จำข่าวที่สาวจีนส่งหัวหอม 1 ตันไปที่บ้านแฟนเก่าเพราะแค้นที่ฝ่ายชายขอเลิก พร้อมโน้ตที่ว่า "ฉันร้องไห้มา 3 วันแล้ว ตอนนี้ถึงตานายบ้าง" ได้ไหม ? ถ้าเป็นช่วงปกติสาวจีนคนนี้คงได้เดินไปทุบฝ่ายชายให้หายแค้น แต่เพราะเป็นช่วงที่ COVID-19 ระบาด เธอจึงทำได้แค่ส่งหัวหอม 1 ตันไปที่บ้านแฟนเก่า หวังว่าเขาจะเสียน้ำตาอย่างที่เธอเสียไปบ้าง !  ในขณะเดียวกันก็มีวัยรุ่นคู่หนึ่งในอเมริกาที่จีบกันผ่านโดรน โดยฝ่ายชายได้ขับโดรนส่งจดหมายรัก ขนม ของขวัญน่ารัก ๆ ไปให้ฝ่ายหญิงที่หน้าบ้านทุกวันจนทั้งคู่ตกลงเป็นแฟนกันในที่สุด 

COVID-19 ทำให้ทั้งการบอกเลิกและการจีบกันเปลี่ยนไปมาก โซเชียลมีเดียอย่างแอปต่าง ๆ เช่น Facebook Messenger, IG story, Snapchat, LINE หรือ TikTok ได้กลายมาเป็นเครื่องมือให้วัยรุ่นได้จีบกันแทนการพบหน้าแล้วส่งสายตาปิ๊ง ๆ เพราะเราไม่สามารถออกไปจีบกันได้เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว แต่สามารถแต่งตัวดี ๆ แล้วถ่ายรูปลงโซเชียลเรียกเรตติ้งแทน เพราะจะให้นั่งเหี่ยวอยู่บ้านก็ไม่ได้ COVID-19 ก็กลัว แต่แฟนก็ต้องหา เรื่องของหัวใจมันรอกันได้ที่ไหน มาดูกันว่าถ้าจะจีบใครในช่วงโรคระบาด เราต้องทำยังไงถึงจะสำเร็จ พร้อมประกาศตัวแฟนหลัง COVID is over! 

ทักแชทแทนการสบตา 

ขนาดสถานการณ์ปกติสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘แฟน’ ก็เป็นสิ่งที่หายากมาก ๆ อยู่แล้ว พอมาเป็นช่วงโรคระบาดก็ยิ่งทำให้คนโสดไม่มีโอกาสที่จะไปพบปะผู้คน ไปเจอสังคมและคนใหม่ ๆ เลย ดังนั้นส่วนใหญ่ก็จะหันไปจีบกันผ่านทางออนไลน์แทน

เราอาจจะมีคนที่ชอบในโซเชียลอยู่แล้ว หรือเห็นทวีตในทวิตเตอร์แล้วชอบ ปัดเลือกกันทั้งคู่ในทินเดอร์ แอปหาคู่ต่าง ๆ ติดตามกันอยู่แล้วในโซเชียล หรืออาจถูกใจเพราะโพสต์ของอีกฝ่ายเด้งขึ้นมาใน News Feed ที่เกิดจากการมีเพื่อนร่วมกัน ถ้ารู้สึกว่าชอบก็ลุย คิดซะว่าการทักแชทก็เหมือนการเดินเข้าไปทักทายในสถานการณ์ปกติ 

• ส่องให้แน่ใจว่าเขาโสดจริง ๆ   
• แอดเฟรนด์ไป เริ่มกดไลก์ให้รู้ว่าชอบ 
• ทักแชทไปแนะนำตัวเอง เริ่มทำความรู้จักกันอย่างมีมารยาท  

จีบ จีบ จีบ

มันคือช่วงแห่งการแชท ทำความรู้จักกันหรือที่เราเรียกว่าเริ่มจีบนั่นแหละ ช่วงที่เราขอเบอร์เขามาแล้ว และจะต้องทักไปทักทาย จะต้องหยอด เล่นมุกเสี่ยวให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเราน่าสนใจให้ได้ แต่ก็ต้องระวังเพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่จะบอกได้ว่า เราจะได้ไปต่อ หรือกินแห้ว โดนเท

เราอาจจะเข้าไปส่องเขามาก่อนเพื่อจะได้รู้จักเขามากขึ้นจาก โปรไฟล์ สถานที่ที่เขาไปบ่อย ๆ สิ่งที่เขาชอบแชร์ มีเพื่อนร่วมเป็นใคร (Mutual Friend) ความสนใจของเขาส่วนใหญ่ก็จะโชว์ให้เห็นผ่านไทม์ไลน์นั่นแหละ ก็เน้นทำความรู้จักกันให้ได้มากที่สุด 

เดทกันผ่านวิดีโอคอลแทนการดูหนังในโรง 

หลังจากรู้จักกันแล้ว รู้สึกว่าอีกฝ่ายเขาก็ดูสนใจเรา ต่อไปก็ต้องเป็นการศึกษากันด้วยการออกเดทแรก แต่เพราะออกไปไหนไม่ค่อยสะดวก เดทแรกในช่วงโรคระบาดก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นการโทรคุยกัน หรือวิดีโอคอลกันแทน ส่วนใครที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มคุยอะไรดี แต่อยากรู้จักกันมากขึ้นจริง ๆ แนะนำให้อ่านบทความ >> อยากมีแฟนต้องร่ายคาถาบทไหน...ลอง 36 คำถามที่จะทำให้คนตกหลุมรักกัน แต่ถ้าเราเสนอว่าอยากคอลแต่อีกฝ่ายไม่พร้อมก็ต้องรอให้เขาพร้อม ไม่ต้องเร่งนะ

คำแนะนำในช่วงนี้ก็คือ ศึกษากันให้มากที่สุดว่าเข้ากันได้ไหม พอคุยกันแบบเห็นหน้าแล้วชอบกันมากกว่าเดิม หรือว่าคุยกันแล้วเราไม่ได้ชอบเขาขนาดนั้น เขาเป็นคนทึ่มหรือเปล่า เป็นคนจิตใจดีไหม ทัศนคติดีหรือว่าแย่ ให้คุยกันโดยที่ไม่ต้องฝืนหรือเฟค ให้เป็นตัวของตัวเอง ถ้าใช่ก็ไปต่อ แต่ถ้าไม่ใช่ก็วินวินกันทั้งคู่ แยกย้ายไปหาคนใหม่ที่ใช่ดีกว่า 

พักจากจอ ออกมาจ้องตา 

หลังจากเดทแรกด้วยการโทรคุยกัน วิดีโอคอลหากันพอสมควรแล้ว เขายังอยากคุยกับเราต่อ ก็ถือเป็นลางดีว่าเราเริ่มจีบเขาติดแล้ว แต่อาจจะเป็นไปได้ทั้งเริ่มตกหลุมรัก แอบรักข้างเดียว หรือทั้งสองฝ่ายแอบรักกันแต่ก็ยังไม่รู้ใจของอีกฝ่ายว่าเขาคิดกับเรายังไง ดังนั้นเราต้องทำให้เขารู้ว่าเราคิดกับเขายังไง

ให้เริ่มเสนอหน้าเข้าไปในโลกของเขา เช่น เริ่มตอบโพสต์เขาในเฟซบุ๊ก, เริ่มคอมเมนต์ให้กัน, เริ่มพูดถึงกันในโซเชียล, แท็กกันในสตอรี่, เต้นชาเลนจ์คู่กันใน TikTok, โทรศัพท์คุยกันก่อนนอนทุกคืน, มีการแวะไปหาบ้างถ้าใครอยู่โรงเรียนเดียวกัน หรืออยู่บ้านใกล้กัน, ทำเซอร์ไพรส์ให้ ส่งของขวัญไปให้ที่บ้าน ซื้อขนมไปฝาก ทำการ์ดให้ หรือทำให้อีกฝ่ายรู้สึกถึงความมีตัวตน ความสนิทสนมทางกาย ไม่ใช่แค่เห็นกันในออนไลน์เท่านั้น เพราะรักจะเกิดมันต้องมองตาด้วย ไม่ใช่มองจออย่างเดียว 

In relationship with กำลังคบอยู่กับ… 

หลังจากที่ไปเปิดตัวในโลกของอีกฝ่ายแล้ว เราก็ต้องให้เหตุผลว่าเราทำแบบนั้นไปทำไม หลายคนจะพลาดในสเต็ปนี้กันเยอะ เพราะไม่ยอมให้อีกฝ่ายรู้ความต้องการของตัวเอง เราต้องรีบหงายการ์ดว่าเราอยากคบกับเขาเป็นแฟนเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสับสน เพราะเมื่อเราเข้าไปมีตัวตนในโลกของเขาแล้ว เขาจะเริ่มอยากได้ความชัดเจนที่แน่นอน และมันต้องออกมาจากปากของเรา ไม่ใช่ปล่อยให้เขาคิดไปเอง

ถามว่าเขาอยากคบกับเราไหม อยากคบกันจริงจังไหม หรือว่าคุยกันแก้เหงาเฉย ๆ เขายังลืมแฟนเก่าไม่ได้หรือเปล่า อยากพัฒนาความสัมพันธ์ไปเป็นแฟนกันไหม หรือว่ายังไม่พร้อม อยากคุยกันไปเรื่อย ๆ ก่อน เพื่อให้ทั้งเราและเขาเข้าใจตรงกันและไม่เจ็บทีหลัง แต่ถ้าเขาตอบตกลงอยากคบด้วยก็ยินดีด้วยจ้า ไม่โสดแล้ว !  

อ่านมาถึงตรงนี้มันดูเหมือนง่ายนะ แต่เราก็รู้ว่าการจะคบใครสักคนเป็นแฟนมันยาก ยิ่งในช่วง COVID-19 ด้วยแล้วมันยิ่งไม่ง่าย แต่เชื่อว่าถ้าหากสามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ ความรักของทั้งคู่ก็จะแข็งแกร่งมาก เพราะที่มันน่ากลัวกว่า COVID-19 ก็คือกลัวเธอไม่คิดอะไรด้วยมากกว่าน่ะซิ...

แหล่งข้อมูล
Love Actually | ทฤษฎีการจีบ 4 ขั้นของความรักยุคโซเชียลมีเดีย