วันนี้เราจะมาดูกันนะคะว่า “ครอบครัว” แบบไหน ที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกได้
เพราะการแสดงความรักต่อกัน เปรียบเสมือนการสร้างกำลังใจ และเติมเต็มความรู้สึกดี ๆ ให้แก่กัน ไม่ว่าจะเป็นการชมเชยแม้ในเรื่องเล็กน้อย กอดให้กำลังใจลูกในยามที่เขารู้สึกอ่อนแอ ไม่มั่นคง หรือแม้แต่การพูดถึงกันและกันในเรื่องดี ๆ ไม่เสียดสี ไม่ประชดประชันกัน สิ่งเหล่านี้จะช่วยหล่อหลอมให้ลูกมีความมั่นคงในจิตใจ มีความเชื่อมั่น และมีความศรัทธาในตัวเอง
“ความใส่ใจ” ที่มีให้กันภายในครอบครัวนั้น จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันทางใจให้กับลูก เมื่อพ่อแม่มีความใส่ใจ เข้าใจ ให้คำปรึกษา และสามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกได้ จะทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองมีความมั่นคง และไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น เขาจะสามารถรับมือกับปัญหาเหล่านั้นได้ เพราะมีแรงใจและแรงผลักดันจากคนในครอบครัวเป็นกำลังเสริมนั่นเอง
“ความเชื่อมั่น” ของลูก มาจาก “ความเชื่อใจ” ของพ่อแม่ พ่อแม่ต้องแสดงให้ลูกเห็นว่า พ่อแม่มีความเชื่อมั่น และไว้วางใจลูกมากแค่ไหน พ่อแม่ควรให้เสรีภาพ ให้โอกาสลูกได้คิด ได้พูด ได้ตัดสินใจในสิ่งที่ลูกต้องการ บนพื้นฐานของเหตุผล และไม่ใช้อารมณ์ ในบางครั้งหากพ่อแม่เห็นว่าสิ่งที่ลูกกำลังทำอยู่นั้นไม่ดี ไม่เหมาะสม แทนที่จะห้าม หรือดุด่าด้วยอารมณ์ ลองเปลี่ยนเป็นการพูดคุย หรือซักถามลูกด้วยเหตุผล ว่าทำไมลูกถึงทำแบบนั้น ลูกรู้หรือเปล่าว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นไม่ดี เพราะในบางครั้งการที่ลูกทำผิดพลาดในเรื่องบางเรื่อง อาจไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ แต่เกิดจากการขาดประสบการณ์ในเรื่องนั้น ๆ
เคล็ดลับสำคัญของการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูก ก็คือ พ่อแม่จะต้องพูดให้น้อย และฟังลูกให้เยอะขึ้น การที่พ่อแม่พูดมาก พูดเยอะ บ่นลูกไปเรื่อยเปื่อย นอกจากจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แล้ว ยังสร้างความรำคาญ ทำให้ลูกไม่เกิดการเรียนรู้ และขาดความกระตือรือร้น สุดท้ายลูกจะกลายเป็นเด็กขี้กลัว ไม่กล้าตัดสินใจอะไรเลย ไม่ว่าจะเรื่องใหญ่ หรือเรื่องเล็ก
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.