จากวันที่ 16 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม นั้น กินเวลาถึงเดือนกว่า ๆ และถ้าสถานการณ์การแพร่ระบาดนี้ มีแนวโน้มที่จะแย่ลง ก็อาจมีการพิจารณาให้เลื่อนเปิดเทอมออกไปอีก ซึ่งมาตรการนี้นับว่าเป็นมาตรการที่ส่งผลกระทบกับการศึกษาและส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษาในหลาย ๆ มิติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นนั้น ผู้เขียนได้อธิบายแยกเป็นส่วน คือ ส่วนของผลกระทบที่จะเกิดกับผู้เรียน ผลกระทบที่จะเกิดกับครูผู้สอน และผลกระทบที่จะเกิดกับผู้ปกครอง ไว้ดังนี้
แน่นอนว่า การเลื่อนการเปิดเทอมออกไปนั้นส่งผลกระทบต่อเวลาเรียนของนักเรียนทำให้นักเรียนจะต้องเรียนหนักและใช้เวลามากขึ้นในแต่ละสัปดาห์ เพื่อเรียนให้ทันตามหลักสูตร เพราะถึงแม้ว่าจะมีการนำการเรียนการสอนออนไลน์มาช่วยในการแก้ไขปัญหา แต่อย่าลืมการเรียนการสอนออนไลน์นั้นเป็นเพียงการเยียวยา ซึ่งยังไม่ได้ดำเนินการอย่างเหมาะสมหรือสนับสนุนให้ใช้แนวทางนี้กันอย่างจริงจัง ทำให้เรายังไม่มีการจัดเตรียมหลักสูตร อบรมครูผู้สอน พัฒนาบทเรียนออนไลน์ให้มีความหลากหลายและสอดคล้องกับผู้เรียนแต่ละระดับ รวมไปถึงการสนับสนุนทรัพยากรออนไลน์ให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงบทเรียนออนไลน์ได้อย่างเพียงพอและเสมอภาค จึงเป็นเรื่องท้าทายอย่างมากในการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ให้สัมฤทธิ์ผล
สำหรับนักเรียนในชั้นเด็กเล็ก ในช่วงระดับอนุบาลและประถมศึกษาตอนต้น การให้นักเรียนในวัยดังกล่าวเรียนรู้ผ่านการเรียนการสอนออนไลน์ได้อย่างเหมาะสมนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก หรือจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะมีงานวิจัยหลายแห่งชี้ชัดว่า สำหรับนักเรียนในวัยดังกล่าว การเรียนผ่านหน้าจอของอุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ นั้น จะส่งผลเสียต่อตัวผู้เรียนอย่างมาก ถ้าไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ซึ่งถ้าผู้ปกครองไม่มีเวลา หรือไม่มีทักษะความรู้ในด้านเทคโนโลยีก็เป็นเรื่องยากในการบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้เรียน
นอกจากนี้ ปัญหาอีกอย่างหนึ่งคือเรื่องของการเตรียมตัวเพื่อเลื่อนระดับในรอยต่อของการศึกษา เช่น จากชั้นอนุบาลไปชั้นประถมศึกษา จากประถมศึกษาไปสู่ระดับมัธยมศึกษา หรือ จากระดับมัธยมศึกษาไปสู่ระดับมหาวิทยาลัย ล้วนเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ต้องมีการระยะเวลาและขั้นตอนในการเตรียมตัวพอสมควร ซึ่งการเลื่อนเปิดเทอมนั้นทำให้ผู้เรียนมีเวลาในการเตรียมตัวน้อย เพราะจะต้องใช้เวลากับการเรียนในระบบเพื่อชดเชยเวลาเรียนจากที่เลื่อนเปิดเทอม ซึ่งอาจจะทำให้พลาดโอกาสเข้าเรียนในสถาบันหรือสถานศึกษาที่ได้ตั้งความหวังไว้ได้
ต้องยอมรับว่าครูผู้สอนในประเทศไทยส่วนใหญ่ ไม่ได้ถูกฝึกอบรมหรือเตรียมความพร้อมเพื่อการจัดเรียนการสอนออนไลน์ และถึงแม้ว่าจะมีทักษะในการผลิตสื่อโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์อยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพื่อสื่อการเรียนรู้เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนตามปกติเท่านั้น ซึ่งจุดอ่อนตรงนี้นับเป็นปัญหาใหญ่ในการส่งเสริมการเรียนรู้แบบออนไลน์ เพราะในความเป็นจริง การเตรียมครูผู้สอนเพื่อตอบสนองกับการจัดการเรียนรู้แบบออนไลน์นั้น จะต้องมีการเตรียมการกันมานานพอสมควร และควรเริ่มมีการดำเนินการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์เป็นต้นแบบให้กับโรงเรียนต่าง ๆ ได้แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างมากที่ แม้ว่าประเทศไทยจะมีการตื่นตัว ในเรื่องของการพัฒนาในศตวรรษที่ 21 แต่ในแนวทางปฏิบัติในเรื่องของการเรียนการสอนนั้น กลับยังคงใช้แนวทางในระบบเดิม ซึ่งไม่สอดคล้องกับแนวทางการเรียนรู้ในสมัยใหม่ และเมื่อสถานการณ์นี้ทำให้จำเป็นต้องใช้การเรียนการสอนออนไลน์ ความไม่พร้อมของครูผู้สอนจึงเป็นปัญหาที่ใหญ่ในการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์
นอกจากนี้ การเลื่อนเปิดเทอมส่งผลกระทบอย่างยิ่งกับการทำผลงานทางวิชาการเพื่อขอเลื่อนวิทยฐานะของครูผู้สอน เพราะทำให้ระยะเวลาในทำผลงานคลาดเคลื่อนและไม่อาจทำให้เสร็จสิ้นตามระยะเวลาที่กำหนดได้ เพราะเมื่อไม่มีผู้เรียนการทำผลงานทางวิชาการที่จำเป็นต้องดำเนินการกับผู้เรียนก็ไม่สามารถดำเนินการได้ จึงอาจทำให้ครูผู้สอนที่กำลังดำเนินการในการทำวิทยฐานะในปีนี้เสียประโยชน์อีกด้วย
ผลของการเลื่อนเปิดภาคเรียนนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบแต่เฉพาะผู้เรียนหรือตัวครูผู้สอนเท่านั้น เพราะในส่วนของผู้ปกครองก็เป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ปกครองของผู้เรียนในชั้นอนุบาลและประถมศึกษา ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด
การเลื่อนเปิดภาคเรียน ส่งผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้กับผู้ปกครอง เพราะจะต้องจัดสรรเวลาและทรัพยากรในการเลี้ยงดูบุตรหลานในช่วงที่โรงเรียนยังไม่เปิดภาคเรียนที่มากขึ้น และบางส่วนยังกระทบกับภาระงานตามปกติอีกด้วย สถานที่ทำงานหลายแห่งอาจสามารถพาเด็กไปได้บ้างบางโอกาส เช่น สถานที่ทำงานที่เป็นออฟฟิศต่าง ๆ แต่บางแห่งก็ไม่สามารถพาเด็กไปได้ เช่น สถานที่ก่อสร้าง หรือ ในโรงงาน เป็นต้น สิ่งนี้กลายเป็นปัญหาใหญ่ในการดูแลบุตรหลานของผู้ปกครอง ซึ่งผู้ปกครองบางส่วนอาจจำเป็นต้องฝากบุตรหลานกับเครือญาติ เพื่อให้ตัวเองสามารถไปปฏิบัติงานตามปกติได้ แต่ผู้ปกครองบางส่วนก็ไม่สามารถฝากบุตรหลานไว้กับคนอื่นได้
ผลกระทบในส่วนนี้ ยิ่งสถานศึกษาเปิดภาคเรียนช้ามากเท่าไหร่ ผลกระทบที่เกิดกับผู้ปกครองก็มีมากขึ้นเท่านั้น เพราะสถานที่ทำงาน แม้บางแห่งจะไม่ได้ห้ามให้นำเด็กมา แต่ถ้าต้องพามาตลอดก็ไม่ใช่แนวทางที่ดีนัก เพราะนอกจากจะรบกวนการทำงานแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่เด็กจะได้รับเชื้อโรคจากภายนอกได้อีกด้วย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ภาครัฐต้องเข้ามาช่วยเหลือหรือสนับสนุนให้ผู้ปกครองสามารถดูแลบุตรหลานในช่วงวิกฤตนี้ได้ เช่น อาจเสนอให้พนักงานที่มีบุตร สามารถทำงานจากที่บ้าน หรือสามารถทำงานวันเว้นวันได้ หรืออาจสนับสนุนให้ในสถานที่ทำงานขนาดใหญ่มีการจัดทำสถานรับเลี้ยงเด็กเฉพาะกิจ เป็นต้น
เรียบเรียงโดย : นรรัชต์ ฝันเชียร