มีงานวิจัยด้านความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่หรือผู้ปกครองกับเด็กของนักจิตวิทยาชาวอังกฤษ John Bowlby (1973) ได้กล่าวว่า มีลักษณะความผูกพันระหว่างพ่อแม่หรือผู้ปกครองกับเด็ก 4 แบบ คือ
คือ พ่อแม่คุณภาพที่มีเวลาคุณภาพให้กับลูก ๆ อยู่เสมอ เป็นพ่อแม่ที่ใส่ใจ และให้ความสำคัญต่อการดูแลและจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมพัฒนาการให้กับลูกอย่างเหมาะสม การเลี้ยงดูอย่างมีคุณภาพของพ่อแม่แบบมั่นคง ส่งผลให้ลูกเป็นเด็กที่กล้าแสดงออก มีความพร้อมในการเรียนรู้ มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี และมีพื้นฐานทางอารมณ์และจิตใจที่มั่นคง
พ่อแม่แบบนี้ คือ พ่อแม่ที่ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลในการลี้ยงดูลูก ไม่มีการวางกฎระเบียบที่แน่นอน เช่น ถ้าวันไหนพ่อแม่อารมณ์ดี ก็จะตามใจลูกมาก ๆ มากเป็นพิเศษ แต่ถ้าวันไหนอารมณ์ไม่ดี ลูกทำอะไรไม่ถูกใจ ก็จะลงโทษ พ่อแม่เช่นนี้ขาดความชัดเจนและความสม่ำเสมอในการสร้างเงื่อนไขกับลูก เด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ในลักษณะแบบนี้ จะเป็นเด็กที่มีความรู้สึกวิตกกังวล ขาดความมั่นใจ เพราะรู้สึกไม่มั่นคงต่อความรักของพ่อแม่
พ่อแม่ขี้กังวล ที่สร้างเงื่อนไขและกฎเกณฑ์กับลูกในทุก ๆ เรื่อง จะส่งผลให้ลูกไม่อยากอยู่ใกล้พ่อแม่ พยายามหลีกเลี่ยงพ่อแม่ เพราะรู้สึกไม่สบายใจ และกังวลว่าจะถูกพ่อแม่จับผิด กลายเป็นลูกจะพยายามเข้าหาคนอื่นที่แสดงความสนใจต่อตัวเขามากกว่าแทน เด็กที่ถูกเลี้ยงดูโดยพ่อแม่แบบนี้ จึงมักถูกชักจูงจากคนอื่นได้โดยง่าย
เด็กที่อยู่ในครอบครัวลักษณะนี้มักถูกทอดทิ้ง และถูกทำร้ายทางร่างกายและจิตใจ พ่อแม่ในลักษณะนี้เป็นกลุ่มที่ขาดทั้งการควบคุมทางอารมณ์ตนเอง ขาดความรับผิดชอบในการดูแลลูก ส่งผลให้เด็กที่อยู่ในครอบครัวลักษณะแบบนี้จะไม่แสดงพฤติกรรมความผูกพันหรือความรักต่อบุคคลหรือสิ่งใด ๆ เลย เด็กจะเฉยเมย และมีลักษณะหลีกหนีสังคม ขาดความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่น
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.