแก้ก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่ไม่ลืมทาครีมกันแดดให้ทั่วบริเวณผิวที่ถูกแดดเท่านั้นเองค่ะ
หลาย ๆ คนลงทุนกับการซื้อสกินแคร์มาเพื่อบำรุงผิวหน้า และละเลยผิวบริเวณส่วนอื่น ๆ อย่างผิวบริเวณคอซึ่งอยู่ใกล้กับผิวหน้าของเรามาก ๆ การที่คุณเน้นบำรุงผิวเฉพาะใบหน้าก็อาจทำให้ผิวหน้าคนละสีกับคอได้ หรือบางคนอาจมีผิวหน้าที่ดูเนียน นุ่ม เด้ง แต่มีผิวคอที่คล้ำเสียและเหี่ยวย่นนั่นเองค่ะ
สำหรับข้อสุดท้ายนี้ก็ถือเป็นอีกพฤติกรรมหนึ่งที่หลาย ๆ คนละเลย นั่นก็คือการเลือกใส่เสื้อคอกว้าง เสื้อสายเดี่ยว เสื้อเกาะอก เสื้อปาดไหล่ หรือเสื้อใด ๆ ก็ตามที่โชว์ผิวบริเวณคอ ท้ายทอย หลัง หรือบริเวณเหนืออก เราอาจใส่หมวกหรือแว่นเพื่อป้องกันแสงแดดให้ผิวหน้าได้ แต่เรามักลืมที่จะปกป้องผิวบริเวณนี้ ทำให้ผิวบริเวณนี้ค่อย ๆ คล้ำเสียและกลายเป็นสีผิวที่ต่างจากหน้าหรือส่วนอื่น ๆ นั่นเอง