Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

อ่านหนังสือไม่ได้ เอาแต่เล่นมือถือ ระวังเป็นโรค ‘สมาธิสั้นเทียม'

Posted By Plook Magazine | 23 มิ.ย. 63
15,190 Views

  Favorite

ใครเคยอ่านหนังสือแล้วอยู่ ๆ ก็หยิบมือถือมาเล่นบ้าง ? หรือไม่ก็ทำการบ้านอยู่ แต่ก็ชอบเช็กมือถือทั้งที่ไม่ได้มีแจ้งเตือนอะไร ถ้าใครเป็นบ่อย ๆ วอกแวก เบื่อง่าย จดจ่ออะไรนาน ๆ ไม่ได้ อาจเข้าข่ายเป็นโรค ‘สมาธิสั้นเทียม’ มาทำความรู้จักโรคนี้ พร้อมรับมือให้ถูกวิธีเพื่อชีวิตการเรียนที่ดีขึ้นกันดีกว่า

 

 

โรคสมาธิสั้นเทียมคืออะไร   

โรคสมาธิสั้นเทียมมีอาการคล้ายโรคสมาธิสั้นทุกอย่าง แต่ต่างกันที่สาเหตุ เพราะโรคสมาธิสั้นเทียมจะไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของสมองเหมือนโรคสมาธิสั้น แต่เกิดจากพฤติกรรมบางอย่างที่เมื่อทำบ่อย ๆ แล้วจะทำให้เราเสียสมาธิในระยะยาว ไวต่อสิ่งเร้าที่เป็นเทคโนโลยีและวอกแวกง่าย เช่น 
 

• ความเร่งรีบ โดยเฉพาะคนที่โตมากับสภาพแวดล้อมในเมืองที่ต้องแข่งขันกับเวลา ต้องรีบอยู่ตลอดเวลา จนไม่มีเวลาได้หยุดคิดหรือใช้ชีวิตปกติ เมื่อต้องทำทุกอย่างแข่งกับเวลาอยู่ทุกวันโดยที่พัฒนาการของเรายังไม่พร้อม จึงส่งผลให้อาจมีอาการขี้ลืม เหม่อลอย เช่น หามือถือแทบตายว่าอยู่ไหนทั้งที่ถือมือถืออยู่ในมือตัวเอง เป็นต้น 
 

• เทคโนโลยี ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และอินเตอร์เน็ต เนื่องจากมือถือมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เด้งแจ้งเตือนเราอยู่ทุกนาที แสงสีฟ้าจากหน้าจอที่จะไปทำลายสมองส่วนหน้าที่ทำหน้าที่ในส่วนของความจำ ความรวดเร็วที่เสิร์ชอะไร เมื่อไหร่ก็เจอในเวลาเพียงไม่กี่นาที ทำให้เราไม่ชินกับการจดจ่อหรือทำอะไรนาน ๆ ไม่ค่อยได้เมื่อต้องกลับสู่ชีวิตจริงที่ต้องอาศัยเวลาหรือทำตามลำดับขั้นตอน  


 

วิธีแก้โรคสมาธิสั้นเทียมเวลาอ่านหนังสือ

ข่าวดีก็คือ โรคสมาธิสั้นเทียมนี้รักษาหายได้ โดยการค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกกรรมทีละน้อย ดังนี้ 
 

• เมื่อกลับถึงบ้านอย่าเพิ่งเล่นมือถือ อย่ารีบวิ่งไปเปิดคอม ดูทีวีหรือเล่นเกมโดยทันที แต่ให้เก็บของให้เรียบร้อย ทำความสะอาดร่างกาย หรือจะกินข้าวก่อนก็ได้ และควรทำแบบนี้ทุกวัน ทำให้สม่ำเสมอตามเวลาที่กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาตื่นนอน เวลากินข้าว อาบน้ำ ไปโรงเรียน ทำการบ้าน หรือเข้านอน ก็ต้องทำให้เป็นเวลา แล้วอาการสมาธิสั้นเทียมนี้จะค่อย ๆ หายไป
 

• ฝึกโฟกัสให้ได้นาน ๆ  ธรรมชาติของคนเราจะสามารถโฟกัสได้อย่างเก่งอยู่ที่ 50 นาที เราอาจจะอ่านหนังสือ 30-50 นาที แล้วพักเล่นมือถือ 10 นาทีก็ได้ ทำอย่างนี้วันละ 3-4 รอบ แต่ต้องทำทุกวัน ทำอย่างสม่ำเสมอ ห้ามมีวันไหนทำไม่ครบหรือไม่ทำเลย ไม่อย่างนั้นจะกลับไปสมาธิสั้นเทียมมากกว่าเดิม 

 เผลอปุ๊บต้องจับโทรศัพท์ ลองเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นแทน เช่น อ่านนิยาย จัดบ้าน เล่นกับหมา ปลูกผักกับพ่อ เปลี่ยนไปลองทำกิจกรรมอื่นที่ทำให้เราโฟกัสกับมือถือน้อยลง ต่อไปสมองก็จะเริ่มชิน ไม่อยากหยิบมือถือขึ้นมาเช็กตลอดเวลาแล้ว
 

• ใช้แอปเป็นตัวช่วยในการอ่านหนังสือ เป็นการใช้แอปเพื่อช่วยให้เราโฟกัสกับการอ่านหนังสือให้ได้นานมากขึ้น กำจัดสิ่งเร้า เพิ่มบรรยากาศให้เหมาะกับการเรียนรู้และกระตุ้นให้เราอยากอ่านหนังสือ เช่น 

Forest แอปคิ้วท์ ๆ ที่จะช่วยให้เราคอนเนคกับธรรมชาติ เมื่อเราตั้งเวลาว่าจะไม่เล่นมือถือ ต้นไม้จะเริ่มถูกปลูกโดยอัตโนมัติไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าเราออกจากแอปต้นไม้เราจะไม่โต ต้องเริ่มต้นใหม่ ปลูกไปเรื่อย ๆ ถ้าเราทำตามเวลาได้ครบโดยไม่เล่นมือถือเลย เราจะได้เงินตอบแทนมาด้วยนะ  

Focus Timer แอปที่ต้องคว่ำหน้าจอโทรศัพท์เท่านั้นถึงจะจับเวลาให้ เหมาะกับคนที่ติดมือถือ แต่ไม่มาก ยังพอมีสมาธิดีอยู่

Flipd เป็นแอปที่เด็ดขาดมาก เหมาะกับคนที่ติดมือถือสุด ๆ แอปนี้เมื่อเราตั้งเวลาแบบ Full ปุ๊บ แอปจะทำการลบแอปทั้งหมดในมือถือของเรา ทั้งเกม และ social ต่าง ๆ หมดเกลี้ยง แม้แต่การค้นในกูเกิลก็จะไม่มี แต่เมื่อเราอ่านครบเวลาที่ตั้งไว้แล้ว แอปทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิม ข้อมูลต่าง ๆ จะไม่หายไปไหนจ้า โหดสุด ๆ 


 

 

แหล่งข้อมูล
ทำไมเด็กสมัยนี้ถึงเป็น “สมาธิสั้นเทียม”กันมากขึ้น 

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Magazine
  • 3 Followers
  • Follow