ก่อนอื่น คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ทำตัวเป็นผู้พิพากษาว่าใครผิดใครถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกอิจฉากัน หรือชิงดีชิงเด่นกัน
หากลูกทะเลาะถึงขั้นทำร้ายร่างกายกัน ให้คุณพ่อคุณแม่จับลูกแยกกันก่อน เพื่อให้อารมณ์ของลูกสงบลง โดยธรรมชาติ เด็กอาจจะยังมี EF การควบคุมอารมณ์ไม่ดีนัก เพราะพัฒนาการสมองของยังไม่เจริญเต็มที่ การจับพี่น้องแยกกันก่อน จึงป็นวิธีที่ช่วยให้เด็ก ๆ สงบลงได้
หลังจากเด็ก ๆ อารมณ์สงบลงแล้ว คุณพ่อคุณแม่ค่อยหาวิธีคุยกับลูกแต่ละคน โดยใช้วิธีพูดคุยอย่างเข้าใจไม่ใช่ตำหนิ เช่น บอกกับลูกว่า “แม่เข้าใจจ้ะว่าลูกโมโหที่น้องทำของเล่นของลูกพัง” เพื่อสะท้อนอารมณ์ให้เขาเข้าใจว่า เขากำลังรู้สึกอย่างไร จากนั้นค่อยแนะนำการแก้ปัญหา เช่น “แต่เวลาลูกโมโห ลูกไม่ควรทำร้ายน้อง คราวหน้าถ้ามีปัญหา ลองมาคุยกับแม่ก่อนนะคะ”
นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักพูดขอโทษอีกฝ่าย เช่น สอนให้น้องขอโทษที่ทำของเล่นของพี่พัง ที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่พูดเปรียบเทียบลูก หรือสอนให้ลูกแข่งขันกัน แต่ควรสอนให้ลูกช่วยเหลือกันจะดีกว่า
นอกจากนี้ในช่วงเวลาปกติ คุณพ่อคุณแม่ควรเลี้ยงลูกในเชิงบวก โดยพยายามชื่นชมเมื่อลูกรักและดูแลกัน ชื่นชมความคิด หรือสิ่งที่เขาทำเพื่อให้เขามั่นใจในตัวตนและศักยภาพของตัวเอง และสอนให้ลูกสื่อสารอารมณ์ของตนเองออกมาให้ได้อย่างเหมาะสม เช่น สอนให้ลูกรู้จักทักษะการควบคุมอารมณ์ เป็นต้น