เป็นเรื่องธรรมดา ที่คุณพ่อคุณแม่ย่อมอยากให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการศึกษา แน่นอนว่า โรงเรียนที่ค่าเทอมสูงอาจจะไม่ได้ดีกว่าโรงเรียนที่ค่าเทอมไม่สูงเสมอไป แต่ก็ต้องยอมรับว่า โรงเรียนที่มีคุณภาพหลายแห่ง ก็ตามมาด้วยค่าเทอมที่สูงปรี๊ดเช่นกัน คุณพ่อคุณแม่จึงต้องวางแผนการเงินเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และนี่คือคำแนะนำของเรา

1. วางแผนเลือกโรงเรียนเอาไว้ตั้งแต่ลูกยังเล็ก

หรือบางคนอาจเริ่มวางแผนตั้งแต่ลูกยังอยู่ในท้องเลยก็ได้ เหตุผลที่เราอยากให้คุณพ่อคุณแม่เริ่มวางแผนเลือกโรงเรียนของลูกเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็เพื่อที่คุณพ่อคุณแม่จะได้มีเป้าหมาย ประมาณราคาค่าเทอมได้ถูก และเริ่มต้นวางแผนการเงินได้ทันท่วงที โดยอาจทำตารางเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละโรงเรียน รวมทั้งค่าเทอมของโรงเรียนนั้น ๆ ด้วย

อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมบวกค่าเทอมของลูกตามอัตราเงินเฟ้อ 3% จนถึงปีที่ลูกเข้าเรียนด้วยนะคะ เป็นการวางแผนแบบคร่าว ๆ ค่ะ

2. เก็บเงินอย่างฉลาด

หลังจากมีเป้าหมายชัดเจนแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็อาจเลือกเก็บออมเงินเพื่อเป็นค่าเรียนของลูก สำหรับวิธีเก็บออม เราขอแนะนำดังนี้ค่ะ

- การออมระยะสั้น เช่น สลากออมสิน ลงทุนในหุ้น หรือพันธบัตรรัฐบาล เหมาะสำหรับใช้จ่ายค่าเทอมลูกในวัยอนุบาล ซึ่งอาจต้องใช้เงินก้อนนี้ก่อน

- การออมระยะกลาง เช่น กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะยาว หรือกองทุนรวมหุ้น เป็นเงินก้อนสำหรับส่งลูกเรียนระดับประถม

- การออมระยะยาว เช่น การลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง เป็นเงินที่ใช้ส่งลูกเรียนระดับมหาวิทยาลัย เพราะคุณพ่อคุณแม่ยังมีเวลาสำหรับแก้ไข หากการลงทุนนั้นผิดพลาด

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ห้ามลืมเลยก็คือ คุณพ่อคุณแม่ต้องมีเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินเอาไว้อย่างน้อย 6 เดือนด้วยนะคะ รวมทั้งมีการทำประกันเผื่อเหตุไม่คาดฝันต่าง ๆ เอาไว้ให้เรียบร้อย เพื่อความปลอดภัยค่ะ

อ่านบทความเกี่ยวกับประกันของลูกเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> ประกันสำหรับเด็ก จำเป็นแค่ไหน ควรทำมั้ย ?

การลงทุนเพื่อการศึกษาของลูกนั้นเป็นสิ่งที่คุ้มค่า คุณอาจเหนื่อยหน่อย แต่เพื่ออนาคตที่ดีของลูก คุณพ่อคุณแม่ก็คงยินดีเหนื่อย แล้วเมื่อลูกเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ ถึงวันนั้นคุณพ่อคุณแม่จะได้ชื่นใจแน่นอนค่ะ